เมื่อเทคโนโลยีช่วยนำทางให้ผู้บกพร่องทางการเห็น | Techsauce

เมื่อเทคโนโลยีช่วยนำทางให้ผู้บกพร่องทางการเห็น

"ต่อไปช่องทางหลักคือโมบาย และเราต้องการแน่ใจว่าสามารถสร้างความทัดเทียมในการใช้งาน"

คุณอภิรัตน์ หวานชะเอม Principle Visionary Architect จาก KASIKORN Labs ได้กล่าว ถึง แอปพลิเคชั่น K PLUS Beacon แอปที่ได้พัฒนาต่อยอดจาก Beacon Interface ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ จากงาน Singapore FinTech Festival 2016

K PLUS Beacon คือแอปฯ โมบาย แบงกิ้งผลงานใหม่จากธนาคารกสิกรไทย เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่จะเปลี่ยนโลกให้ผู้บกพร่องทางการเห็น (Visually Impaired) ให้ทำธุรกรรมการเงินผ่านมือถือได้สะดวกรวดเร็ว โดยในตอนนี้ยังอยู่ในเวอร์ชั่น Beta ที่เปิดรับอาสาสมัครร่วมทดลองใช้งาน 300 คน ลงทะเบียนแจ้งความจำนงได้ตั้งแต่วันที่ 16-24 พ.ย.นี้ คาดเปิดใช้จริงปีหน้า

โดยกสิกรไทยยังบอกว่านอกจากกลุ่มผู้บกพร่องทางการเห็นแล้ว ในอนาคตจะมีผู้สูงอายุ 20% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งเป็นจำนวนที่มาก ดังนั้นการพัฒนาแอป K PLUS Beacon ยังมองไปถึงกลุ่มคน 4 กลุ่ม คือ

  1. ผู้บกพร่องทางการเห็น
  2. ผู้มีสายตาเลือนราง
  3. ผู้สูงอายุ
  4. บุคคลทั่วไป

ทั้ง 4 กลุ่มสามารถทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนได้ด้วยตนเองอย่างมั่นใจ ไม่ต้องมองหน้าจอ มีความเป็นส่วนตัว สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย โดยบริการหลักบนแอปฯ ประกอบด้วย การถามยอด โอนเงิน เติมเงิน และจ่ายบิล ภายใต้ระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานเดียวกับ K PLUS

ความสำคัญของ K PLUS Beacon คือการออกแบบ UX และ UI

จากบริการที่อยู่บน K PLUS ในการทำธุรกรรมทางการเงิน บริการสำคัญต่างๆ ยังคงอยู่บนแอปฯ K PLUS Beacon แต่มีการออกแบบ UX และ UI ที่ทำให้ Step ต่างๆน้อยลง ง่ายและชัดเจนขึ้น โดยมีการออกแบบที่สำคัญดังนี้คือ

  • มีเพียง 6 หน้าจอพื้นฐาน คือ รายการโปรด  โอนเงิน  ถามยอด เติมเงิน จ่ายบิล  และประวัติการทำรายการ
  • ตัวหนังสือที่ใหญ่
  • มีการใช้สี - รูปทรง เช่น สามเหลี่ยม วงกลม หัวใจ เป็น Icon ให้ผู้ใช้ที่มีสายตาเลือนรางหรือตาไม่ได้บอดสนิทสามารถแยกแยะแต่ละหน้าจอในการทำรายการได้
  • มีเสียงพูดบอกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มใช้งาน และบอกว่าขณะนี้กำลังทำอะไรอยู่
  • สามารถสั่งงานได้ผ่าน Gesture 4 ทิศทาง คือ ปัดขึ้น ปัดลง ปัดซ้าย และปัดขวา

ทั้งนี้ กสิกรไทยได้เชิญผู้บกพร่องทางการเห็นที่ไม่เคยใช้งานมาก่อน มาร่วมทดลองใช้งานพร้อมกับสื่อมวลชน พบว่า สามารถเรียนรู้และใช้งานได้อย่างรวดเร็ว อาจมีความไม่สะดวกบ้างเวลากดตัวเลขระบุจำนวนเงิน หากกดผิดต้องลบใหม่ทั้งหมด แต่ก็สามารถชำระเงินและจ่ายบิลได้สำเร็จ

คุณสิทธิโชค วรอิทธินันท์ หนึ่งผู้บกพร่องทางการเห็นที่มาร่วมทดสอบแอปฯในครั้งนี้ได้เล่าให้ฟังว่า "เวลาจะโอนเงินแต่ละครั้ง การเดินทางออกไปนอกบ้าน ไม่ใช่เรื่องง่ายๆสำหรับผู้บกพร่องทางการเห็น เราต้องนั่งมอเตอร์ไซค์ ครั้งนึงก็ 80 บาท เพื่อไปโอนเงินที่ธนาคาร แต่หากเราสามารถทำได้ผ่านแอป เราก็ไม่ต้องเสียค่าเดินทาง เพิ่มความสะดวกมากขึ้น"

นอกจากนี้ คุณสิทธิโชคยังสาธิตวิธีที่ผู้บกพร่องทางการมองเห็นใช้งานสมาร์ทโฟน ซึ่งสามารถเล่น Facebook , Instagram ได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งยังบอกอีกว่า การที่ผู้บกพร่องทางการเห็นจะหัดเล่นสมาร์ทโฟนได้คล่องเหมือนคนปกติ ก็ต้องใช้เวลานานเหมือนกัน แต่ทั้งใน Apple และ Android มีการออกแบบโหมด Accessibility สำหรับผู้บกพร่องทางการเห็นมาให้ใช้งานอยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์

ทั้ง Apple , Android หรือแม้แต่ Facebook ก็มีโหมด  Accessibility ให้อยู่แล้ว ซึ่งก็ใช้งานได้ถนัด ไม่ต้องทำอะไรมาก ถ้าหากผู้ออกแบบแอปฯใส่ใจแต่ละปุ่มในการออกแบบ ก็จะช่วยเหลือผู้ใช้งานโดยเฉพาะผู้บกพร่องทางการเห็นได้มาก รวมทั้งผู้สูงอายุด้วย

เรียกได้ว่ากสิกรไทยได้เปิดประวัติศาสตร์ใหม่ของการทำธุรกรรมทางการเงิน ในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อผู้บกพร่องทางการเห็น พร้อมกับการสร้างกระแสเรื่องของ Accessibility ให้เกิดขึ้น โดยในช่วงแรก K PLUS Beacon จะเปิดให้ทดลองใช้งานกับอาสาสมัครจาก 4 กลุ่ม ได้แก่ ผู้บกพร่องทางการเห็น ผู้มีสายตาเลือนราง ผู้สูงวัย และบุคคลทั่วไป จำนวน 300 คน

ผู้สนใจที่จะเป็นผู้บุกเบิกและทดลองใช้งานสามารถแจ้งความจำนงได้ตั้งแต่วันที่ 16 – 24 พฤศจิกายน 2560 ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่

  1. K-Contact Center โทร 02-8888888 กด 866
  2. เว็บไซต์ธนาคารที่ www.kasikornbank.com/KPLUS-Beacon
  3. สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย

และในวันที่ 5-28 ธันวาคม 2560 ผู้ร่วมทดลองสามารถไปยังธนาคาร 5 สาขา ได้แก่ สาขามาบุญครองเซ็นเตอร์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บางขุนเทียน ดาวคนอง และปิ่นเกล้า เพื่อให้เจ้าหน้าที่สอนการใช้งานและติดตั้งแอปฯ โดยผู้เข้าร่วมในการทดลองใช้จะได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ซึ่งข้อมูลที่ได้จะมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ในการนำไปพัฒนาและปรับปรุงทำให้แอปฯ K PLUS Beacon มีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทำธุรกรรมการเงินในชีวิตประจำวันของผู้บกพร่องทางการเห็นที่มีประมาณ 20% ในปี 2564 เป็นไปด้วยความสะดวก และปลอดภัย ก่อนนำไปสู่การใช้งานจริงในปี 2561

แอปพลิเคชั่น K PLUS Beacon รองรับระบบปฏิบัติการทั้ง iOS และ Android โดยทีมผู้พัฒนาแอปได้บอกว่า ในอนาคตจะเพิ่มบริการอื่นๆ เช่น การลงทุน รวมถึงจะรองรับการสแกน QR Code ด้วย

บทความนี้เป็น Advertorial

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Intel พลาดอะไรไป ? ทำไมถึงต้องเปลี่ยน CEO กะทันหัน ? ถอดบทเรียนราคาแพงจากยุค Pat Gensinger

การ ‘เกษียณ’ อย่างกะทันหันของ Pat Gelsinger อดีตซีอีโอ Intel ในต้นเดือนธันวาคม สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการเทคโนโลยี หลายฝ่ายมองว่าเป็นการบีบให้ออกจากบอร์ดบริหาร อันเนื่องมาจากผล...

Responsive image

GAC รถแห่งเมืองกวางโจว ขวัญใจแท็กซี่ยุคใหม่ | Tech for Biz EP. 30

แบรนด์รถยนต์ที่เป็นความภูมิใจของคนกวางโจว สู่ขวัญใจแท็กซี่ยุคใหม่ คลิปนี้ Tech for Biz จะพาไปรู้จัก GAC ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนอีกเจ้าที่กำลังบุกตลาดเมืองไทย...

Responsive image

เปิดดีล NVIDIA ปี 2024 ในอาเซียนไปร่วมมือใครมาบ้าง ?

NVIDIA ขยายอิทธิพลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี 2024 ด้วยการลงทุน AI Centers และการพัฒนาระบบ AI ร่วมกับพันธมิตรในอินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และไทย ขับเคลื่อนภูมิภาคสู่การเป็นศูนย์...