หลายคนที่ติดตามเพจของเราอาจจะชื่นชอบการไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นและรู้จักประเทศนี้กันดีอยู่แล้ว แต่ญี่ปุ่นในปี 2017 ยังมีอะไรใหม่ๆ ที่รอให้เราไปค้นหาอยู่มากมาย อย่างเช่น สตาร์ทอัพและ VC ชั้นนำ รวมถึงสถานที่เจ๋งๆ ที่เปิดโอกาสให้เราได้อัปเดตความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีว่าพวกเขาไปไกลกันขนาดไหนแล้ว โดยคราวนี้เราได้บุกไปถึงกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำสาระที่น่าสนใจมาแชร์ให้ทุกคนได้มองญี่ปุ่นในมุมอื่นๆ แบบที่คุณอาจยังไม่เคยเห็นมาก่อน

VC ที่สนับสนุนสตาร์ทอัพสาย Sharing Economy อย่างครบวงจร

• ในงาน Ananda UrbanTech Startup Day in Tokyo ที่จัดบนพื้นที่ของ Nagatacho GRID Co-working space สวยมีสไตล์ใจกลางเมือง เราได้พบกับคุณ Yuji Ueda CEO ของ GaiaX บริษัทด้าน Social Media Solution ที่ได้มาแชร์เรื่องราวโครงการต่างๆ ที่เขาได้เข้าไปร่วมลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนใน C2C Platform ที่เขาเชื่อมั่นว่าคอนเซปต์ของการแบ่งปัน ไม่ว่าจะเป็นด้านทรัพยากร, ทักษะ และประสบการณ์ต่างๆ ย่อมมีส่วนช่วยขับเคลื่อนสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยรวมในปัจจุบันให้ดีขึ้นได้  GaiaX จึงกลายมาเป็น VC ญี่ปุ่นที่ให้ความสำคัญกับ Sharing Economy โดยเฉพาะ
• ตัวอย่างสตาร์ทอัพสาย Sharing Economy ที่เราได้เห็นจากในงาน ก็มีตั้งแต่ด้านท่องเที่ยว อย่าง TABICA เป็น Startup ที่ให้บริการจัดทริปพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนแบบ local ในเมืองต่างจังหวัดของญี่ปุ่นจริงๆ ซึ่งล่าสุดเราก็ได้ทราบข่าวว่าสตาร์ทอัพญี่ปุ่นเจ้านี้ได้มาจับมือกับสตาร์ทอัพไทยด้วยแนวคิดที่สอดคล้องกันอย่าง TakeMeTour อีกด้วย

• และถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะใช้การเดินทางโดยรถไฟเป็นหลักอยู่แล้ว แต่ก็มีสตาร์ทอัพชื่อ Notteco ที่เห็นช่องว่างและเข้ามาให้บริการแชร์การเดินทางระยะไกลโดยรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น เพราะยังมีสถานที่ชื่อดังหลายแห่ง เช่น หมู่บ้าน Shirakawago ที่ยังต้องพึ่งรถยนต์ในการเดินทาง ซึ่งแอปพลิเคชันตัวนี้ก็จะช่วยให้คนได้เปิดรับผู้เดินทางไปต่างจังหวัดด้วยกันได้
• อีกหนึ่งบริษัทที่มีโมเดลคล้าย Airbnb มีชื่อว่า Hyakusenrenma หรือ Stay Japan เป็นสตาร์ทอัพประเภทบริการเช่าห้องพักประเภทค่างๆ รวมถึงเช่าบ้านทั้งหลังในประเทศญี่ปุ่น ได้ยินว่ารายนี้ได้รับเงินสนับสนุนไปแล้วถึง 3 รอบรวมเป็น 14.97 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากผู้ลงทุนทั้งหมด 5 ราย

AgriTech ที่คิดค้นฟิล์มปลูกต้นไม้ พร้อมมีผลผลิตมาให้ชิมกันสดๆ ในงาน

หน้าตาเหมือนแผ่นพลาสติกธรรมดา แต่ใช้ปลูกผักที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง แถมรสชาติอร่อยกว่าปกติหลายเท่า รับประกันได้ เพราะทีมงานเราชิมมาแล้ว!

ในงานนี้นอกจากมีสตาร์ทอัพที่น่าสนใจมาแนะนำแล้ว ยังมีบูธให้เราได้พูดคุยกับสตาร์ทอัพอย่างเป็นกันเอง รายหนึ่งที่น่าสนใจมากคือ Mebiol สตาร์ทอัพที่คิดค้นและวิจัยการปลูกต้นไม้ด้วยแผ่นฟิล์ม (Film Planting) โดยใช้เทคโนโลยี Hydrogel Agriculture Technology ซึ่งแผ่นฟิล์มใสนี้สามารถช่วยให้ทำฟาร์มในที่แห้งแล้งอย่างทะเลทรายในแอฟริกา หรือพื้นที่ที่มีสารปนเปื้อนในบางท้องถิ่นของจีน ทั้งยังกำลังอยู่ในช่วงทดลองต่อยอดการนำไปใช้งานอีกมากมาย ซึ่งนวัตกรรมนี้ก็เจ๋งตรงนี้เคยได้รับเกียรติขึ้น พูดในงาน TEDxTokyo มาแล้วด้วย

สตาร์ทอัพสาย FinTech กลุ่มอสังหาฯ ที่น่าจับตามอง

Crowd Realty เป็นอีกรายที่น่าจับตามองเพราะเป็นสตาร์ทอัพให้บริการ Property Crowd Funding Marketplace หรือ P2P platform สำหรับอสังหาริมทรัพย์ โดยใครอยากจะร่วมลงทุนให้เกิดโครงการบ้าน คอนโด อาคารเช่า หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ก็สามารถมาร่วมลงทุนกันผ่าน Platform ของ Crowd Realty ได้เลย ซึ่งตัวบริษัทเองก็ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีสตาร์ทอัพที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น

• Dverse ที่ใช้ชื่อว่า SYMMETRY ทำสตาร์ทอัพที่นำ VR มาประยุกต์ใช้ในงาน Interior Design และงานสร้างสรรค์อีกมากมาย ทั้งยังเป็นสมาชิกของ VR Consortium Japan และ The Virtual Reality Society of Japan อีกด้วย
• Hoomano คือทีมที่พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับ AI ให้โต้ตอบสื่อสารกับมนุษย์เพื่อให้ความช่วยเหลือและให้บริการต่างๆ สามารถช่วยลดแรงงานมนุษย์ลงได้ โดยมีการนำโปรแกรมมาใช้กับเจ้า Pepper หุ่นยนต์อัจฉริยะ Pepper ชื่อดังที่เราเห็นอยู่ตามสนามบินและร้านค้าต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงหุ่นยนต์ Aldebaran Nao ที่บริษัท Softbank Robotics ได้ซื้อกิจการไปด้วย
• ทั้งยังมีสตาร์ทอัพที่ชื่อว่า Upstay ที่ทำ Platform ให้เช่าที่พัก คอนโด หรืออพาร์ทเม้นต์ในระยะยาว ซึ่งเป็นรายที่สนใจศึกษาตลาดในไทย และมีพาร์ทเนอร์ในไทยอยู่มากมายเลยทีเดียว

ไม่ใช่แค่ทำความรู้จักและ Networking กับสตาร์ทอัพในญี่ปุ่น แต่เรายังได้เรียนรู้แนวคิดและสไตล์การทำงาน รวมถึงความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาของสตาร์ทอัพแต่ละราย อย่างเรื่อง Regulations หรือกฎหมายของญี่ปุ่นที่มีความเข้มงวดมาก แต่สตาร์ทอัพของเขาก็ต้องปรับตัว รับมือ และหาหนทางต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความเชื่อในแนวคิดของตัวเองว่าจะสามารถ Disrupt หรือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศของเขาได้จริง

ไปดูตัวอย่าง Smart home แบบครบวงจร จาก Panasonic Center Tokyo

นอกจากงาน Startup Day เรายังได้มีโอกาสไปเยี่ยมชม Panasonic Center Tokyo ซึ่งหนึ่งในโซนที่ไม่ควรพลาด ก็คือ Wonder Live Box เพราะทีมงานของที่นี่ จะพาเราเข้าไปยังบ้านที่มีคอนเซปต์ Smart home ให้เราได้สัมผัสชีวิตที่ล้อมรอบไปด้วย IOT ตั้งแต่ก้าวเข้าบ้านยันหลับตานอน เช่น ห้องครัวอัจฉริยะที่ใช้ระบบสั่งงานด้วยเสียงทั้งหมด มีการช่วยเตือนว่าสมาชิกในบ้านจะกลับกี่โมง แจ้งวันเกิด สอนทำเค้กแบบอัตโนมัติชนิดที่ว่าคนทำอาหารไม่เป็นก็สามารถทำเค้กเองที่บ้านได้! ยังมีโต๊ะห้องนั่งเล่นที่ทำได้หลายอย่าง ทั้งเป็นของเล่นหรือเป็นรีโมทขนาดยักษ์เพื่อเลือกโปรแกรมที่จะฉายบนจอ ผ่านโต๊ะห้องนั่งเล่นที่เชื่อมกับอุปกรณ์มือถือหรือ Tablet ได้ รวมถึงกระจกห้องแต่งตัวที่จับใบหน้าผู้ใช้ แล้วจำลองการแต่งหน้าสไตล์ต่างๆ ให้ ไปจนถึงห้องนอนที่สามารถเลือกเสียงและบรรยากาศให้เหมาะทั้งยามหลับยามตื่น และมีอัปเดตข้อมูลจำเป็นบนฝ้าเพดาน เรียกได้ว่า สาวก IOT จะต้องรู้สึกตื่นตาตื่นตาตื่นใจกับโซนนี้อย่างแน่นอน

ญี่ปุ่นกับเทคโนโลยีเพื่อเตรียมนับถอยหลังสู่ Tokyo Olympics 2020

หลังจากพวกเราตื่นเต้นกับฉาก Mario และการ์ตูนอื่นๆ ในการเปิดตัว Tokyo Olympics 2020 ไปแล้ว ครั้งนี้เรามีโอกาสได้ไปชมนิทรรศการเกี่ยวกับงานโอลิมปิคที่จะมาถึงในอีก 3 ปีข้างหน้านี้ซึ่งจัดแสดงอยู่ภายใน Panasonic Center โดยมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาประยุกต์และดัดแปลงใช้งาน เพื่อต้อนรับงานโอลิมปิคครั้งยิ่งใหญ่ให้สมกับการได้เป็นเจ้าภาพครั้งที่ 2 และที่งได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ Tokyo Paralympic 2020 ด้วย ซึ่งพวกเขาก็มีแผนที่จะงัดนวัตกรรมออกมาอย่างเต็มที่ เพื่อผสมผสานกับคอนเซปต์ Beautiful Japan 2020 นั่นเอง  เราจึงได้เก็บตกภาพบรรยากาศมาให้ทุกคนดูและจะได้ตื่นเต้นไปพร้อมๆ กัน

ป้าย Interactive Media ให้ข้อมูลเกี่ยวกับงานโอลิมปิค มีภาษาไทยด้วย

ขอแอบกระซิบว่าที่ Panasonic Center นี้มีเกม Nintendo Switch สุดฮิตให้ไปต่อคิวลองเล่นด้วยล่ะ อันนี้ไม่เกี่ยวกับงานโอลิมปิคเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้ทีมงานตื่นเต้นมากอยู่

เรียกได้ว่าเป็นทริปที่เต็มอิ่มจุใจทั้งสายสตาร์ทอัพ เทคโนโลยี รวมถึงบรรดาแฟนคลับของประเทศญี่ปุ่น ก็คงได้เปิดมุมมองใหม่ๆ นอกเหนือจากการเป็นเมืองยอดฮิตของคนไทยในด้านท่องเที่ยวและวัฒนธรรมต่างๆ เท่านั้น งานนี้ต้องขอขอบคุณทาง Ananda Development ที่ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการก้าวสู่ความเป็น UrbanTech Company ด้วยทริปดีๆ แบบนี้