ในโลกของธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วย ‘โครงการ’ หรือธุรกิจแบบ Project-Based ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ หรือแม้แต่งานบริการติดตั้งไอที ทุกธุรกิจเหล่านี้จะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ ปัญหาการควบคุมต้นทุนที่ไม่เคยง่าย
หลายบริษัทอาจเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เช่น งบประมาณบานปลายโดยไม่รู้ตัว, Cash Flow ติดลบหมุนเงินไม่ทัน, เอกสารกองพะเนินที่หายบ้างซ้ำซ้อนบ้าง, หรือแม้แต่การไม่รู้จริง ๆ ว่างานที่ทำไป มีกำไรหรือไม่
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะมันสามารถชี้เป็นชี้ตายอนาคตของโครงการและธุรกิจทั้งบริษัทได้เลย

ในบทความนี้ Techsauce จึงพาไปพูดคุยกับสองผู้บริหารจาก Mango Consultant ได้แก่ คุณอัญชลี วงศ์พินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณพรพรรณ เตชปีติกุล รองกรรมการผู้จัดการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางระบบ ERP ที่มีประสบการณ์ทำงานกับธุรกิจ Project-Based มานับไม่ถ้วน
ทั้ง 2 ท่านจะมาเล่าว่า ทำไมปัญหาของธุรกิจเหล่านี้จริง ๆ แล้วไม่ได้อยู่ที่คน แต่อยู่ที่ ‘ระบบ’ และ ERP จะเข้ามาเปลี่ยนเกมการทำงานได้อย่างไร ตั้งแต่การควบคุมต้นทุน ไปจนถึงการทำให้องค์กรมองเห็นกำไรจริงๆ ได้

คุณอัญชลีเล่าว่า Mango เริ่มต้นจากการเผชิญ Pain Point แบบเดียวกับที่ผู้ประกอบการจำนวนมากเผชิญมาแล้ว
“เมื่อก่อนเราเองก็ทำธุรกิจรับเหมา เจอ Pain Point เหล่านี้เหมือนกันค่ะ เราหาซอฟต์แวร์จากต่างประเทศมาใช้ แต่ไม่ตรงกับวิธีการทำงานของเรา ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อธุรกิจรับเหมาหรืออสังหาฯ โดยเฉพาะ ทำให้การควบคุมต้นทุนหรือบริหารโครงการยังเต็มไปด้วยช่องโหว่”
เนื่องด้วยธุรกิจ Project-Based แตกต่างจากการค้าขายทั่วไปหรือโรงงานผลิต เพราะแต่ละโครงการไม่เหมือนกันเลย การเสนอราคาจึงซับซ้อน ต้องดึงข้อมูลทั้งแบบก่อสร้าง ราคาวัสดุ และค่าแรงที่ผันผวนเสมอ หากไม่มีระบบที่ดี ข้อมูลทั้งหมดมักจะกระจัดกระจายอยู่ตามไฟล์ Excel หรือกระดาษ กว่าจะรู้ว่ามีปัญหาก็ตอนปิดงบ ซึ่งมักสายเกินไปที่จะแก้ไข
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ Mango เชื่อว่า ระบบคือคำตอบ ไม่ใช่การโทษคนทำงาน

สำหรับหลายๆ คนยังนึกภาพไม่ออกว่า ERP คืออะไร ด้านคุณพรพรรณก็ได้อธิบายเปรียบเทียบให้เห็นง่ายๆ ว่า “ERP เป็นเหมือน ‘กล่องเครื่องมือ’ กล่องหนึ่ง ภายในมีเครื่องมือหลากหลายที่สามารถหยิบมาใช้แก้ปัญหาได้ แต่ที่ทำให้มันแตกต่างคือทุกเครื่องมือในกล่องนี้เชื่อมถึงกันหมด”

ในมุมของธุรกิจ Project-Based สิ่งสำคัญที่สุดคือ ทุกฝ่ายต้องเห็นข้อมูลเดียวกันแบบ Real-time ตั้งแต่จัดซื้อ บัญชี โครงการ ไปจนถึงคนหน้างาน เพราะถ้าข้อมูลไม่ตรงกัน ทุกอย่างก็พร้อมจะสะดุด คุณพรพรรณเล่าว่า ERP จึงทำหน้าที่เป็นเหมือนเรดาร์ ที่คอยส่องให้เห็นทั้งภาพใหญ่และรายละเอียดเล็ก ๆ ไปพร้อมกัน
ซึ่งอย่างที่ได้เกริ่นไปตอนต้นบทความว่า ERP จะเข้ามาเปลี่ยนเกมการทำงาน คุณพรพรรณก็ได้อธิบายให้เห็นภาพของ 5 Pain Points หลักที่ธุรกิจ Project-Based ต้องเจอและระบบนี้จะเข้าไปช่วยได้อย่างไร
คุณอัญชลีจึงสรุปว่า ERP ไม่ได้เพียงช่วยแก้ปัญหาที่เจออยู่ แต่ยังช่วยคาดการณ์ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดในอนาคต ทำให้ธุรกิจ Project-Based ไม่ต้องทำงานแบบมืดบอดอีกต่อไป

