ในยุคที่ AI คือสมรภูมิใหม่ของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ใครมีคนเก่งอยู่กับตัวก็คือผู้ได้เปรียบ !
ล่าสุด Meta ลุยเต็มสูบ ประกาศตัวลงสนาม AI Talent War แบบไม่มีถอย เพื่อปั้นทีม Meta Superintelligence Lab ที่นำโดย Alexandr Wang แห่ง Scale AI ในบทความนี้นอกจากความเดือดในโลกเทคโนโลยีแล้ว Techsauce จะมาเปิดเผยข้อมูลรายได้ที่ Meta จ่ายให้กับพนักงานสายเทคโนโลยีในบริษัทแต่ละตำแหน่งกัน !

ข้อมูลนี้มาจากการจ้างแรงงานต่างชาติผ่านโครงการ H-1B ที่บริษัทเทคในสหรัฐฯ ต้องเปิดเผย "เงินเดือนพื้นฐาน" ของแต่ละตำแหน่ง และ Meta ก็จ่ายในระดับที่บอกได้เลยว่า ใครมีทักษะ AI ตอนนี้ก็เหมือนมีล็อตเตอร์รี่รางวัลที่ 1 อยู่ในมือ

หมายเหตุ: ตัวเลขนี้เป็นเงินเดือนพื้นฐานเท่านั้น ยังไม่รวมโบนัส, หุ้น (RSU), ค่าจ้างเซ็นสัญญา และสวัสดิการอื่น ๆ ที่อาจทำให้รายได้จริงสูงขึ้นอีกหลายเท่า
คำตอบง่ายที่สุดคือ “คนเก่งมีจำกัด” โดยเฉพาะในสาย AI ดังนั้น คนที่สามารถสร้างโมเดล AI ขั้นสูงได้จริง ๆ มีอยู่ไม่มาก และยิ่งเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วทุกไตรมาส ความรู้ที่มีเมื่อ 6 เดือนก่อนอาจล้าหลังไปแล้วในวันนี้ ทำให้บริษัทต้องการคนที่ “ไม่แค่เก่งตอนนี้ แต่ต้องอัปเดตตัวเองได้ตลอดเวลา”
AI ยังกลายเป็นแกนหลักของการทำธุรกิจใหม่ในหลายอุตสาหกรรม ไม่ใช่แค่ในแวดวงเทคโนโลยี แต่รวมถึงโฆษณา การผลิตคอนเทนต์ การดูแลลูกค้า และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ เมื่อตัว AI กลายเป็นเบื้องหลังของทุกอย่าง คนที่สร้างมันได้ก็คือทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร
ความร้อนแรงของสนามนี้ยิ่งชัดเมื่อมีข่าวว่า Meta เสนอ “โบนัสเซ็นสัญญา” มูลค่าสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์เพื่อดึงตัวพนักงานจาก OpenAI แม้ CTO ของ Meta จะออกมาบอกว่ามันไม่ถึงขั้นนั้น แต่ก็ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่านี่คือสงครามแย่งคนที่ดุเดือดที่สุดในยุคนี้ และทุกบริษัทใหญ่ก็กำลังลงเงินเดิมพันกันอย่างไม่อั้นเพื่อให้ได้ “สมอง” ที่จะขับเคลื่อนอนาคตขององค์กรตัวเอง
อ่านบทความ สืบหาเบาะแส Meta ซื้อตัวนักวิจัย ตอนนี้มีใครแล้วบ้าง ?
อ้างอิง: entrepreneur
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด