Space Economy หรือ เศรษฐกิจอวกาศนั้นมีความหมายกว้างๆ ถึงกิจกรรมในวงโคจรหรือบนดาวเคราะห์ดวงอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ เราในฐานะคนทั่วไปอาจจะยังไม่รู้จักหรือทราบว่าเทคโนโลยีเหนือพื้นโลกจะสามารถเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการทำงานของเราอย่างไรได้บ้าง บทความนี้พาผู้อ่านทำความเข้าใจและมองขึ้นไปบนฟ้าให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นว่าเศรษฐกิจอวกาศจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกเราในไม่ช้า
ตามรายงานของ Harvard Business Review OECD กำหนดให้ “เศรษฐกิจอวกาศ” คือ กิจกรรมใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับ "การสำรวจ การวิจัย ทำความเข้าใจ การจัดการ และการใช้พื้นที่บนอวกาศ" นอกจากนี้ยังครอบคลุมถึงสินค้าและบริการที่ผลิตในอวกาศเพื่อใช้ในอวกาศอีกด้วย
รู้หรือไม่ 'อวกาศ' เป็นแหล่งบ่มเพาะนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เราเห็นในชีวีตประจำวันมาอย่างยาวนาน การติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านอวกาศก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ภาคอุตุนิยมวิทยา การแพทย์ โทรคมนาคม การขนส่ง การเดินเรือ การบิน การพัฒนาเมือง ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆที่เราใช้กันทุกวันนี้ ภาคอวกาศพิสูจน์ให้เห็นถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเติบโตและประสิทธิภาพในภาคส่วนอื่นๆ มากมาย
หลายคนจะคุ้นชินกับบริการดาวเทียม นอกจากการดูโทรทัศน์รายการโปรดจากต่างประเทศและ GPS หลายคนอาจไม่ทราบว่าดาวเทียมช่วยบริษัทขนาดใหญ่ในการทำงานหลายอย่าง ทั้งการตรวจสอบสินค้าคงคลังในสถานที่ห่างไกล การอนุมัติธุรกรรมบัตรเครดิตทัน การประชุมทางวิดีโอระหว่างประเทศ หรือเมื่อต้องโทรออกระหว่างเที่ยวบินบนเครื่องบินหรือจากพื้นที่ชนบทที่ไม่มีเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ บทบาทของดาวเทียมและพื้นที่อวกาศในกิจกรรมเหล่านี้มักถูกมองข้าม
หากเจาะจงไปที่ความสามารถในการประมวลผลข้อมูลเชิงลึกจากดาวเทียม มีบทบาทอย่างในการจัดการกับความท้าทายทางภูมิศาสตร์ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคมที่ซับซ้อน ซึ่งมักจะมีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากกว่าแหล่งข้อมูลอื่นๆ ยกตัวอย่าง
ปัจจุบันเศรษฐกิจอวกาศนั้นอยู่ในจุดเปลี่ยนในที่สุด กล่าวคือ ไม่ใช่แค่รัฐบาลเท่านั้นที่สามารถส่งจรวดและดาวเทียมขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ บริษัทเอกชนหลายแห่งกำลังลงทุนในโครงการอวกาศ เรียกได้ว่าแสวงหาทุกอย่างตั้งแต่ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ไปจนถึงโอกาสทางธุรกิจที่อาจมีกำไร
ซึ่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ถูกคิดค้นขึ้น ช่วยให้นักบินอวกาศปฏิบัติภารกิจง่ายขึ้น ตามมาด้วยต้นทุนการจัดหาที่ต่ำลง ตามมาด้วยการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆที่ครั้งหนึ่งเคยดูแพงหรือยากเกินไป เช่น ส่วนประกอบเชิงพาณิชย์ที่ผลิตโดยบริษัทเอกชน เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในกระบวนการผลิต Computer-aided design, 3-D printing ถูกลงเข้าถึงง่ายขึ้น รวมถึงดาวเทียมที่ถูกลงยังเปิดโอกาสใช้งานสำหรับองค์กรอื่นๆ อีกมากมาย
ต้นทุนสำหรับการปล่อยจรวดขนาดใหญ่ในวงโคจรต่ำของโลก (LEO) ลดลงจาก 65,000 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัมเป็น 1,500 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัมในปี 2021 ซึ่งลดลงมากกว่า 95%
ปัจจุบันดาวเทียมของรัฐบาลขนาดใหญ่ บางดวงมีราคาสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์และมีแนวโน้มที่จะติดตั้งในวงโคจรที่ห่างไกลจากโลก ปัจจุบันมีจำนวนมากกว่าดาวเทียมเชิงพาณิชย์ขนาดเล็กใน LEO ซึ่งมักติดตั้งในกลุ่มดาวซึ่งอาจมีราคา 100,000 ดอลลาร์หรือน้อยกว่า
แรงดึงดูดของเศรษฐกิจอวกาศไม่อาจหลีกเลี่ยงนักลงทุนหน้าใหม่ๆ ตัวเลขการลงทุนด้านอวกาศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตามรายงาน SPACE FOUNDATION RELEASES THE SPACE REPORT 2022 รายงานว่า เศรษฐกิจอวกาศมีมูลค่าถึง 469 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2021 เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อนหน้า มีการประเมินว่าขณะนี้มี 90 ประเทศที่ปฏิบัติการในอวกาศ บริษัทมากกว่า 10,000 แห่งและนักลงทุนประมาณ 5,000 รายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอวกาศ
จำนวนสตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องกับอวกาศที่ได้รับทุนต่อปีเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าจากปี 2010 โดยในปี 2021 การระดมทุนของภาคเอกชนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอวกาศมีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์และเพิ่มขึ้นประมาณ 10 เท่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
นอกจากนี้จากผลสำรวจยัง ระบุว่า เงินส่วนใหญ่มาจากภาคเอกชนมากกว่าภาครัฐ รายงานระบุ เงินกว่า 224 พันล้านดอลลาร์มาจากผลิตภัณฑ์และบริการที่จัดส่งโดยบริษัทด้านอวกาศ และในส่วนการลงทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐในโครงการอวกาศทั่วโลก เพิ่มขึ้น 19% อินเดียเพิ่มการใช้จ่าย 36% จีนลงทุนเพิ่ม 23% และสหรัฐฯ อัดฉีดอีก 18% สู่กิจการอวกาศ โดยหน่วยงานสาธารณะอย่าง NASA และกระทรวงกลาโหมและชุมชนหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เป็นแหล่งเงินทุนหลัก
แน่นอนว่าเมื่อการลงทุนมากขึ้นได้ผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เราคาดไม่ถึง การลดต้นทุนสำหรับดาวเทียมทำให้นักวิจัยสามารถสร้างเทคโนโลยีใหม่ๆในช่วงที่ผ่านมา โดยในแง่การใช้งานสมัยใหม่ในปัจจุบัน สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทกว้างๆ ได้แก่ Space-for-Earth และ Space-for-Space
แอปพลิเคชันที่ใช้ในกิจกรรมภาคพื้นดิน สามารถโคจรในระดับที่เหมาะสำหรับการสื่อสารแบนด์วิธสูงแต่ความหน่วงต่ำ เพื่อให้การเชื่อมต่อดาวเทียมในกิจกรรมบนพื้นโลก
แอปพลิเคชันที่ใช้ในกิจกรรมที่เกิดขึ้นในวงโคจรเท่านั้น มักจะเป็นภารกิจระยะยาวและใช้ต้นทุนสูงกว่า
ด้วยต้นทุนที่ต่ำลงและการเข้าถึงที่มากขึ้น อวกาศจึงไม่ใช่โดเมนเดียวของบริษัทการบินและอวกาศขนาดใหญ่หรือหน่วยงานสาธารณะที่มีงบประมาณมหาศาลอีกต่อไป ถึงแม้ว่าอนาคตจะมีความท้าทายและอุปสรรคทั้งหลายรออยู่ แต่ศักยภาพของอวกาศก็ยิ่งใหญ่เช่นกัน บางบริษัทกำลังขยายขีดความสามารถด้านพื้นที่ของตนนำร่องการใช้งานที่เป็นนวัตกรรม ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าพวกเขาอาจกลายเป็นผู้นำก่อนใคร
ในอนาคตศักยภาพในการใช้นำเทคโนโลยีอวกาศนั้นเต็มไปด้วยโอกาสมากมาย ปฏิบัติการในวงโคจรทั้งหมด เช่น การบริการในวงโคจร การวิจัยและพัฒนาและการผลิตนวัตกรรมที่ใช้งานบนอวกาศจะเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตบนพื้นโลก จะเกิดความร่วมมือระหว่างกัน
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ สมมติว่าบริษัทด้านการบินและอวกาศที่จัดตั้งขึ้นเป็นหุ้นส่วนกับธุรกิจที่แต่เดิมไม่เคยขึ้นสู่วงโคจร เช่น บริษัทเภสัชกรรมอาจสร้างห้องทดลองบนสถานีอวกาศเพื่อศึกษาการเติบโตของเซลล์ หรือบริษัทเซมิคอนดักเตอร์อาจผลิตชิปในโรงงานนอกโลกเพื่อตรวจสอบว่าสภาพแวดล้อมในอวกาศ เช่น การขาดแรงโน้มถ่วงช่วยปรับปรุงกระบวนการหรือไม่ ความเป็นไปได้ดังกล่าว อาจกลายเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจในหลายอุตสาหกรรมในอนาคตอันใกล้นี้ หรืออาจกล่าวได้ว่า เศรษฐกิจอวกาศ จะสร้างมูลค่าสำคัญในอนาคตที่สำคัญเป็นที่แน่นอน
อ้างอิงข้อมูลจาก
How will the space economy change the world?
The space economy is booming. What benefits can it bring to Earth?
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด