‘IBM Power11’ เซิร์ฟเวอร์เจนใหม่ ยกระดับ IT แบบไร้ Downtime สำหรับ AI Workload และยุคควอนตัม

ไม่เกินจริงถ้าจะบอกว่า เราอยู่ในยุค ‘อะไรๆ ก็ AI’ เพราะ AI เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวัน อยู่ในโลกการทำงาน ทั้งยังเป็นโอกาสและความท้าทายในโลกธุรกิจ ดังนั้น เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค AI องค์กรจึงต้องใช้งานเซิร์ฟเวอร์ที่สามารถรัน AI Workload ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในปีที่องค์กรอาจอยู่ระหว่างทางเลือกหรือมีความต้องการหลากหลาย บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง IBM จึงนำเสนอ ‘IBM Power11’ ซีพียูประมวลผลเจเนอเรชันใหม่สุดสำหรับยุค (เปลี่ยนผ่านสู่) AI เพื่อลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะ 

อะไรต้องสนใจก่อนใน IBM Power11

IBM Power11 เป็นเซิร์ฟเวอร์รองรับการใช้งาน AI ได้หลายโมเดล เช่น Enterprise Model, Open Source Model ที่สำคัญ มีโซลูชันที่ช่วยลดการพึ่งพา GPU องค์กรจึงไม่ต้องลงทุนหนัก ๆ ใน GPU แต่ลงทุนได้อย่างคุ้มค่าผ่านการใช้เซิร์ฟเวอร์บนแพลตฟอร์มประมวลผลอัจฉริยะที่ของ IBM Power ซึ่งทำงานแบบ Hybrid Cloud รองรับการทำงานทั้งบน Edge, Core และ Cloud รวมถึง IBM Power Virtual Server บน IBM Cloud 

แน่นอนว่า ซีพียูมีส่วนประกอบที่เป็นฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ในด้านฮาร์ดแวร์ IBM ปรับให้เหมาะกับ AI Workload โดยแยกอุปกรณ์เป็น 2 ส่วน คือ On-chip Accelerator (MMA) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ Integrate เข้ากับ CPU เพื่อลดการพึ่งพา GPU ในการประมวลผล AI ซึ่งมีประมาณ 4 Core ต่อ 1 CPU Core กับ Off-chip Accelerator (Spyre) การ์ด PCIe แยกสำหรับใช้งาน Generative AI ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในเดือนธันวาคมนี้ 

ตัวอย่างการปรับใช้ AI ได้สะดวก เช่น หากลูกค้าองค์กรต้องการพัฒนา AI โดยใช้ Tensorflow หรือ PyTorch ลูกค้าไม่จำเป็นต้องแก้โค้ดใด ๆ ก็สามารถนำโมเดล AI ที่ต้องการมารันบน IBM Power ได้เลย

IBM Power11 ได้ชื่อว่า มีความยืดหยุ่นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยสององค์ประกอบนี้

  • ฟีเจอร์ Zero Planned Downtime

IBM Power11 มีความสามารถและความฉลาดมากในฟีเจอร์ที่เรียกว่า Zero Planned Downtime หรือ ความสามารถในการทำการบำรุงรักษาโดยไม่ต้องหยุดการให้บริการ โดยสามารถทำงานร่วมกับ IBM Concert ซึ่งเป็น AI-Powered IT Operation Platform ที่มีการนำข้อมูลจากระบบของลูกค้ามาวิเคราะห์หาความเชื่อมโยง เพื่อให้ผู้ดูแลระบบสามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดาย และช่วยในการบำรุงรักษาระบบ (Maintenance) ไม่ว่าจะเป็นการอัปเกรด อุดช่องโหว่ แก้ปัญหา หรือเพิ่มคุณสมบัติให้ระบบ (Software Patch) ทำได้โดยไม่ทำให้ระบบหยุดชะงัก มากกว่านั้น ระบบของ IBM ยังช่วยตรวจสอบเพิ่มด้วยว่า ซอฟต์แวร์ที่จะอัปเกรดนั้นเข้ากับฮาร์ดแวร์ที่ลูกค้าองค์กรใช้อยู่หรือไม่ มีช่องโหว่ตรงไหนหรือเปล่า

IBM Power ซัพพอร์ต AI Framework หลากหลาย และใช้หลัก ‘AI at the point of data’ กล่าวคือ นำเอา AI มาเข้าใกล้จุดที่ Data อยู่มากที่สุด ไม่ใช่การนำ Data ออกจากเซิร์ฟเวอร์แล้วไปหา AI เพื่อให้การประมวลผลด้วย AI ทำได้เร็วที่สุดและเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล

ทั้งนี้นอกจากระบบของ IBM Power จะสามารถจัดการ Downtime แบบ Planned Downtime ที่มีเป้าหมายให้ระบบสามารถทำงานได้ต่อเนื่องในระหว่างอัปเกรดระบบ IBM Power ยังมีความสามารถในการป้องกัน Unplanned Downtime หรือกรณีที่เกิดปัญหากับระบบแบบปัจจุบันทันด่วนจากเหตุไม่คาดคิด เช่น Power Supply เสีย โดยระบบได้ถูกออกแบบมาให้มีโครงสร้างแบบ Fully redundant เพื่อให้สามารถทำงานต่อได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งสถาปัตยกรรมของ IBM Power ถูกพัฒนาให้มีความ พร้อมใช้งานสูง (High Availability) ในระดับ 99.9999% Uptime หรือเทียบเท่ากับ Downtime เพียงไม่กี่วินาที

IBM Concert | Source : https://mediacenter.ibm.com

ยกตัวอย่างกรณีที่ต้องมีการอัปเกรดฟีเจอร์สำคัญหรือยกระดับความสามารถหลัก (Major Upgrade) ที่จะทำให้เกิด Downtime แพลตฟอร์ม IBM Concert ก็จะย้าย (Migrate) แอปพลิเคชันที่ต้องการอัปเกรดนั้นไปยังเซิร์ฟเวอร์อื่นชั่วคราว (Live Partition Mobility)โดยอัตโนมัติ เพื่อให้แอปพลิเคชั่นยังคงใช้งานต่อได้ ทั้งยังช่วยเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ลดความเสี่ยงจากภัยคุกคาม และหากผู้ใช้งานระบบจะสั่งอัปเกรดด้วยตัวเองก็ทำได้เช่นกัน 

ตามมาตรฐาน 99.9999% Availability หมายถึงใน 1 ปี มี Downtime เกิดขึ้นรวมแล้วน้อยกว่า 31.5 วินาที

นอกเหนือจากนี้ หากเทียบประสิทธิภาพ Power11 กับ Power 10 รุ่นก่อนหน้า พบว่า Power11 มี CPU Core มากกว่าในรุ่น Entry และ Mid-range และทำสถิติในเรื่อง High Availability ได้ถึง 99.9999% 

แต่หากพิจารณาที่ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม IBM Power11 จะพบว่ามีหลายรุ่น ได้แก่ S1122, L1122, S1124, L1124, E1150 และ E1180 โดย E1180 มีการสำรองข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์มากกว่าหนึ่งเครื่อง (Redundancy) ในทุกองค์ประกอบ และเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุด จึงทำให้ Power11 มีความยืดหยุ่นสูงเป็นประวัติการณ์ 

IBM Power Cyber Vault | Source : https://www.linkedin.com/posts/nathalyreby

  • เทคโนโลยี IBM Power Cyber Vault 

อีกจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ภายใต้ IBM คือ มีโซลูชัน IBM Power Cyber Vault เทคโนโลยีตรวจจับภัยไซเบอร์อัตโนมัติซึ่งทำงานร่วมกับ IBM Storage ทำให้การตรวจจับ Ransomware ทำได้ภายใน 1 นาที การตอบสนอง รวมถึงกู้คืนอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วย Verify ข้อมูลที่ต้องการ Backup เพื่อให้มั่นใจว่าไฟล์ที่จะ Backup ขึ้นระบบนั้นไม่มี Ransomware ปะปน 

ทั้งนี้ IBM Power Cyber Vault เป็นเทคโนโลยีที่ระบุภัยคุกคาม ป้องกัน ตรวจจับ ตอบสนองโดยอัตโนมัติ และกู้คืนจากการโจมตีทางไซเบอร์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งได้มาตรฐานตามกรอบของ NIST นอกจากนี้ยังเป็นเซิร์ฟเวอร์แรกที่พร้อมป้องกันภัยจาก Quantum Computer ในอนาคต 

ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและวัดผลได้

ความสามารถของ IBM Power11 ยังแสดงให้เห็นประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและลดต้นทุนรวม (TCO) ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งทาง IBM ให้ข้อมูลดังนี้

  • IBM Power11 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเขียนโค้ดให้นักพัฒนาถึง 18 เท่า (Used Case ของ MR Williams)

  • ให้ประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงานต่อวัตต์ดีกว่าเซิร์ฟเวอร์ x86 ถึง 2 เท่า (Used Case ของ Infosys Finacle)

  • ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายโซลูชันด้านการชำระเงินรวม 3 ปี ถึง 51% เมื่อเทียบกับการใช้เซิร์ฟเวอร์ x86 (Used Case ของ Infosys Finacle)

  • การบูรณาการ AI และการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการต่าง ๆ เพิ่มขึ้น 5 เท่าเมื่ออินทิเกรต AI เข้ากับ Workflow องค์กร (Used Case ของ Geis Group)

  • ย้ายข้อมูลไปยัง SAP RISE บน IBM PowerVS เร็วกว่าคลาวด์อื่น ๆ 25% (Used Case ของ GuideWell)

  • ประสิทธิภาพต่อ Core ที่มากกว่าแบรนด์อื่นของ IBM Power11 ช่วยลดค่าใช้จ่าย Software License ได้ตามจำนวน Core ที่ใช้ ทำให้ TCO (Total Cost of Ownership) หรือ ต้นทุนรวมด้านการลงทุนในไอทีขององค์กรลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ด้วยการออกแบบโครงสร้างสถาปัตยกรรมเซิร์ฟเวอร์ให้ทุกส่วนสามารถทำงานประสานกันได้อย่างลื่นไหลเช่นเดียวกับการบรรเลงเพลงของวงออร์เคสตร้า พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางไซเบอร์ จึงยิ่งทำให้ IBM Power11 มีความยืดหยุ่นสูง (Resilience) เป็นประวัติการณ์ ที่สำคัญ ช่วยให้กระบวนการทางธุรกิจขององค์กรเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง และเมื่อไม่สะดุดกลางคัน ก็จะไม่สะเทือนถึงลูกค้าขององค์กรหรือผู้บริโภคซึ่งเป็นผู้รับบริการที่อยู่ปลายทาง

เพิ่มโอกาสความสำเร็จให้องค์กรของคุณ ด้วยพาร์ตเนอร์ผู้เชี่ยวชาญอย่าง G-Able

นอกจากการเลือกใช้ IBM Power 11 เพื่อยกระดับศักยภาพองค์กรของคุณแล้ว การมีพาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่งและพร้อมเดินเคียงข้างตั้งแต่เริ่มต้นจนจบโครงการคือกุญแจสำคัญของความสำเร็จ ซึ่ง G-Able ในฐานะ ‘Tech Enabler’ ผู้ให้บริการดิจิทัลแบบครบวงจร พร้อมสนับสนุนคุณทุกขั้นตอนด้วยความเชี่ยวชาญในโซลูชันของ IBM และทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษาอย่างต่อเนื่องหากเกิดปัญหาใดๆ

ด้วยประสบการณ์ยาวนานและความรู้แบบองค์รวมด้านข้อมูล G-Able พร้อมช่วยวางแผนและขับเคลื่อนโครงการให้เกิดผลลัพธ์จริง พร้อมทั้งเข้าใจความต้องการเฉพาะของธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเงิน การศึกษา โทรคมนาคม และอีกหลายภาคส่วน ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่ากลยุทธ์ที่วางไว้จะเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับทิศทางธุรกิจ

G-Able คือพาร์ตเนอร์สำคัญของ IBM ที่จะช่วยต่อยอดให้โครงการที่เลือกใช้ IBM Power 11 ของคุณประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม

หากสนใจโซลูชัน IBM Power 11 ติดต่อทีมงาน G-Able ได้ที่ [email protected] หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.g-able.com
#IBMPower11 #IBM #G-Able

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

รวมคลื่น Layoff 2025 บิ๊กเทคปลดคนครั้งใหญ่ 300 กว่าวันที่ผ่านมาเจออะไรบ้าง ?

อัปเดตวิกฤต Layoff ปี 2025 ในวงการเทค Intel ปลดกว่า 23,000 คน ตามด้วย Microsoft และ Amazon วิเคราะห์ภาพรวมการลดคนครั้งใหญ่และแนวโน้มตลาดแรงงานยุค AI...

Responsive image

สรุป 17 ดีลใหญ่ AI ที่เกิดขึ้นในปี 2025

สรุปครบ 17 ดีล AI ยักษ์ใหญ่ปี 2025 พร้อมเจาะลึกปม Circular Deals หรือการหมุนเงินลงทุนเป็นวงกลม สัญญาณเตือนฟองสบู่ที่นักลงทุนต้องระวัง...

Responsive image

ทิศทาง Agoda ในยุค AI-First จาก CEO เตรียมปักธงปั้นกรุงเทพฯ เป็น ‘Silicon Valley แห่งเอเชีย’ พร้อมส่องเทรนด์ท่องเที่ยวปี 2026

เจาะลึกวิสัยทัศน์ Agoda 2025 ปั้นกรุงเทพฯ สู่ Silicon Valley แห่งเอเชีย พร้อมเปิดตัวกลยุทธ์ AI-First และ Autonomous Agent ผู้ช่วยอัจฉริยะที่คิดแทนคุณได้ เผยข้อมูล Insight เที่ยวไทย...