ในอดีต หลายคนมักมองว่า ERP คือซอฟต์แวร์ราคาแพง ใช้ได้เฉพาะบริษัทใหญ่ที่มีงบประมาณมหาศาลและทีมไอทีพร้อมดูแลตลอดเวลา ภาพจำแบบนี้ทำให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กจำนวนมากเลือกที่จะ “ไม่มอง” เครื่องมือนี้ ทั้งที่จริง ๆ แล้วปัญหาที่ ERP เข้ามาแก้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับบริษัทใหญ่เท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับทุกธุรกิจที่ต้องทำงานแบบ Project-Based
คุณอัญชลีอธิบายว่า ปัจจุบัน ERP ได้ถูกพัฒนาให้ยืดหยุ่นและเข้าถึงง่ายกว่าเดิมมาก “Mango ERP มีแพ็กเกจให้เลือกตามขนาดของธุรกิจค่ะ จะเพิ่งเริ่มต้นหรือมีพนักงานไม่กี่สิบคนก็ใช้ได้ ไม่ต้องลงทุนมหาศาลเหมือนเมื่อก่อน และที่สำคัญคือมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยเซ็ตอัป เทรน และดูแลตลอดการใช้งาน”
นั่นหมายความว่า ธุรกิจไม่จำเป็นต้องเริ่มจากระบบใหญ่โตที่เกินกำลัง แต่สามารถเลือกโซลูชันที่เหมาะสมกับ ขนาด อุตสาหกรรม และวิธีการทำงานจริงขององค์กร แล้วค่อยๆ ขยายเพิ่มตามการเติบโตได้ ต่างจากการลงทุนก้อนใหญ่ที่เสี่ยงเกินไปในอดีต
ดังนั้นสิ่งที่ผู้บริหารควรให้ความสำคัญจึงไม่ใช่การเลือก ERP ที่ถูกที่สุด หรือมีชื่อเสียงที่สุด แต่มันคือการการเลือก ERP โดยโฟกัสไปที่จุดที่เหมาะที่สุดกับองค์กรของตนเอง เพราะระบบที่สอดคล้องกับรูปแบบงานจริงเท่านั้น ที่จะช่วยให้องค์กรควบคุมต้นทุนได้จริง เชื่อมโยงทุกฝ่ายเข้าหากัน และเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
คุณพรพรรณอธิบายว่า จุดเปลี่ยนที่เห็นได้ชัดคือเมื่อทุกฝ่าย ตั้งแต่ฝ่ายจัดซื้อ บัญชี โครงการ ไปจนถึงคนหน้างาน สามารถเข้าถึงข้อมูลเดียวกันแบบ Real-time ได้ทันที ผลที่ตามมาคือวิธีการทำงานของทั้งองค์กรเปลี่ยนไป
จากเดิมที่แต่ละแผนกต่างคนต่างทำ ข้อมูลแยกส่วนและมักซ้ำซ้อน กลายเป็นการทำงานที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ ทุกฝ่ายเห็นภาพเดียวกัน พูดภาษาเดียวกัน และเข้าใจตรงกันว่าการตัดสินใจของผู้บริหารอ้างอิงจากข้อมูลจริง ไม่ใช่การคาดเดา

สุดท้าย ทั้งคุณอัญชลีและคุณพรพรรณต่างเห็นตรงกันว่า ธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยโครงการเต็มไปด้วยความท้าทายในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนที่ควบคุมได้ยาก เอกสารที่ซ้ำซ้อน หรือกระแสเงินสดที่ไม่แน่นอน หากปล่อยให้ Pain Point เล็กๆ เหล่านี้สะสมไปเรื่อยๆ ก็อาจกลายเป็นหลุมพรางใหญ่ที่ทำให้ทั้งโครงการสะดุดได้ง่าย
ในมุมมองของทั้งสองท่าน ERP จึงไม่ใช่เพียงซอฟต์แวร์เสริม แต่คือรากฐานการบริหารที่เข้ามาช่วยให้ทุกฝ่ายเห็นข้อมูลเดียวกันแบบ Real-time เปิดโอกาสให้ผู้บริหารตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ วางแผนล่วงหน้าได้แม่นยำ และมองเห็นกำไรจริงตลอดเส้นทางของโครงการ
เพราะในท้ายที่สุด สิ่งที่ผู้บริหารต้องการไม่ใช่แค่การปิดงานให้เสร็จตามกำหนด แต่คือการปิดงานด้วยกำไรที่มั่นคง ควบคู่ไปกับทีมงานที่ทำงานอย่างมีความสุข หากวันนี้องค์กรของคุณยังเผชิญ Pain Point เดิมๆ ที่แก้ไม่ขาด นี่อาจเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดที่จะเปิดใจมอง ERP ในมุมใหม่ ค้นหาระบบที่ตอบโจทย์ที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ และเริ่มต้นสร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อการเติบโตในระยะยาว
📌 หากองค์กรของคุณกำลังมองหาระบบ ERP ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจ Project-Based สนใจติดต่อ Mango ERP พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ที่ช่วยคุณควบคุมต้นทุน บริหารโครงการ และเห็นผลลัพธ์จริงได้แบบ Real-time: https://www.mangoconsultant.com/
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด