ไขข้อสังสัย ภาษีคริปโทฯ ต้องจ่ายอย่างไร ? วิธีคำนวณง่ายๆ ที่นักเทรดต้องรู้ | Techsauce

ไขข้อสังสัย ภาษีคริปโทฯ ต้องจ่ายอย่างไร ? วิธีคำนวณง่ายๆ ที่นักเทรดต้องรู้

Cryptocurrency หรือ สกุลเงินดิจิทัล กำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากบรรดานักลงทุน ที่พากันเบนเข็มลงสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลนี้กันจนแน่นขนัด และก็ดูเหมือนกับว่ายังคงเป็นฟีเวอร์ที่ร้อนแรงไม่หยุด เมื่อกรมสรรพากรได้มีการประกาศแนวปฏิบัติใหม่ในการเรียกเก็บ ‘ภาษีคริปโทฯ’ จนทำให้เกิดความตื่นตัวกับบรรดานักเทรดคริปโทฯของไทยอยู่ไม่น้อย 

ไขข้อสังสัย ภาษีคริปโทฯต้องจ่ายอย่างไร ? วิธีคำนวณง่ายๆ ที่นักเทรดต้องรู้

ในบทความนี้ K WEALTH โดยธนาคารกสิกรไทย ได้มีการสรุปทุกประเด็นที่ต้องรู้เกี่ยวกับ ภาษีคริปโทฯว่าต้องจ่ายไร พร้อมวิธีคำนวณง่าย ๆ และประเด็นที่ยังไม่ชัดเจนที่ต้องรู้ไว้หากลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้ 

เงินที่ได้จาก คริปโทฯ นับเป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษี

เป็นที่ทราบกันดีว่า คริปโทเคอร์เรนซี เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกสร้างขึ้น โดยเงินได้ที่เกิดจากคริปโทฯ ทั้งการ Trade แล้วได้กำไร การ Stake เหรียญที่มีผลตอบแทนคล้ายเงินปันผล รวมถึงไปการขุดเหรียญ จะนับเป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษีทั้งหมด 

ล่าสุด กรมสรรพากรได้ประกาศแนวปฏิบัติที่ชัดเจนมากขึ้นในการจัดเก็บภาษีคริปโทฯ สามารถสรุปได้ดังนี้

  1. ยกเว้นการหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% เนื่องจากปัจจุบันการซื้อขายคริปโทฯผ่าน Exchange Platform ยังไม่สามารถระบุตัวตนของผู้รับเงิน และไม่ทราบจำนวนเงินได้ที่ต้องหัก จึงเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบความถูกต้อง และหักภาษีได้ถูกฝาถูกตัว ทำให้ไม่จำเป็นต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้

  2. สามารถนำผลขาดทุนมาหักลบกำไรในปีภาษีเดียวกันได้ เพื่อใช้คิดเงินได้เพื่อนำไปคำนวณภาษี จากแต่เดิมที่ให้คิดเฉพาะรายการที่ได้กำไร ซึ่งได้รับเสียงวิจารณ์อย่างมากถึงความไม่เป็นธรรมสำหรับนักลงทุน

  3. วิธีการคิดต้นทุน สามารถทำได้ 2 วิธี คือ 

    1) คิดด้วยวิธี “เข้าก่อน-ออกก่อน” (First in, First out หรือที่เรียกว่า FIFO)

    2) วิธีต้นทุนถัวเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average Cost) ยกตัวอย่างเช่น วันที่ 1 ก.พ. ซื้อคริปโท A จำนวน 1 เหรียญในราคา 10,000 บาท/เหรียญคริปโท ต่อมาในวันที่ 3 ก.พ. ซื้อเพิ่มอีก 1 เหรียญในราคา 12,000 บาท เมื่อขายออก 1 เหรียญ ในวันที่ 4 ก.พ. ถ้าใช้วิธี “เข้าก่อน-ออกก่อน” (FIFO) จะใช้ต้นทุนที่ซื้อเข้ามาก่อน นั่นคือ 10,000 บาท แต่ถ้าใช้วิธีต้นทุนถัวเฉลี่ยเคลื่อนที่ ทั้งสองเหรียญจะมีต้นทุนเฉลี่ย 11,000 บาท คือนำราคาซื้อทั้งหมดมารวมกันหารด้วยจำนวนเหรียญ
     
  4. การวัดมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัล ให้วัด ณ เวลาที่ได้มา หรือราคาถัวเฉลี่ย 

ไขข้อสังสัย ภาษีคริปโทฯต้องจ่ายอย่างไร ? วิธีคำนวณง่ายๆ ที่นักเทรดต้องรู้

แล้วภาษีคริปโทฯ ต้องจ่ายอย่างไร ? 

แม้ว่าจะมีการยกเว้นการหักภาษี ณ ที่จ่ายและภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่นักลงทุนยังต้องนำเงินได้จากคริปโทฯ (ที่หักลบผลกำไร-ขาดทุนเรียบร้อยแล้ว) มารวมกับเงินได้อื่นๆ เช่น เงินเดือน เงินจากธุรกิจ และอื่นๆ นำมาหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่างๆ เพื่อยื่นภาษีประจำปี และจ่ายภาษีในอัตราก้าวหน้า 5-35% แต่ถ้าเป็นผู้ที่มีเงินได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาท ถึงแม้จะไม่อยู่ในเกณฑ์ต้องเสียภาษี แต่ถ้ามีเงินได้ทั้งปีตั้งแต่ 60,000 บาทขึ้นไป (สถานภาพโสด) จะยังมีหน้าที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด. เช่นกัน

ทั้งนี้ K WEALTH แนะนำให้นักลงทุนเตรียมยื่นภาษีด้วยการสรุปทำบัญชีกำไร/ขาดทุนในการซื้อขาย (เทรด) การ Stake เหรียญ และทำบัญชีต้นทุนในการขุดเหรียญให้ละเอียดชัดเจน 

ส่วนประเด็นที่ยังต้องจับตามอง มีดังนี้ 

  1. ความเป็นไปได้ในการแก้ไขกฎหมายให้เจ้าของ Exchange Platform เป็นผู้ดูแลในการหักและนำส่งภาษี ณ ที่จ่ายกับกรมสรรพากร เนื่องจากถ้าให้นักลงทุนต้องจดบันทึกการซื้อขายเหรียญเองทุกรายการ อาจเกิดความผิดพลาดได้ในกรณีที่นักลงทุนบางคนอาจมีการซื้อขายหลายรายการในหนึ่งปี

  2. การเปลี่ยนการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล ที่มีลักษณะเป็นหลักทรัพย์ ซึ่งภาษีธุรกิจเฉพาะเป็นภาษีทางอ้อมที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อ ตามปกติแล้วจะใช้กับสินค้าหรือบริการที่คิดมูลค่าเพิ่มได้ยาก ซึ่งเหมาะกับการใช้คำนวณรายได้และการจัดเก็บภาษีคริปโท มากกว่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย

ภายใต้ความนิยมและการมีบทบาทมากขึ้นของคริปโทเคอร์เรนซี ในแวดวงการเงินในฐานะที่เป็นสินทรัพย์การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงในเวลาอันรวดเร็ว สำหรับใครที่สนใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล คงต้องลองมาทำความเข้าใจ รู้จักวิธีใช้ประโยชน์ ศึกษาเรื่องของภาษีคริปโทฯ ที่กำลังเป็นที่น่าจับตา พร้อมกับเกาะติดประเด็นที่ยังคงต้องติดตามในเรื่องของความชัดเจน เพื่อสร้างโอกาสทำเงินบนเส้นทางนี้ ภายใต้การดำเนินการที่ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับกันต่อไป

สามารถติดตามสาระความรู้ดีๆ เรื่องราวอัปเดตที่ต้องรู้เกี่ยวกับการลงทุนเพิ่มเติมได้จาก K WEALTH คลิก www.kasikornbank.com/kwealth

บทความนี้เป็น Advertorial

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

แนะเทรนด์ลงทุนในสตาร์ทอัพปี 2024 พร้อมช่องทางใหม่ในการระดมทุนจากงาน KATALYST TALK MEETUP #3

บทความที่เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพควรอ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเผชิญความท้าทายในปีนี้ จากการรับฟังภายในงาน KATALYST TALK MEETUP #3 ‘Navigating the Startup Challenges in 2024 and Beyond’...

Responsive image

เตรียมพบกับงาน SEA Blockchain Week 2024 (SEABW) ยกขบวนกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชน และ Web 3 ระดับโลกกว่า 100 คน มาร่วมพูดคุยแบ่งปันประสบการณ์ที่เมืองไทย

Southeast Asia Blockchain Week หรือ SEABW งานด้านบล็อกเชนสุดยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาค ที่เตรียมจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในวันที่ 24-25 เมษายน 2567 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ True ICON HALL ช...

Responsive image

กระทรวง AI : เมื่อ AI อันตรายเกินกว่าจะปล่อยไว้ โลกเร่งออกกฎควบคุม

AI กลายเป็นสิ่งที่ต้องถูกควบคุมด้วยกฎหมาย และต้องถูกจับตาดูโดยหน่วยงานของรัฐบาลอย่าง ‘กระทรวง AI’ ที่มีอำนาจ และความสำคัญไม่แพ้หน่วยงานอื่น ๆ แต่ทำไม AI ต้องถูกควบคุมโดยรัฐบาล ? กร...