ส่อง AI สัญชาติไทยที่ช่วยปลดล็อคหนี้นอกระบบโดย ABACUS Digital | Techsauce

ส่อง AI สัญชาติไทยที่ช่วยปลดล็อคหนี้นอกระบบโดย ABACUS Digital

บทความโดย ABACUS Digital

ปัญหาหนี้นอกระบบกับสังคมไทยเป็นปัญหาที่เรื้อรังมายาวนาน ช่วงปีที่ผ่านมารัฐบาลได้ประกาศให้ ‘การแก้ไขหนี้นอกระบบ’ เป็นวาระสําคัญ โดยประเมินว่า หนี้นอกระบบไทยอาจมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท ปัญหาดังกล่าวสะท้อนถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ลูกหนี้นอกระบบมักถูกเอารัดเอาเปรียบ ทั้งดอกเบี้ยที่สูงถึง 200% ต่อปี รวมไปถึงความเสี่ยงจากการทวงหนี้ หรือ แก๊งหมวกกันน็อคที่เรามักได้ยินตามข่าว

สาเหตุหลักที่ทําให้คนไทยยังคงต้องพึ่งพาสินเชื่อนอกระบบมาจากธนาคารปฏิเสธการให้สินเชื่อหรือได้รับอนุมัติ แต่วงเงินไม่เพียงพอต่อความจําเป็น 

คำถามคือ แล้วทําไมธนาคารจึงปฏิเสธการให้สินเชื่อกับผู้กู้

ปัจจัยหลักมาจากความเสี่ยงของตัวผู้กู้ที่สูงเกินกว่าที่ธนาคารจะสามารถให้สินเชื่อได้ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ในปัจจุบันการประเมินความเสี่ยงของผู้กู้ก็มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่ผู้กู้ต้องสมัครสินเชื่อผ่านสาขา หอบเอกสารหลักฐานทางการเงินไปประกอบการสมัครสินเชื่อ โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยประเมินความเสี่ยงและอนุมัติวงเงินสินเชื่อให้กับผู้กู้เป็นรายๆ ไป แต่ตอนนี แค่เข้าแอปธนาคารหรือแอปสินเชื่อก็สามารถที่จะยื่นกู้ได้แล้ว ผู้กู้จะรู้ ผลอนุมัติได้ในเวลาเพียง 5-10 นาที 

เทคโนโลยีที่นําเข้ามาเปลี่ยนแปลงธุรกิจทางการเงินมีองค์ประกอบใดบ้าง ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกเทคโนโลยี AI สัญชาติไทยที่หลายคนอาจคุ้นหูกันมาบ้างกับ 'มันนี่ทันเดอร์' แอปสินเชื่อออนไลน์ที่พัฒนาโดย ABACUS digital เป็น Underwriting tool เพียงไม่กี่ตัวในประเทศไทยที่พัฒนาโดย Tech team คนไทยแบบ 100%

จุดเริ่มต้นของ Alternative data 

จากโจทย์ใหญ่คือการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ และการเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน ABACUS digital พบว่า ผู้กู้มีข้อมูลที่หลากหลาย แต่ที่ผ่านมาข้อมูลดังกล่าวอาจไม่เคยนํามาใช้ในการวิเคราะห์ความเสี่ยง อาทิ transaction รับจ่ายของร้านค้าออนไลน์, ใบแจ้งหนี้ค่าน้ำ/ค่าไฟ และ ข้อมูลโทรศัพท์มือถือ ข้อมูลทางเลือก (Alternative data) ล้วนเป็นข้อมูลที่เอื้อประโยชน์ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงของผู้กู้ จึงเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสของทีมในการ crack หา solution เพื่อแก้ไขปัญหานี้

1. การดึงและประมวลข้อมูล (Data extraction and processing) 

ABACUS Digital ได้ทํางานร่วมกับพาร์ทเนอร์หลาย ๆ เจ้าเพื่อช่วยพัฒนา data API เพื่อให้เราสามารถดึงข้อมูลประกอบการพิจารณาสินเชื่อได้อัตโนมัติโดยอาศัยข้อมูลกว่า 25 ล้านจุดที่ประมวลผล ลด operating cost หรือในบางข้อมูลที่ไม่มี API รองรับ เราก็ได้สร้างเทคโนโลยีภายในเพื่อช่วยในการ digitize ข้อมูลเหล่านั้น ตัวอย่างเช่น ข้อมูลจาก statement ธนาคาร เป็นต้น การประเมินความเสี่ยงจึงสามารถให้บริการกลุ่มเปราะบาง มีรายได้น้อยได้

2. การตรวจจับการฉ้อโกง (Fraud detection) 

การใช้อัลกอริทึมหรือเทคนิคทางสถิติต่าง ๆ เช่น anomaly detection หรือ network analysis เพื่อช่วยในการตรวจจับพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงเป็นพฤติกรรมฉ้อโกงอัลกอริทึมเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อมองหาพฤติกรรมที่ผิดปกติและระบุสัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกถึงการฉ้อโกงได้

3. การประมาณการรายได้ (Income estimation) 

การประมาณการรายได้ของผู้สมัครสินเชื่อโดยใช้แหล่งข้อมูลที่หลากหลายขึ้น ซึ่งรวมถึงข้อมูลทางการเงินจาก statement, ข้อมูลธุรกรรมจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ และปัจจัยอื่น ๆ 
ประกอบกับอัลกอริทึมและเทคนิคด้านสถิติต่าง ๆ ที่เข้ามาช่วยเพื่อให้การประมาณการเหล่านี้แม่นยําและรวดเร็วขึ้น ซึ่งโมเดลรายได้ที่ดีเป็นส่วนสําคัญในการประมาณการวงเงินที่เหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่มที่ทําธุรกิจหรือไม่ได้มีรายได้ประจํา

4. การประเมินความเสี่ยง (Risk assessment) 

การเสริมสร้างโมเดลทํานายความเสี่ยงด้วยเทคนิค AI/ML ใหม่ ๆ ที่เรียนรู้จากข้อมูลที่หลากหลายมากขึ้นและปริมาณมากขึ้น เช่น ข้อมูลการใช้งานโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ประเมินความเสี่ยงของผู้กู้ได้อย่างแม่นยํา ทําให้เราสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงและตัดสินใจในการปล่อยสินเชื่อได้อย่างถูกต้องมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ระบบก็ทําการพิจารณาได้อัตโนมัติ ช่วยลดต้นทุนในการพิจารณา ทําให้อนุมัติสินเชื่อขนาดเล็กได้ตั้งแต่วงเงิน 1,000 บาท ซึ่งเป็นปัจจัยสําคัญในการปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มที่มีรายได้น้อยหรือรายได้ไม่มั่นคง

5. การติดตามหนี้ (Collection) 

เป็นส่วนที่สําคัญในการทําให้เราสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงได้ซึ่งการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการนี้สามารถนําการวิเคราะห์ข้อมูล หรือ AI เทคนิคมาช่วยได้ในหลากหลายรูปแบบ เช่น การวิเคราะห์ความสามารถของ agent การทําโมเดลทํานายความยากง่าย (Collection score) หรือการ optimize ช่องทางและวิธีการในการเรียกเก็บ เป็นต้น

ทดสอบ วัดผล และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

จุดเริ่มต้นในปี 2019 ทางทีมได้ใช้เพียง 10 ตัวแปร 4 ปี และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนในปัจจุบันมีการใช้โมเดลวิเคราะห์ความเสี่ยงถึง 2,000 ตัวแปร คุมความเสี่ยงได้ดีทําให้ตัวเลข NPL ของมันนี่ทันเดอร์ตํ่ากว่าตลาดถึง 3 เท่า 

ยิ่งไปกว่านั้น การสร้างระบบการเงินที่ครอบคลุมและเข้าถึงได้มากขึ้นในประเทศไทย การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลเป็นสิ่งสําคัญ หากมีการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เช่น การร่วมมือกับพาร์ทเนอร์หรือรัฐบาลเพื่อนําข้อมูลมาพัฒนาและปรับปรุงระบบ ก็จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงทางการเงินในอนาคตได้มากขึ้น

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะเบื้องหลังดีล Zipevent และ Link Station Group สู่การขยายธุรกิจอีเวนต์ในภูมิภาค SEA

การเข้าซื้อกิจการระหว่าง Zipevent แพลตฟอร์มจัดการอีเวนต์และจำหน่ายบัตรออนไลน์ในประเทศไทย กับ Link Station Group บริษัทญี่ปุ่นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบจำหน่ายบัตร (Ticketing System) ถือเ...

Responsive image

KBank x Orbix Technology x StraitsX สาธิตการชำระเงินข้ามพรมแดนด้วยบล็อกเชนที่ SG FinTech Festival 2024

ธนาคารกสิกรไทยร่วมกับ Orbix Technology และ StraitsX เปิดตัวนวัตกรรมชำระเงินข้ามพรมแดนด้วย e-Money on Blockchain ในงาน Singapore FinTech Festival 2024 ชูศักยภาพฟินเทคไทยบนเวทีโลก...

Responsive image

‘Yindee’ แชตบอตในแอป ttb Touch ใช้ Gen AI จับความรู้สึก ตอบเร็วและฉลาดกว่าที่เคย

Yindee แชตบอตที่อยู่บน Mobile Banking ของ ttb ทำงานผ่านแอป ttb Touch สามารถจับ Mood & Tone ของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ ว่าขณะแชตนั้น ลูกค้าอยู่ในอารมณ์ไหน ด้วย Generative AI โดย Azur...