รู้จัก “Phygital” การตลาดยุคใหม่แห่งอนาคต ผ่านเทคโนโลยี Immersive Experience ของ Translucia

คำว่า ‘อนาคต’ อาจฟังดูห่างไกล…แต่โลกไม่เคยหยุดนิ่ง 

โดยเฉพาะในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนคือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะ ChatGPT ที่ดึงดูดผู้ใช้กว่า 100 ล้านคนทั่วโลกภายในเวลาไม่นาน นี่แสดงให้เห็นถึงการเร่งเครื่องที่ทำให้ธุรกิจ การตลาด และการสื่อสารต้องปรับตัวทันที 

เห็นได้ชัดว่าการเข้ามาของเทคโนโลยีเหล่านี้กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่เรามองโลกและการทำธุรกิจ ในบทความนี้ Techsauce จึงอยากพาไปทำความรู้จักกับเทคโนโลยี ‘โลกเสมือน’ ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญของ ‘การตลาด 6.0’ ที่อาจกลายเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจในอนาคต ผ่านหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญอย่าง Translucia บริษัทเทคโนโลยีที่พัฒนา Immersive Experience ซึ่งเป็นแนวคิดที่จะเปลี่ยนวิธีการเชื่อมต่อแบรนด์กับผู้บริโภคในยุคต่อไป

รู้จัก Immersive Experience ผ่าน Translucia 

Translucia เป็นแพลตฟอร์มโลกเสมือน ที่พัฒนาภายใต้เครือของ T&B Media Global Thailand หนึ่งในบริษัทผู้เชี่ยวชาญในการทำแอนิเมชัน และเป็นผู้บุกเบิกการผลิตและถือครองลิขสิทธิ์การ์ตูนแอนิเมชันไทย จุดมุ่งหมายของ Translucia คือการสร้างจักรวาลเสมือนที่มีระบบนิเวศครบวงจร สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่น และ สร้างประสบการณ์ใหม่ที่เชื่อมโยงภาคธุรกิจต่างๆ ได้อย่างราบรื่น 

โดยมี MQDC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย เป็นกลุ่มธุรกิจแรกที่ร่วมสร้างแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงโลกจริงกับโลกเสมือนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และค้นหาโอกาสใหม่ ๆ ในการพัฒนาโลกเสมือนให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ปัจจุบัน Translucia กำลังอยู่ในช่วงการพัฒนา โดยทางบริษัทจะเริ่มเปิดให้ทดลองใช้เวอร์ชันเบต้าในปี 2025 และจะมีกำหนดการเปิดอย่างเป็นทางการในปี 2026 

หากยังนึกภาพไม่ออกว่า Immersive Experience คืออะไร ?  Techsauce อยากชวนมาดูหนึ่งในโปรเจกต์ที่ Translucia ทำร่วมกับ Digital Fashion Week 2024 งานแฟชั่นโชว์ที่ผสมผสานระหว่างโลกจริงและโลกดิจิทัลเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ

งานแฟชั่นโชว์รูปแบบใหม่ ที่นำเสนอผลงานของดีไซน์เนอร์จากทั่วโลกผ่านสื่อทั้งในชีวิตจริงและเสมือนจริง 

โดยได้ร่วมมือกับ Epic Games บริษัทเกมส์ชั้นนำของโลก ในการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลเต็มรูปแบบมา สร้าง Portal ที่เชื่อมต่อโลกจริงกับโลกเสมือน ช่วยให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานและผู้ชมสามารถสร้างประสบการณ์ในการโต้ตอบกันได้แบบเรียลไทม์ หมายความว่าคนที่อยู่ในโลกเสมือนและในงานจริงจะสามารถโต้ตอบกันได้ทันที

รวมถึงยังเป็นการรวมตัวของเหล่าผู้นำด้านนวัตกรรมดิจิทัล ที่มาร่วมพูดคุยเรื่องเทคโนโลยีสุดล้ำในอุตสาหกรรมแฟชั่น ทั้งเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ และการพัฒนาอนาคตของวงการแฟชั่น ซึ่งบรรดาแบรนด์ต่าง ๆ ในวงการดิจิทัลแฟชั่นก็มีหลากหลาย อาทิ CLO, Pixel Canvas, และ The F* Word ต่างก็เข้ามาร่วมด้วย บอกเลยว่าอีเวนต์นี้ไม่ใช่แค่โชว์นวัตกรรม แต่ยังเป็นเวทีที่เปิดโลกใหม่ให้แฟชั่นดิจิทัลก้าวล้ำไปอีกขั้น 

ซึ่งความล้ำหน้าของเทคโนโลยี Immersive Experience ทั้งหมดที่กล่าวมาก็เป็นหัวใจหลักของการตลาด 6.0 หรือ Immersive Marketing ด้วย

แล้วการตลาด 6.0 คืออะไร ?

การตลาด 6.0 หรือ Immersive Marketing คือ การตลาดที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์หรือสินค้ามากขึ้น แทนที่จะดูโฆษณาหรืออ่านข้อมูลอย่างเดียว ผู้บริโภคจะได้มีส่วนร่วมในเรื่องราวของแบรนด์ผ่านประสบการณ์ที่สามารถโต้ตอบได้ 

ซึ่งการตลาดแบบ Immersive จะนำเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น Virtual Reality (VR), วิดีโอ 360 องศา และ Augmented Reality (AR) มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่สามารถกระตุ้นความผูกพันทางอารมณ์ระหว่างผู้บริโภคและแบรนด์ ช่วยให้แบรนด์สร้างความประทับใจและจดจำได้อย่างยาวนาน นอกจากนี้ การตลาดประเภทนี้ยังใช้กลยุทธ์แบบหลายช่องทาง (Omnichannel) เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ต่างๆ 

หรือพูดง่ายๆ ก็คือ มันคือการตลาดที่ไร้เส้นแบ่งทั้งออนไลน์และออฟไลน์ จนทำให้เรารู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในโลกหรือสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งจริงๆ นั่นเอง 

ทำไม Immersive Experience ถึงน่าจับตามอง

เนื่องจากใจความสำคัญของ Immersive Experience มันคือการทำให้แบรนด์สามารถเล่าเรื่องราว สร้างความรู้สึก และทำให้ผู้บริโภค "เข้าไปอยู่ใน" โลกของแบรนด์ได้อย่างแท้จริง นี่เป็นวิธีที่ทำให้แบรนด์ไม่เพียงแค่สื่อสาร แต่สร้าง "ความสัมพันธ์" กับผู้บริโภคในระดับที่ลึกซึ้งกว่าการตลาดรูปแบบเดิมซึ่งตรงกับเป้าหมายของการตลาด 6.0 ตามที่ Philip Kotler ได้อธิบายไว้ในหนังสือ Marketing 6.0 ว่า Immersive Experience จะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคใหม่อย่าง Gen Z และ Alpha ที่จะเป็นกลุ่มลูกค้าหลักในอนาคต

คนรุ่นนี้คือ ‘Phygital Natives’ ผู้ที่เติบโตและใช้ชีวิตผสมผสานระหว่างโลกจริงและโลกดิจิทัลได้อย่างเป็นกลมกลืน โดยเฉพาะการใช้โซเชียลมีเดียและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น TikTok หรือการซื้อสินค้าผ่าน Social Commerce และ Live Commerce เป็นต้น

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับการทำการตลาด 6.0 ก็คือ การใช้เกมเป็น Social Media รูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะเอาชนะใจผู้บริโภคใน Gen Z และ Gen Alpha ได้อย่างดี

ตัวอย่างเช่น เทรนด์การทำ Phygital Experience ซึ่งเป็นการผสานประสบการณ์ระหว่างโลกดิจิทัลและโลกจริงเข้าด้วยกัน (มาจากคำว่า Physical + Digital) ทำให้ผู้บริโภคสามารถโต้ตอบและมีส่วนร่วมได้ทั้งสองโลกพร้อม ๆ กัน กำลังถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในแบรนด์ระดับโลกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านแฟชั่น การตลาด หรืออุตสาหกรรมบันเทิง เช่น Roblox ที่มี Immersive Ads, Gucci Town ซึ่งเป็นมินิเกมเล่าเรื่องราวของแบรนด์ Gucci หรือ Adidas ที่เคยจำลองภูเขาในโลกเสมือนเพื่อให้ลูกค้าลองอุปกรณ์ปีนเขาของแบรนด์

แบรนด์ผู้นำอย่าง Translucia ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของเทรนด์นี้ งาน Digital Fashion Week 2024 ที่ทำร่วมกับ Epic Games เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมากของการพัฒนา Phygital Experience ให้กลายเป็นความจริงได้อย่างไร้รอยต่อ ไม่ใช่แค่คนที่อยู่ในโลกเสมือนเท่านั้นที่สามารถโต้ตอบกันได้ แต่ผู้คนในโลกจริงก็สามารถมีส่วนร่วมในประสบการณ์นี้ได้ด้วย ซึ่งนี่คือความก้าวหน้าและความใกล้เคียงที่สุดกับการใช้งาน Marketing 6.0 ที่เราจะเห็นได้ในตอนนี้ 

และแม้ Phygital จะยังไม่แพร่หลาย แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามันกำลังพัฒนา โดยเริ่มจากการเชื่อมต่อผู้คนในโลกของเกมก่อน สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Immersive Experience กำลังจะกลายเป็นก้าวสำคัญของการตลาดในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่อย่าง Gen Z และ Gen Alpha

Immersive Experience หัวใจที่ขับเคลื่อนการตลาดแห่งอนาคต

การตลาดยุคใหม่กำลังก้าวไปไกลกว่าการสื่อสารแบบเดิม ๆ โดย Phygital Experience หรือ Immersive Experience กลายเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงผู้บริโภคกับแบรนด์ได้ลึกซึ้งและมีความหมายมากขึ้น การผสานโลกดิจิทัลและโลกจริงเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ไม่ใช่แค่เทรนด์แต่เป็นทิศทางหลักที่จะขับเคลื่อนทั้งการตลาดและธุรกิจในอนาคต และเทคโนโลยีอย่าง AI, AR, VR และ Blockchain จะเป็นพื้นฐานที่ทำให้แบรนด์สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดึงดูดและปรับตัวเข้ากับผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกมิติ

แต่สิ่งที่ยังขาดคือผู้ที่สามารถพัฒนา ‘Environment’ หรือการสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริงให้กับผู้บริโภคได้อย่างเต็มรูปแบบ และตรงนี้เองที่ Translucia กำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญในการสานต่อขั้นตอนนี้ โดยมุ่งเน้นการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับทั้งภาคธุรกิจและผู้บริโภค เพื่อเชื่อมโยงโลกจริงกับโลกดิจิทัลเข้าสู่กันได้อย่างไร้รอยต่อในอนาคตของการตลาด 6.0

การนำเสนอเทคโนโลยีของ Translucia จึงไม่ได้แค่ตอบสนองต่อกระแส แต่ยังสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่า เชื่อมโยงกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วของผู้บริโภคยุคใหม่

บทความนี้เป็น Advertorial

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

AI 2025 มีอะไรน่ารู้ กับตัวอย่างการใช้งานในยุค AI Revolution

AI Club by Techsauce ‘Exclusive Dinner Talk’ คอมมูนิตีแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 มีประเด็นอะไรน่าสนใจบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้...

Responsive image

เพราะโลกร้อน รอไม่ได้! KBank จัดงาน EARTH JUMP 2025 นำทัพฝ่ากระแสป่วน ชวนภาคธุรกิจร่วมเส้นทาง Net Zero

บทความรวมประเด็นสำคัญจากงาน EARTH JUMP 2025 ฟอรั่มแห่งปีโดย KBank ที่ 'ผู้ประกอบการควรรู้' เพื่อเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับ Net Zero พบช่องทางสนับสนุน เครื่องมือ และโอกาสทางธุรกิจ เพื...

Responsive image

ตามโลก AI ไม่ทัน? เปิดคัมภีร์ 53 ศัพท์เทคฯ ที่จะทำให้คุณเข้าใจ AI มากยิ่งขึ้น

ตามทันโลกปัญญาประดิษฐ์ด้วยคลังศัพท์ AI ครบวงจร 53 คำที่ทุกคนต้องรู้ ตั้งแต่ AGI, LLM, Hallucination เพื่อให้คุณเข้าใจและพูดคุยเรื่อง AI ได้อย่างมั่นใจ...