หลังจาก E-Commerce รายใหญ่ของจีนอย่าง JD.com ประกาศแผนลงทุนในประเทศไทย และมองไทยเป็นศูนย์กลางในการให้บริการในประเทศอื่นๆของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุด JD.com กำลังเจรจากับ Central Group ของไทยในการร่วมทุน โดยวางแผนการลงทุน 500 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 17,500 ล้านบาท
การร่วมลงทุนครั้งนี้จะช่วยให้ตลาดค้าปลีกรายใหญ่อันดับสองในด้าน e-commerce ของจีนขยายธุรกิจให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น หลังจากที่ได้ลงทุนในประเทศอินโดนีเซียไปแล้ว และ JD.com ยังหวังเพิ่มสถานะตัวเองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งคู่แข่งอย่าง Alibaba Group Holding และ Amazon ก็กำลังแข่งขันกันสร้างบริการใหม่ๆ เช่น บริการจัดส่งด่วนในสิงคโปร์ ซึ่งประเทศอินโดนีเซียเองก็เป็นประเทศที่ JD.com ลงทุนทั้ง e-commerce แพลตฟอร์มและ Startup ด้านการเดินทางอย่าง Traveloka
คุณ Richard Liu ผู้บริหารของ JD.com กล่าวกับ Reuters ว่า JD.com วางแผนที่จะเข้าสู่ตลาดของไทยในปลายปีนี้และใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการให้บริการแก่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค เช่นเวียดนามและมาเลเซีย การร่วมทุนกับ Central Group เจ้าของคือครอบครัวจิราธิวัฒน์ เศรษฐีอันดับสามของไทย จะมุ่งเน้นไปที่ e-commerce และด้านการเงิน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด
การร่วมลงทุนนี้จะเป็นอีกหนึ่งความพยายามของ Central Group ที่จะก้าวเข้าสู่ตลาด e-commerce ที่เรียกได้ว่ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้ซื้อกิจการตลาดค้าปลีกแฟชั่นออนไลน์อย่าง Zalora ไปเมื่อปีที่แล้ว
จากรายงานของ Google และ Temasek ที่ได้เผยแพร่ในปี 2016 กล่าวว่าผู้เล่นหลัก ได้แก่ Alibaba หนุนหลังให้ Lazada, Thailand's CP Group unit Ascend and 11 Street ของเกาหลีใต้ และในรายงานฉบับเดียวกันนี้คาดว่าตลาด e-commerce ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 16 เท่าเป็น 88000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2025
เรียกได้ว่าการมาของ JD.com ในครั้งนี้ไม่ได้มองแค่ประเทศไทย แต่กำลังมุ่งไปยังจำนวนประชากร 600 ล้านคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้!
ที่มาของภาพและข่าว reuters
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด