วันอังคารที่ 11 ตุลาคม 59 ณ กระทรวงการต่างประเทศ ที่นั่น "แจ็ค หม่า" ได้ปรากฏตัว และมีคนไทยราว 300 ชีวิตได้เข้าร่วมรับฟัง "Talk by Mr. Jack Ma on “Global Trade Revolution: Building a New e-Trade Platform for SMEs" ระยะเวลาราวหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เขาได้ส่งมอบทั้งประโยคทรงพลังมากมาย ทีมงาน Techsauce ขอสรุปเนื้อหา โดยแบ่งประเภทไว้ดังนี้
- แนวคิดของ Alibaba (อาลีบาบา)
- คำแนะนำสำหรับคนรุ่นใหม่ และการพัฒนาการศึกษา
- วิสัยทัศน์เรื่องเทคโนโลยี
- คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ
- ความคิดเห็นและคำแนะนำต่อประเทศไทย
- แนวคิดการใช้ชีวิตของ แจ็ค หม่า
แนวคิดของ Alibaba
- ผมไม่ได้ต้องการสร้าง Alibaba ให้กลายเป็นอาณาจักร เราเรียนประวัติศาสตร์ ก็เห็นว่า ไม่มีอาณาจักรไหนที่ไม่มีวันล่มสลาย แต่ปรัชญาของผม คือการสร้าง Alibaba ให้เป็น Ecosystem เราอยากให้คน และ SMEs ที่เข้ามาใช้แพลตฟอร์มของเรา ประสบความสำเร็จ
- ดังนั้นถ้าคุณถามว่า Alibaba เราวัดความสำเร็จขององค์กรกันอย่างไร ผมบอกเลยว่าเราวัดสามอย่าง
- บริษัทของเราได้สร้างงานสร้างอาชีพ ให้กับประเทศไปแล้วกี่ตำแหน่งงาน
- เราได้ช่วย SMEs ในแพลตฟอร์มของเรา เติบโตขึ้นได้แล้วกี่ราย
- แพลตฟอร์มของเรา ได้ส่งมอบบริการให้คนไปมากมายแล้วกี่คน
ตัวเลขรายได้ หรือกำไร ไม่ใช่สิ่งที่ผมนำมาใช้วัดความสำเร็จ
เมื่อแจ็ค หม่า พูดแนะนำ เรื่องการสร้างอาชีพ และการศึกษาสำหรับคนรุ่นใหม่
- ผมคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นครูอาจารย์ พ่อแม่ หรือหัวหน้างานของคุณ โลกนี้ไม่มีใครพัฒนาวิชาชีพให้คุณได้
คุณเองคือคนที่ต้องสร้างวิชาชีพให้กับตัวคุณ นั่นก็คือการหา Knowledge และ Wisdom ให้กับตัวเอง
- Knowledge คือสิ่งที่คุณเรียนรู้
ส่วน Wisdom คือสิ่งที่คุณสั่งสมประสบการณ์มา
สำหรับคนรุ่นใหม่ คุณสมบัติที่คุณควรมีคือ "ความกล้าหาญ" ยิ่งคุณยังเด็ก คุณยิ่งต้องกล้า
อย่าเป็นคนขี้บ่น ผมเองก็เคยเป็นคนที่ชอบบ่น แต่เมื่อผมเปลี่ยนตัวเอง ชีวิตผมเปลี่ยนเลย
ส่วนเพื่อนของผมที่ยังชอบบ่นเหมือนเดิม ชีวิตเขาก็ยังคงเหมือนเดิม
จริงๆ แล้ว โอกาสในชีวิตต่างๆ ซ่อนอยู่ภายใต้คำบ่นเหล่านั้นแหละ เมื่อคุณจัดการมันได้ โอกาสก็จะมา
- ผมว่าเราต้องเปลี่ยนระบบการศึกษาของเราใหม่
ระบบการศึกษาชอบเฟ้นหาแต่คน 'Smart' ในขณะที่โลกต่อไปนี้ Machine จะ Smart เสียยิ่งกว่าคน แถมยังไม่ขี้หลงขี้ลืม (หัวเราะ) ดังนั้นผมว่าการศึกษาควรให้ความสำคัญกับการสร้างคนให้ 'Imaginative' และ 'Innovative' มากกว่า
วิสัยทัศน์เรื่องเทคโนโลยี
- ที่ผมบอกได้คือในอนาคต จะมีอาชีพที่ตายจากไป เป็นจำนวนมาก และจะมีอาชีพเกิดใหม่อีกเป็นจำนวนมากเช่นกัน
- เราไม่จำเป็นต้องกลัว machine แต่เราต้อง embrace machine
เมื่อแจ็ค หม่า ถูกถามเรื่องอนาคตของ e-money (เงินอิเล็กทรอนิกส์)
- สิ่งที่คุณได้รับจากการใช้เงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ก็คือ "Data Collection" และ "Transparency"
เพราะว่าข้อมูลทุกอย่างถูกเก็บรวบรวมได้ มันจึงโปร่งใส
- ข้อดีที่เกิดขึ้นคือ บุคคลทั่วไป และ SMEs จะสามารถขอรับการสนับสนุนทางการเงินได้ง่ายขึ้น
จากเดิมทีที่สถาบันทางการเงิน ไม่รู้จักคนตัวเล็กๆ อย่างคุณ และยังไม่มั่นใจ
แต่เมื่อใครๆ ก็มีประวัติด้านการใช้จ่ายเงินติดตัว ทีนี้พวกเขาก็รู้จักคุณมากขึ้น และกล้าเชื่อถือคนทั่วไปมากขึ้น
- พอพูดถึง Data Collection คนก็จะถามหา Privacy สิ่งที่ผมอยากบอกก็คือ
สังคมเราทุกวันนี้ มี Privacy น้อยลงกว่าแต่ก่อน และมันก็กลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้น
ถ้าถามผม ระหว่างเปิดเผยข้อมูลให้ Machine กับมนุษย์ ผมว่าคนยังน่ากลัวกว่าเลย (หัวเราะ)
ก็เหมือนกับเรื่องบางเรื่องที่คุณไม่กล้าบอกเพื่อน แต่กล้าบอกกับหมอที่โรงพยาบาลนั่นแหละ
- ก่อนหน้ายุคธนาคาร คนก็เคยไม่เชื่อธนาคาร และไม่กล้าฝากเงินในธนาคารมาก่อน
ต่อมาคนก็ได้เรียนรู้ว่ามันดีกว่าการเก็บไว้ในหมอนหรือในไห
ดังนั้นที่คุณควรทำก็คือ ปรับตัวและคุ้นเคยกับมัน
คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ
- เมื่อถูกถามว่าเจ้าของธุรกิจตัวเล็กๆ จะ convince (โน้มน้าว) คนให้เชื่อได้อย่างไร แจ็ค หม่า ตอบว่า
อย่าไป convince คนใหญ่โตที่เขาประสบความสำเร็จอยู่แล้ว (เพราะว่าเขาคิดว่าเขาประสบความสำเร็จแล้ว) แต่ให้ convince คนที่ "อยากประสบความสำเร็จ" แทน
ตอนที่ผมทำ alibaba ใหม่ๆ ผมขายวิสัยทัศน์ให้กับบริษัทใหญ่ๆ ไม่มีใครเชื่อผมเลย
วิธีการที่ผมใช้ คือผมเข้าหากลุ่มคนรุ่นใหม่แทน
- ผมคิดว่า ผู้ประกอบการ ไม่ใช่คนที่สร้างได้จากในโรงเรียน หรือแม้แต่ MBA
"Entrepreneurship can be discovered and developed but not educated" ผมเชื่อแบบนี้นะ
กลุ่มลูกค้าไม่ได้มาในวันเดียว มันต้องใช้เวลาในการสร้าง วิธีการของผมคือ
จง 'อย่า' สร้างทีมของคุณ ให้เป็นทีม Marketing และ Sales แต่จงสร้างให้พวกเขาเป็นทีม Service และจงโน้มน้าวทำให้ลูกค้าของคุณ กลายเป็นกระบอก Marketing และ Sales ของคุณแทน
ภาพการ Q&A อย่างใกล้ชิดกับแจ็ค หม่า
ความคิดเห็นและคำแนะนำต่อประเทศไทย
เมื่อมีคนสอบถามถึงการทำ e-commerce ด้านเกษตรกรรม
- เกษตรกรอาจจะใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น แต่ทุกวันนี้เขาใช้มือถือกันเป็นแล้ว ดังนั้นผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องยากเกินไป ถ้าเราจะสอนให้เขาซื้อขายสินค้าเกษตรบนแพลตฟอร์ม e-commerce นะ แต่ผมว่ามันต้องมีองค์ประกอบอื่นควบคู่กันด้วย เช่น เรื่องระบบการชำระเงิน e-payment และเรื่องการสนับสนุนให้สินค้าบนแพลตฟอร์มส่งออกได้ด้วย ซึ่งทุกฝ่ายรวมถึงรัฐบาลควรร่วมมือกันมองเรื่องนี้ และสร้างให้เกิดการทำงานอย่างเป็นระบบขึ้นมา
- ผมคิดว่า Agriculture น่าสนใจมาก และเป็นจุดเด่นของประเทศไทยด้วย คนจีนเองก็ชอบผลไม้ไทยมาก
ปกติเราจะเห็นแต่โมเดลธุรกิจแบบ B2C คือธุรกิจขายให้คนทั่วไป แต่ผมว่าเดี๋ยวเราจะได้เห็นโมเดล C2B กันในอนาคต ก็คือเกษตรกรหรือคนทั่วไป สามารถขายของให้กับภาคธุรกิจได้
