เมื่อได้ยินคำว่า 'ความโปร่งใส' หรือ 'transparency' สิ่งแรกที่จะนึกถึงคืออะไร? หนึ่งในคำตอบนั้นอาจจะเป็นการแบ่งปันสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็น ไอเดีย สิ่งต่างๆ ที่ตัวเองคิดเพื่อให้เกิดความโปร่งใสอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม การจะแบ่งปันสิ่งเหล่านั้นอย่างเปิดเผยและอย่างตรงไปตรงมาต้องอาศัยความกล้าเป็นอย่างมาก ซึ่งนี่จะเป็นการเปิดให้เกิด 'การถกเถียงอย่างตรงไปตรงมาและอย่างเปิดเผยได้อย่างอิสระ' แน่นอนว่าไม่ว่าในสังคมใดก็ตาม การเปิดให้ผู้คนได้มีส่วนร่วมในการโต้แย้ง ถือว่าเป็นสังคมที่เปิดกว้าง ไม่เว้นแม้กระทั่งในระดับองค์กร
"ความโปร่งใสอย่างสุดโต่ง" (Radical transparency) คือการสร้างวัฒนธรรมที่ตรงไปตรงมา มีความซื่อสัตย์ในการสื่อสาร และประกาศกลยุทธ์ของบริษัท เพื่อให้ทุกคนทราบและไว้วางใจและภักดีต่อความเป็นไปขององค์กร สำหรับผู้นำแล้ว การสร้างความโปร่งใสอย่างชัดเจนได้นั้นจะเป็นวิธีสร้างความไว้วางใจให้กับพนักงาน
Ray Dalio เป็นที่รู้จักกันดีในการเป็นทั้งผลการดำเนินงานที่น่าทึ่งในตลาดหุ้นมานานหลายทศวรรษ เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทกองทุนป้องกันความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Bridgewater Associates ไปจนถึงเป็นผู้เขียนหนังสือขายดีอย่าง Principles: Life and Work Dalio ได้เปิดเผยในหนังสือว่า "ความโปร่งใสอย่างสุดโต่ง" มีความสำคัญเพียงใดต่อความสำเร็จในการบริหารธุรกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของเขา
เขากล่าวว่า "เมื่อคุณตัดสินใจแล้วว่าคุณต้องการที่จะสร้างความโปร่งใสให้เป็นวัฒนธรรมพื้นฐานขององค์กร คุณต้องเต็มใจที่จะเปิดให้เกิดความเห็นเเย้งเเบบมีเหตุมีผล (Thoughtful disagreement) ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย และน้อยคนนักที่กล้าพอที่จะมีบทสนทนาเช่นนี้ในองค์กร เขาทำได้อย่างไร? นี่คือ 3 วิธีการสร้างความโปร่งใสอย่างสุดโต่งที่ Ray Dalio ใช้ในการบริหารและสร้างบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
เพื่อเป็นการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมครั้งใหญ่ที่ช่วยให้คนในองค์กรได้พัฒนาอัตลักษณ์ของตนเองอันดับแรกต้องเริ่มต้นด้วยการเปิดโอกาสให้แต่ละคนมีบทสนานาส่วนตัวก่อน Ray แนะนำตัวอย่างการเปิดบทสนทนาเพื่อสร้างความไว้วางใจได้ อย่างเช่น "ฉันควรบอกคุณไหมว่าฉันคิดอย่างไรกับเรื่อง X" หรือ "ถ้าคุณบอกฉันว่าคุณคิดอย่างไรกับเรื่อง X คุณสามารถรู้สึกสบายใจได้นะ" เมื่อทุกคนเห็นด้วยกับเรื่องนี้ก็จะสามารถสร้างความความจริงใจ และไว้วางใจซึ่งกันและกันได้
แน่นอนว่าลิมิตหรือความสุดโต่งของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน ในแต่ละองค์กรก็เช่นกัน ควรจะมีการกำหนดขอบเขตที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมองค์กรด้วย Ray กล่าวว่า บริษัทส่วนใหญ่ที่เขาทำงานด้วยจะมีเส้นแบ่งขอบเขตที่ชัดเจนในแง่ของความถูกต้องตามกฎหมาย
ผู้นำจะต้องสร้างวัฒนธรรมของการมีความซื่อสัตย์ และแบ่งปันกับคนในองค์กรว่าพวกเขาจะมีการพัฒนาหรือปรับปรุงได้อย่างไรในทุกๆ โอกาส เมื่อคนในองค์กรมองเห็นผลประโยชน์ร่วมจากพฤติกรรมดังกล่าว ก็มีแนวโน้มว่าการสร้างวัฒนธรรมนี้จะง่ายขึ้น ผู้นำต้องพยายามสร้างอย่างมีสติเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการพูดจาลับหลัง หรือมีความลับในองค์กร
แน่นอนว่าการที่บริษัทจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องได้นั้นต้องอาศัยการมีบทสนทนาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และผู้นำยอมรับความโปร่งใส ก็จะสามารถสร้างพลังใหม่ๆ ที่ดีสู่วัฒนธรรมองค์กรได้
อ้างอิง Inc.
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด