ที่ผ่านมากระแสการทำงานแบบออนไลน์และ Digitalization ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ เราได้เห็นการร่วมมือใหม่ ๆ ของธุรกิจระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการต่างเริ่มวางแผนและคิดจะหาผู้ร่วมงานในระดับโลก เพื่อขยายตลาดและเพิ่มขีดความสามารถทางทักษะของพนักงาน รวมถึงพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการให้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ภาษาและวัฒนธรรมก็ดูจะเป็นเหมือนหนึ่งในอุปสรรคที่ทำให้การหาผู้ร่วมงานต่างประเทศเป็นไปได้ยาก ทำให้จำเป็นจะต้องมีเครื่องมือหรือตัวกลางในการเป็นผู้ร่วมค้นหาบริษัทที่น่าเชื่อถือในต่างประเทศ

ครั้งนี้ ICHI ผู้ให้บริการความรู้และ Digital Solution จึงได้นำเสนอหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้สนใจร่วมงานกับบริษัทในญี่ปุ่นด้วยวิธีการค้นหาบริษัทจากรายชื่อบริษัทที่ได้รับการรับรองในระดับประเทศที่จัดโดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้เริ่มโครงการสนับสนุนบริษัท Startup โดยใช้ชื่อว่า “J-Startup” ซึ่งโครงการนี้เป็นการรวบรวม Startup สัญชาติญี่ปุ่นกว่า 10,000 รายที่ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้น และได้รับการรับรองในระดับประเทศ โดยสามารถดูรายชื่อบริษัททั้งหมดได้ใน link นี้

สำหรับวันนี้ทาง ICHI ก็อยากจะแนะนำหนึ่งใน Startup ผู้ร่วมโครงการที่น่าสนใจและสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนรู้จัก

UniFa Inc. Startup สำหรับสถานรับเลี้ยงเด็ก จากโครงการ J-Startup 

UniFa Inc. คือ Startup ที่ทำหน้าที่สนับสนุนในด้าน Digital Transformation สำหรับสถานรับเลี้ยงเด็ก ภายใต้สโลแกน “สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมแบบใหม่ เพื่อสร้างความสุขให้กับครอบครัวทั่วโลก” โดย UniFa Inc. ได้รับการประเมินและได้คะแนนที่สูงด้านการดำเนินการ นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2013 และในปี 2017 จนทำให้บริษัทได้รับรางวัลชนะเลิศจากงาน Startup World Cup ครั้งที่ 1 ซึ่งสนับสนุนโดยบริษัท PEGASUS TECH VENTURES ที่มี Startup จำนวนกว่า 10,000 รายจากทั่วทุกมุมโลกเข้าร่วม และบริษัทนี้ก็ยังเป็นหนึ่งใน Startup ญี่ปุ่นที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลกอีกด้วย

ทาง ICHI ได้พูดคุยกับคุณ Toki Yasuyuki CEO ของ UniFa Inc. โดยคุณ Toki Yasuyuki เล่าว่า สถานรับเลี้ยงเด็กถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ทางบริษัทให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดย UniFa Inc. ได้นำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของสถานรับเลี้ยงเด็ก ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี ICT ที่เอามาใช้ในการติดต่อสื่อสารกับผู้ปกครอง การถ่ายภาพภายในสถานที่ และการดูแลเด็ก ๆ ในระหว่างหลับกลางวัน หรือการใช้แอปพลิเคชันและ IoT เข้ามาช่วยในการดูแลสุขภาพ การใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของร่างกาย และการใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าอีกด้วย ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้แนวคิด “Smart Nursery Kindergarten Childcare Center Idea”

นอกจากดูแลเด็กแล้ว Unifa Inc. ยังเห็นถึงความสำคัญของผู้ดูแลเด็กด้วยเช่น โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างเวลาที่ผ่อนคลายให้กับจิตใจของผู้ดูแลเด็ก รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดภาระงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเด็กอีกด้วย

จากประสบการณ์ตรงของคุณ Toki ที่เคยมีช่วงที่เขาลาออกจากงานเพื่อเอาเวลามาเลี้ยงลูก เพราะการทำงานนอกบ้านทั้งฝ่ายสามีและภรรยานั้นอาจทำให้การเลี้ยงลูกไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ คุณ Toki กล่าวว่า “ผมได้ตัดสินใจที่จะมอบความรักที่ได้รับจากครอบครัวของผมให้กับครอบครัวทั่วโลก และสนับสนุนครอบครัวทั่วโลกครับ ซึ่งนี่เป็นสาเหตุที่มาของการเริ่มต้นธุรกิจนี้ขึ้น”

แก้ทุกปัญหาอย่างครอบคลุม เพื่อยกระดับสถานรับเลี้ยงเด็ก 

ปัจจุบันในประเทศญี่ปุ่น พบปัญหาการขาดแคลนผู้ดูแลเด็กอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีผู้ปกครองจำนวนมากที่มีคำขอให้ผู้ดูแลปรับตารางและช่วยดูแลเด็ก ๆ รวมถึงติดตามกิจกรรมประจำวันของเด็ก ๆ ที่เข้ามาในสถานรับเลี้ยงเด็กอีกด้วย ซึ่งบริการหลักของ UniFa Inc. ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาในสถานรับเลี้ยงเด็กคือ “LookMee” บริการ ICT ที่ครอบคลุมสถานรับเลี้ยงเด็กในทุกด้าน ประกอบด้วย 3 รายการ 12 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งทั้งหมดนี้มีให้ในแบบ All-in-one โดยมีทั้งบริการรูปภาพในสถานดูแลเด็ก บริการด้านสุขภาพอย่างการบันทึกและสร้างกราฟการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย บริการ ICT เพื่อการจัดการข้อมูลทั้งหมด เช่น สมุดติดต่อ แบบฟอร์ม บันทึกการเข้า/ออก ตารางเวร เป็นต้น

สำหรับบริการ LookMee จะช่วยให้ภาระงานของสถานรับเลี้ยงเด็กหลายแห่งลดลง และในบางกรณีช่วยทำให้ภาระงานลดลงถึง 120-130 ชั่วโมง ซึ่งคิดเป็น 65% ของชั่วโมงทำงานต่อเดือน เรียกได้ว่าการใช้บริการนี้จะช่วยสร้างชั่วโมงการทำงานได้เทียบเท่าเหมือนกับได้เจ้าหน้าที่ดูแลเด็กเพิ่มมาใหม่หนึ่งคน

ในด้านการสนับสนุน Digital Transformation ในสถานรับเลี้ยงเด็กที่ UniFa  lnc. ให้บริการนั้นเป็นมากกว่าการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน คุณ Toki กล่าวว่า “การเข้าใจสถานการณ์ของเด็กผ่านวิธีในปัจจุบันและนำดิจิทัลเข้ามาช่วย ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มเวลาให้กับผู้ดูแลและครูเท่านั้น แต่ยังช่วยฟื้นฟูจิตใจและยังนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาในที่สุด” นอกจากนี้การจัดการข้อมูลต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีที่เข้ามาแทนการใช้สมุดบันทึกที่ต้องเขียนด้วยมือและอื่น ๆ ก็มีส่วนในการสนับสนุนความต้องการ “สร้างสังคมที่ไร้การสัมผัส” เพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อของ COVID-19 ได้อีกด้วย

พร้อมเดินหน้าขยายนวัตกรรมในสถานรับเลี้ยงเด็กในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

ปัจจุบันทาง UniFa lnc. มีความสนใจที่จะขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้เริ่มต้นทำการวิจัยตลาดในภูมิภาคนี้ รวมทั้งประเทศไทยแล้ว เพื่อค้นหาจำนวนเด็กและสถานรับเลี้ยงเด็กที่คาดว่าจะมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ในขณะเดียวกันนี้บริษัทยังได้สร้างเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวของร่างกายเพื่อดูแลเด็กระหว่างหลับกลางวัน ที่ได้รับคำขอจากสถานรับเลี้ยงเด็กในสิงคโปร์และมีประวัติในการทดลองสาธิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

คุณ Toki ยังเสริมอีกว่า ทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะให้ความสนใจกับสุขภาพที่ดีและการพัฒนาจินตนาการของเด็ก โดยมองว่าจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาคุณภาพทางการศึกษา ด้วยเหตุนี้ทาง UniFa lnc. จึงกำลังส่งเสริมการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแพลตฟอร์มที่เรากำลังให้บริการอยู่

Unifa Inc. มีเป้าหมายในการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาที่ไม่ได้มีแค่ในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วโลกผ่านธุรกิจและนวัตกรรมของบริษัท ที่ได้มีการดำเนินการนอกเหนือจากในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยในอนาคตอันใกล้ คาดว่าจะปรับสถานที่เหล่านั้นให้มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีมากขึ้น

จากกรณีของ UniFa lnc. 1 ใน Startup ในโครงการ J-Starup เป็นตัวอย่างให้เห็นว่านวัตกรรมและเทคโนโลยีสามารถตอบโจทย์ได้ในทุกบริบทของชีวิต แม้กระทั่งในส่วนของสถานรับเลี้ยงเด็ก ทำให้สามารถอำนวยความสะดวกได้ทั้งเด็ก ผู้ดูแลเด็ก และครอบครัว  แน่นอนว่ายังมีอีกหลากหลาย Startup จากญี่ปุ่นที่น่าสนใจ ให้ทุกคนได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับใครที่อยากทำความรู้จัก Startup ในโครงการ J-Startup ให้มากขึ้นสามารถสอบถามและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.jrit-ichi.com/cutting/2022/03/16/880/

บทความนี้เป็น Advertorial