แนวคิดของแจ็ค หม่า
มารู้สึกตัวอีกที ก็มีคนเขียนหนังสือเรื่องผมมากมาย คุณไม่ต้องอ่านหนังสือที่เขียนเรื่องผมก็ได้ เขาอาจจะเขียนถึงผมในมุมที่ประสบความสำเร็จ แต่ผมคือคนที่ทำผิดพลาดมานับไม่ถ้วน
- ผมสมัครงานก็ถูกปฏิเสธมามากกว่า 30 งาน นั่นทำให้ผมกลายเป็นคนที่คุ้นเคยดี กับการ 'ถูกปฏิเสธ'
- ผมโชคดีที่ผมไม่ได้มีการศึกษาสูง แถมไม่ได้เกิดมาหน้าตาดี (หัวเราะ) ซึ่งนั่นทำให้ผมได้เจอกับเพื่อนที่ดีมาก เพื่อนที่เชื่อมั่นผม ที่เป็นตัวผมจริงๆ
- ถึงจะไม่มีคนลงทุนกับเรา หรือให้เรากู้ เราก็จะไม่ยืมเงินพ่อแม่ หรือเพื่อน
พ่อแม่ท่านสูงอายุ ท่านต้องใช้จ่าย เพื่อนนั้นยังอายุน้อย ยังต้องเก็บหอม
ผมกับทีม เราดิ้นรนกันเอง ถ้าเงินหมด เราก็จะจับมือออกไปหางานทำใหม่ด้วยกัน
ผมตื่นเต้นเสมอเวลาได้สนทนากับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก
ทุกๆ คร้ังที่ผมคุยกับกลุ่มคน SMEs ผมจะได้เรียนรู้อะไรจากพวกเขาเยอะมาก
ข้างในตาของพวกเขาเต็มไปด้วย Passion
แต่เวลาผมคุยกับคนทำงานบริษัทขนาดใหญ่ ตาของเขาเป็นอีกแบบ มันเป็นเรื่องของเงินและการแข่งขันมากกว่า
- จงใช้สมองของคุณคิดเสมอ อย่ารีบทำตามสิ่งที่คนเขาบอกให้ทำ
- จงมองโลกในแง่ดี
- จงมองหาพาร์ทเนอร์ดีๆ คุณไม่มีทางทำทุกอย่างให้ประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว
- แน่นอนว่าการหาพาร์ทเนอร์ที่ดี ต้องใช้เวลาศึกษา การทำงานต่างๆ ล้วนใช้เวลากว่าจะเห็นผล ใจเย็นๆ แล้วเวทมนตร์จะเกิดขึ้นใน
จนถึงวันนี้ ผมก็ยังกลัวการพูดในที่สาธารณชนอยู่ นั่นทำให้ผมพูดเฉพาะในสิ่งที่ผมเชื่อเท่านั้น
- สำหรับผม Power และ Money ไม่ได้มีความหมายมากไปกว่า Experience
- ผมไม่ประทับใจคนที่พูดว่า "ถ้ามีเงินนะ ฉันจะสร้าง..." แต่ผมชอบคนที่พูดว่า "ฉันไม่มีเงินหรอก แต่ฉันจะสร้าง...ให้ได้!"
----
"แจ็ค หม่า คุณได้รับการยอมรับว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ และใครๆ ก็รู้จักคุณ ยังมี Achievement อะไรในชีวิตอีกบ้าง ที่คุณต้องการ?" เป็นคำถามปิดท้ายที่น่าสนใจมาก และแจ็ค ก็ได้เปิดเผยว่า
"ผมอยากกลับไปสอนหนังสือนะ ผมชอบการสอน และผมเองก็ได้สร้างโรงเรียนไว้แล้ว"
"ที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาของการหาเงิน ถึงตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาของการใช้ชีวิตแล้ว อย่างเช่นไปเที่ยวทะเล ผมอยากไปภูเก็ตนะ ฮ่าๆ"
"I wanna die peacefully in the classroom or at the beach, not in my office" แจ็ค หม่า ปิดท้ายด้วยประโยคนี้ พร้อมเรียกเสียงหัวเราะให้กับทั้งห้อง สังเกตได้เลยว่าทุกคนได้เต็มอิ่มไปกับแรงบันดาลใจ แนวคิด และอารมณ์ขันของผู้ชายคนนี้ แม้เขาจะบอกว่าเขายังกลัวการพูดอยู่ก็ตาม แต่แจ็ค หม่า ได้แสดงให้ประจักษ์ว่า นอกจากเขาจะเป็นสุดยอดผู้ประกอบการแล้ว ยังเป็นนักพูดชั้นยอดเช่นกัน
และขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สำหรับกิจกรรมพิเศษในครั้งนี้ด้วยค่ะ
แนะนำบทความอื่นๆ