การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล หรือ Digital Transformation ได้สร้างโจทย์ใหญ่ให้กับองค์กรชั้นนำของประเทศไทยมาตลอด นั่นคือจะทำอย่างไรให้สามารถนำเทคโนโลยีคลาวด์ระดับโลกมาใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยที่ยังคงรักษาอธิปไตยและความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญไว้ในประเทศได้
นี่คือความท้าทายที่ซับซ้อนซึ่งต้องการมากกว่าแค่เทคโนโลยี แต่ต้องอาศัยประสบการณ์และความเข้าใจในบริบทของธุรกิจไทยอย่างลึกซึ้ง
เพื่อตอบโจทย์ที่สำคัญนี้ บริษัท ยิบอินซอย จำกัด ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้าน System Intregator (SI) และได้รับความไว้วางใจจากองค์กรไทยมาเกือบศตวรรษ จึงได้จับมือกับสองพันธมิตรยักษ์ใหญ่อย่าง AIS และ Oracle ในความร่วมมือครั้งใหม่
เพื่อส่งมอบ AIS Cloud powered by Oracle Cloud Infrastructure บริการ Hyperscale Cloud ที่เป็นของคนไทย และดำเนินการโดยคนไทยแห่งแรก ซึ่งถือเป็นการมอบคำตอบที่องค์กรไทย โดยเฉพาะกลุ่ม Enterprise, สถาบันการเงิน และภาครัฐ รอคอยมานาน
Techsauce ได้มีโอกาสพูดคุยกับสองผู้บริหารคนสำคัญจาก บริษัท ยิบอินซอย จำกัด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในฐานะ System Intregator ของความร่วมมือครั้งนี้ ได้แก่
เพื่อเจาะลึกถึงเบื้องหลังความร่วมมือ และเหตุผลว่าทำไม ยิบอินซอย จึงเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของโซลูชันนี้
ที่ผ่านมา องค์กรไทยจำนวนมากยังคงลังเลที่จะย้ายระบบสำคัญ ขึ้นสู่คลาวด์ แม้จะเห็นประโยชน์มหาศาลก็ตาม คุณสุภัค อธิบายถึงภาพรวมว่า
ในอดีต องค์กรอาจจะมีข้อกังวลหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Latency, ไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วย หรือปัญหาเรื่องข้อมูลจะไปอยู่ที่ไหน
ประเด็นเหล่านี้คืออุปสรรคสำคัญที่ทำให้การทำ Digital Transformation ไม่สามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่
การมาถึงของ AIS Cloud powered by Oracle Cloud Infrastructure จึงเป็นการเข้ามาแก้ปัญหานี้โดยตรง เพราะเป็นบริการคลาวด์ที่ตั้งอยู่บนดาต้าเซ็นเตอร์ของ AIS ถึงสองแห่งในประเทศไทย
ทำให้ข้อมูลทั้งหมดอยู่ภายใต้กฎหมายไทย ตอบโจทย์ทั้ง พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และ พ.ร.บ. ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ได้อย่างสมบูรณ์
"เมื่อปัจจัยเหล่านี้มันตอบโจทย์ได้หมด การตัดสินใจทำ Modernization มันก็ง่ายขึ้น และสามารถควบคุมความเสี่ยงและต้นทุนได้ดีขึ้น" คุณสุภัคกล่าว
เมื่อมีผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน (AIS) และเจ้าของเทคโนโลยี (Oracle) แล้ว ทำไมถึงต้องมี ยิบอินซอย ในการทำคลาวด์ด้วย ? คุณสุภัค บอกว่าคำตอบนั้นชัดเจนอยู่ในวิสัยทัศน์ และประสบการณ์ที่สั่งสมมาเกือบศตวรรษ นั่นก็คือ
ยิ่งเราพูดถึงระบบที่เป็น Enterprise มันก็มาพร้อมกับความเก่า ความ Legacy ซึ่งผมว่าตรงนี้ยิบอินซอยเราก็มีจุดแข็ง เราเข้าใจว่า Enterprise ไม่ได้ต้องการอะไรที่หวือหวา แต่ต้องการสิ่งที่ตอบโจทย์เรื่อง Reliability, Performance และ Availability อย่างแท้จริง
คุณสุภัค อธิบายว่า นี่คือความแตกต่างที่สำคัญ เพราะยิบอินซอยไม่ได้มองลูกค้าผ่านเลนส์ของเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่เข้าใจลึกซึ้งถึงบริบททางธุรกิจและความท้าทายของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งเป็นผลจากประสบการณ์เป็นพาร์ทเนอร์กับ Oracle ในไทยมาอย่างยาวนานถึง 28 ปี
ในยุคที่ลูกค้าสามารถเลือกซื้อบริการคลาวด์ได้โดยตรง ยิ่งทำให้บทบาทของ SI ที่เป็น ‘ที่ปรึกษาที่ไว้ใจได้’ อย่างยิบอินซอยมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น
หัวใจของ SI คือความสำเร็จของลูกค้า ถ้าเราทำให้ลูกค้าสำเร็จ เราก็อยู่ได้
เราอยู่มาได้หลายสิบปีเพราะลูกค้าเชื่อถือว่า เวลาเราแนะนำอะไร เรามุ่งหวังให้โปรเจกต์ของลูกค้าต้องสำเร็จ เราจะไม่เลือกโซลูชันเพียงเพราะกำไรเยอะ หรือเพราะเป็นนโยบาย แต่จะเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับลูกค้าที่สุด
คุณสุภัคกล่าว นี่คือปรัชญาที่ทำให้ยิบอินซอยสามารถยืนหยัดในฐานะที่ปรึกษา ที่องค์กรชั้นนำของประเทศให้ความไว้วางใจ ไม่ว่าจะเป็นยุคเมนเฟรมจนถึงยุคคลาวด์
เส้นทางอันยาวนานนี้ไม่ได้เป็นเพียงคำเปรียบเปรย แต่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นตลอดการทำงานของยิบอินซอย
“Journey ของยิบอินซอยกับเทคโนโลยี Oracle มันย้อนไปได้ถึงยุคที่ยังเป็น Sun Microsystems... เราเป็นหนึ่งในไม่กี่เจ้าในไทยที่มีประสบการณ์กับเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างลึกซึ้ง'"
คุณสุขสันต์ กล่าวเสริม
ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ได้มีดีแค่ความน่าเชื่อถือจากพันธมิตรที่แข็งแกร่ง แต่ยังตอบโจทย์สำคัญในเชิงธุรกิจอีก 2 ด้าน คือการควบคุมต้นทุน และการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต
หนึ่งในนั้นคือการแก้ปัญหา ‘ต้นทุนแฝง’ ที่หลายองค์กรเคยเผชิญกับผู้ให้บริการคลาวด์รายอื่น AIS Cloud powered by Oracle Cloud Infrastructure ได้เข้ามาพลิกเกมด้วยนโยบายค่าบริการนำข้อมูลออก (Data Egress) ที่ให้ใช้งานฟรีถึง 5TB แรกต่อเดือน และส่วนที่เกินก็มีอัตราที่ถูกกว่าคู่แข่งรายใหญ่อย่างมีนัยสำคัญ
สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยให้องค์กรควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น แต่ยังเป็นการทลายกำแพงของภาวะ Vendor Lock-in เปิดโอกาสให้องค์กรมีอิสระในการย้ายข้อมูลกลับสู่ Sovereign Cloud ของไทยได้อย่างเต็มที่
ยิ่งไปกว่านั้น คุณสุภัคยังมองการณ์ไกลไปถึงอนาคต โดยชี้ให้เห็นถึงความได้เปรียบเชิงสถาปัตยกรรมของ AIS Cloud powered by Oracle Cloud Infrastructure ว่า “การที่ AIS Cloud powered by Oracle Cloud Infrastructure มี Legacy น้อยกว่าในแง่ของดีไซน์ ทำให้เขาสามารถ intregate เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง AI ได้ง่ายกว่า”
นี่คือการเตรียมความพร้อมให้ลูกค้าของยิบอินซอยไม่เพียงแค่แก้ปัญหาของวันนี้ แต่ยังสามารถคว้าโอกาสทางธุรกิจจากเทคโนโลยี AI และ Machine Learning ที่กำลังจะกลายเป็นหัวใจสำคัญของการแข่งขันในวันข้างหน้าได้อีกด้วย
สำหรับองค์กรที่สนใจและต้องการเริ่มต้น คุณสุขสันต์ได้ให้คำแนะนำที่ชัดเจนว่า
"เริ่มต้นง่ายมากครับ ลูกค้าสามารถติดต่อเข้ามาที่ยิบอินซอยได้เลย เรามีทีมพรีเซลส์และ Solution Architect ที่จะเข้าไปนั่งคุย ทำ Assessment เหมือนเป็นที่ปรึกษา เราจะช่วยประเมินว่าระบบไหนควรขึ้นคลาวด์ก่อน-หลัง เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพรวมและผลตอบแทนที่ชัดเจนที่สุด"
การเลือกใช้เทคโนโลยีคลาวด์ไม่ได้จบที่การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด แต่คือการเลือกพันธมิตรที่ไว้ใจได้ที่สุด การผนึกกำลังของ AIS และ Oracle ได้สร้างโซลูชันทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง
แต่จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่ทำให้โซลูชันนี้สมบูรณ์และพร้อมใช้งานสำหรับองค์กรไทย คือประสบการณ์และความมุ่งมั่นในการส่งมอบความสำเร็จจาก System Integrator ที่ชื่อว่า “ยิบอินซอย”
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด