ดิจิทัลเทคโนโลยี เปิดความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่ทำให้เราสามารถใช้บริการต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย และกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว
หนึ่งในโปรเจคท์ที่น่าสนใจและได้ดำเนินโครงการจนเห็นผลเป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์กับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญก้าวทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัลคือ การที่ธนาคารผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งอย่างธนาคารกสิกรไทยหรือ KBank นำดิจิทัลเทคโนโลยีในด้านต่างๆ มาช่วยเสริมศักยภาพให้กับสถาบันการศึกษา หน่วยงานด้านสาธารณสุข และภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งแรงช่วยขับเคลื่อนให้แต่ละองค์การสามารถไปถึงเป้าหมายที่พร้อมสำหรับโลกยุคดิจิทัล และทำให้ทุกคนที่ใช้บริการใน Ecosystem สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
ทำไมสถาบันการเงินอย่าง KBank ต้องมาช่วยพัฒนาและสนับสนุนการสร้าง Digital Platform กับหน่วยงานต่างๆ? นี่ไม่ใช่ขอบเขตของงานธนาคารที่เราคุ้นชินกันเลย
ประโยคด้านบน คือความตั้งใจของ KBank เพื่อให้เกิดการพัฒนาแบบยั่งยืน
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาในช่วงกระแสการเปลี่ยนแปลงของยุคดิจิทัลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นช่วงเวลาที่ KBank กับ KBTG ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านเทคโนโลยีชั้นนำระดับภูมิภาคของ KBank และพันธมิตรที่เป็นหน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมมือกันลงหลักปักฐาน วางโครงสร้างเทคโนโลยีต่างๆ และเร่งพัฒนาบริการต่างๆ บน Digital Platform ที่มีโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน
จนถึงวันนี้ Digital Platform หลากหลายรูปแบบได้เปิดให้ใช้งานเต็มรูปแบบ และสร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้งานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งความร่วมมือและให้การสนับสนุนกับหน่วยงานต่างๆ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ธนาคารกสิกรไทยให้ความสำคัญ โดยเฉพาะ Vision ที่เห็นความสำคัญของการสร้างสรรค์บริการและนวัตกรรมแห่งอนาคต และมุ่งสู่การให้บริการมากกว่าความเป็นธนาคาร (Beyond Banking)
เพราะเหตุนี้ Digital Platform ที่ KBank ร่วมพัฒนาจึงเป็นมากกว่าแค่ธนาคารดูแลเรื่องการเงิน และที่มากกว่าเทคโนโลยี คือ ผู้คน KBank ถึงได้เอาความเชี่ยวชาญมาใช้สร้างสรรค์และทำให้ทุกคนเข้าถึงบริการต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เพื่อร่วมกันสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนไปพร้อมกัน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
โครงการ CU NEX เป็นโครงการที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน โดยใช้เทคโนโลยีจากกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป หรือ KBTG จากการดำเนินโครงการมาแล้ว 3 ปี CU NEX ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มหลักที่เชื่อมโยงการศึกษาและการใช้ชีวิตของนิสิต อาจารย์และบุคลากร ให้เข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างราบรื่น ขณะนี้มีนิสิตใช้ CU NEX Application แล้วกว่า 70,000 ราย โดย CU NEX ได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่ายและสะดวก พร้อมรวบรวมฟีเจอร์สำคัญต่างๆ เช่น การแจ้งข่าวสารสำคัญ, การดูตารางเรียนตารางสอบ, การชำระค่าเล่าเรียน, สิทธิพิเศษ, การขอทุน มาอำนวยความสะดวกให้กับนิสิตทั้งเรื่องเรียนและไลฟสไตล์นอกรั้วมหาวิทยาลัย และยังได้ขยายการใช้งาน CU NEX ไปสู่กลุ่มบุคลากร ด้วยการเปิดบริการแอปพลิเคชัน CU NEX STAFF รองรับการใช้งานของบุคลากรจุฬาฯ จำนวน 8,000 คน
และด้วยการพัฒนา CU NEX และ CU STAFF Application อย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับก้าวสู่การเป็น Digital Lifestyle University ทำให้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นิสิต อาจารย์และบุคลากร ยังสามารถรับข่าวสารสำคัญ และได้รับบริการที่หลากหลายจากมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อกับหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย, การลงทะเบียนจองวัคซีน หรือการเลือกตั้งที่สามารถทำได้อย่างสะดวกสบาย และไร้รอยต่อ ถือเป็นอีกฟีเจอร์บนแอปพลิเคชัน CU NEX และ CU NEX STAFF ที่สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ก้าวต่อไปในอนาคตของโครงการ CU NEX คือ การพัฒนาต่อยอดแพลตฟอร์มนี้ ให้เป็น Single Portal ด้วยการเชิญชวนให้นิสิตเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ การจัดกิจกรรมต่างๆ ในแอปให้มากขึ้น ทำให้เกิด Creative and Lively Content บนแอป CU NEX อย่างต่อเนื่อง และอัปเดตฟังก์ชันต่างๆ ให้ทันกับยุคสมัยและความเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ CU NEX เป็นแพลตฟอร์มที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไปสู่การเป็น Digital Lifestyle University อย่างเต็มรูปแบบ
KBank ได้ร่วมกับ บริษัท ไทย ดิจิทัล แพลตฟอร์ม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด และองค์กรพันธมิตรอื่น ๆ ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน TAGTHAi (ทักทาย) แพลตฟอร์มบริการด้านการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยวในทุกมิติ ครอบคลุมฟีเจอร์เพื่อการท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างครบถ้วน ตั้งแต่การให้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว การเชื่อมโยงไปยังระบบการจองที่พัก และตั๋วเครื่องบิน SOS ขอความช่วยเหลือ รวมทั้งสิทธิพิเศษต่าง ๆ ปัจจุบันแอปพลิเคชัน TAGTHAi มีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติใช้งานกว่า 180,000 ราย
ล่าสุด เพื่อตอบรับเทรนด์การท่องเที่ยวแบบ Digital Tourism ในยุคนิวนอร์มอล ที่นักท่องเที่ยวต้องการประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบใหม่ที่ปลอดภัยไว้ก่อน แอป TAGTHAi จึงได้ออกฟีเจอร์ใหม่ “ทักทายพาส (TAGTHAi Pass)” ซึ่งเป็นบัตรดิจิทัลด้านไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว (Digital pass) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวด้วยการชำระเงินซื้อเพียงครั้งเดียว ก็สามารถเข้าถึงบริการการท่องเที่ยวที่คัดสรรอย่างดีโดยคนท้องถิ่น ทั้งบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเพียงแสดงบัตรผ่านแอปมือถือ และช่วยอำนวยความสะดวกในการวางแผนท่องเที่ยวที่คุ้มค่าและปรับให้เข้ากับความต้องการเฉพาะบุคคลมากขึ้น อาทิ Elephant lover pass, Massage pass, Foodie pass
นอกจากจะช่วยเพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าประทับใจแล้ว TAGTHAi ยังเพิ่มศักยภาพการให้บริการด้านการท่องเที่ยวของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม เพิ่มช่องทางจัดจำหน่าย ซึ่งเป็นโอกาสในการสร้างรายได้จากการเข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ลดการแข่งขันทางด้านราคาโดยตรง และเพิ่มคุณค่าของการบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย
KBank มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สู่การเป็น “Smart Hospital” กับโรงพยาบาลรัฐ 5 แห่งอย่างต่อเนื่อง ด้วยการร่วมพัฒนา Digital Healthcare Platform โดยมีแอปพลิเคชันเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงการให้บริการของโรงพยาบาลให้กับคนไข้
Smart Hospital หรือ โรงพยาบาลอัจฉริยะ คือโรงพยาบาลที่มีการนำดิจิทัลเทคโนโลยี มาใช้เพื่อสนับสนุนทั้งการให้บริการ และระบบจัดการภายในโรงพยาบาลเอง โดยปัจจุบัน KBank ได้ร่วมมือกับ โรงพยาบาลรัฐ 5 แห่ง ในการร่วมพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อตอบโจทย์คนไข้ของทุกโรงพยาบาลที่มีจำนวนผู้ป่วยนอกรวมกว่า 4 ล้านคน ได้แก่ แอป Chula Care โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย แอป CBH PLUS โรงพยาบาลชลบุรี แอป TUH for All โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ แอป RJ Connect โรงพยาบาลราชวิถี และแอป NIT PLUS สถาบันประสาทวิทยา
ตัวอย่างแอปพลิเคชัน TUH For All โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
แอปพลิเคชันของ 5 โรงพยาบาลดังกล่าว ได้รับการพัฒนาด้วยแนวคิดที่จะช่วยให้คนไข้ได้รับบริการที่รวดเร็ว สะดวก ลดความแออัดในพื้นที่โรงพยาบาลได้ โดยมีฟีเจอร์สำคัญ เช่น บริการตรวจสอบสิทธิ์ ที่เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้ผู้ป่วยเช็คสิทธิ์รักษาพยาบาลทั้งบัตรทอง ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ บริการตรวจสอบรายการนัดหมาย ที่สามารถแสดงข้อมูลรายการนัดหมายพร้อมส่งข้อความแจ้งเตือน บริการตรวจสอบคิวพบแพทย์
ตัวอย่างแอปพลิเคชัน CBH PlUS โรงพยาบาลชลบุรี
และยังเชื่อมการบริการของธนาคารในรูปแบบชำระเงินที่รองรับการชำระเงินทั้งผ่านแอป K PLUS, สแกน Thai QR Code, บัตรเครดิตและเดบิต นับว่าเป็นบริการที่ตอบโจทย์พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ที่ต้องการทำธุรกรรมผ่านมือถือ เพื่อความสะดวกสบาย
โดยในอนาคต KBank มีแผนจะร่วมมือกับ กรุงเทพมหานครฯ เพื่อพัฒนาโครงการ Smart OPD ให้กับ 11 โรงพยาบาลภายใต้สังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร (สนพ.) โดยจะเป็นรูปแบบแอปพลิเคชันเดียวใช้ร่วมกันได้ทั้ง 11 โรงพยาบาล และตั้งเป้าจะพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีอยู่ให้ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด