Ivanka Trump ลูกสาวและที่ปรึกษาของประธานาธิบดีสหรัฐ Donald Trump ขึ้นพูดที่งาน CES 2020 ที่ Las Vegas เมื่อบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา ท่ามกลางข่าวความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน สร้างกระแสความไม่พอใจขึ้นเทรนด์ Twitter และ Facebook ด้วย #BoycottCES 

อย่างไรก็ตาม Ivanka Trump ได้ขึ้นพูดบนเวทีกว่า 40 นาทีโดยไม่โดนโห่จากผู้ฟังแต่อย่างใด และได้ให้ความเห็นในประเด็นฮอตต่าง ๆ อาทิ เรื่องของงานในอนาคต นวัตกรรม และการศึกษา รวมถึงประเด็นเกี่ยวกับผู้อพยพ ร่วมกับ Gary Shapiro ประธานกรรมการ Consumer Electronics Association 

Ivanka กล่าวว่า เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการขับเคลื่อนนโยบาย Pro-growth หรือ การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ไม่ให้ผู้อพยพเข้ามาแย่งงานคนอเมริกัน รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้บริษัทต่างๆ มาลงทุนในบริษัทสัญชาติอเมริกันเป็นหลัก 

เธอย้ำถึงความสำคัญของนโยบายเพื่อสร้างสาธารนูปโภคพื้นฐาน การลดภาษี และ ลดกฎระเบียบข้อบังคับทั้งหลาย เพื่อให้ชาวอเมริกันสามารถเติบโตในหน้าที่การงานได้ง่ายขึ้น 

"นี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานในอเมริกา ดูได้จากตัวเลขคนว่างงานที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เคยมีมา" 

ความสำคัญของการ Re-skill

การเข้ามาของเทคโนโลยีทำให้งานต่างๆ ต้องกลายร่างและเปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง Ivanka มองว่า มันมีความจำเป็นที่จะต้องเสริมสร้างและติดอาวุธทางความรู้ให้กับคนทำงาน โดยเฉพาะ ผู้ใช้แรงงาน ให้รู้วิธีใช้อุปกรณ์และเครื่องมือแห่งอนาคต ซึ่งมันมีความจำเป็นที่จะต้อง Re-skill ตลอดชีวิตการทำงาน เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรม 

นอกจากนี้ เธอยังกล่าวถึงความสำคัญในการสนับสนุนผู้พ้นโทษให้มีสิทธิประกอบอาชีพได้ โดยรัฐบาลได้ทำงานร่วมกับคุกทั่วประเทศเพื่อพัฒนาโปรแกรมกับองค์กร NGO ต่างๆ อบรบผู้พ้นโทษให้มีทักษะพร้อมทำงานเมื่อได้รับการปล่อยตัว โดยยกตัวอย่าง การสอนนักโทษหญิงในเรือนจำให้เรียนรู้การเขียนโปรแกรมหรือ coding แม้ว่าบางคนจะไม่คุ้นเคยกับการใช้อินเตอร์เน็ตมาก่อน 

Ivanka มองนวัตกรรมเป็นโอกาสที่จะสร้างงานใหม่และทำให้เกิดการเจริญเติบโตแบบองค์รวมในระยะยาว 

"มันเป็นความรับผิดชอบของเราที่จะวางแผนช่วยเหลือชาวอเมริกันทุกคนที่ต้องเผชิญหรือได้รับผลกระทบจาก disruption ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ให้ยืนหยัดในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้อย่างเข้มแข็ง"   

มหาวิทยาลัยไม่ใช่ทุกอย่าง

ความท้าทายอย่างหนึ่งของประเทศคือค่านิยมฝังหัวเกี่ยวกับเส้นทางของหน้าที่การงานที่ดี คือการมุ่งสู่มหาวิทยาลัยเพียงอย่างเดียว เธอให้ความเห็นว่า แม้ว่าจะมีชาวอเมริกันหลายคนที่เลือกเรียนในมหาวิทยาลัยและประสบความสำเร็จ แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ตอบโจทย์ชีวิตของคนทุกคน เธอต้องการที่จะสนับสนุนเส้นทางเลือกอื่นๆ มากขึ้น 

"ไม่ใช่งานทุกอย่างที่ต้องการใบปริญญามารองรับ เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ควรให้ความสำคัญกับทักษะมากกว่าโปรไฟล์" 

"หากคุณเป็นคนที่ทำงานมานานแล้ว และต้องการเพิ่มทักษะใหม่ๆ ให้ตัวเองตามทันโลกเศรษฐกิจปัจจุบัน คุณก็คงไม่กลับไปเรียนมหาวิทยาลัยใหม่แน่ๆ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเปิดโอกาสและเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับทางเลือกอื่นให้มากขึ้น" 

Talent ยังคงเป็นที่ต้องการ

Ivanka ปิดท้ายการพูดคุยด้วยประเด็นอ่อนไหวอย่างเรื่องของ การอพยพ โดยเธอให้ความเห็นว่า ผู้อพยพ เป็นส่วนสำคัญหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของสังคมอเมริกัน แต่ระบบคัดคนเข้าเมืองของอเมริกายังมีข้อบกพร่องอยู่อีกมาก 

"ถ้าคุณเทียบระบบของเรากับประเทศแคนาดา คุณจะเห็นด้วยกับฉันว่ามันต้องได้รับการยกเครื่องทั้งหมด การอพยพจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ด้อยโอกาสชาวอเมริกัน เราสามารถทำทั้งสองอย่างได้ เช่น เราต้องเปิดรับ talent เก่งๆ จากทั่วโลก ขณะเดียวกันก็ต้องลงทุนให้กับคนใช้แรงงานในประเทศและผลักดันคนที่ไม่ได้รับโอกาสให้มีงานทำ มันไม่ใช่สิ่งที่ต้องนำเข้าอย่างเดียว"

อ้างอิง Business Insider