วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทีมงาน Techsauce ได้จัดงาน Start it Up Conference ครั้งที่ 8 งานสัมมนาสำหรับชาว Startup ไทยรายแรก ที่จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเกือบ 4 ปีเต็ม โดยครั้งนี้เราได้เชิญวิทยากรทั้งไทยและเทศมากมาย มาแบ่งปันประสบการณ์ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีการแข่งขัน Startup Pitching และการออกบูธกิจกรรมของนักลงทุนและบริษัท Startup อีกด้วย
Session 1: Open Ceremony + สรุปเทรนด์ครึ่งปีแรก
ในช่วงเปิดงาน อรนุช เลิศสุวรรณกิจ (Mimee) และ อมฤต เจริญพันธ์ (Aim) ผู้ร่วมก่อตั้ง Techsauce ได้มาร่วมสรุปเทรนด์ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น
Ecosystem ปัจจุบันใน Startup ไทย
ทั้ง VC, กลุ่ม Angel, Incubator/Accelerator, Coworking Space ด้าน Tech และกลุ่ม Supporter ต่างๆ
ยอดการลงทุนในช่วงครึ่งปี 2015 มีใครบ้าง?
หมายเหตุ : สำหรับท่านใดที่สนใจนำภาพดังกล่าวไปใช้งาน รบกวนให้เครดิตกับทีมงานผู้รวบรวม เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทีมงานในการพัฒนา Report ที่มีประโยชน์กันต่อไปด้วยนะคะ ^_^
ซึ่งรายงานสถิติต่างๆ จะนำมาเผยแพร่แบบเต็มๆ เร็วๆ นี้
หลังจากนั้น ดร.การดี เลี่ยวไพโรจน์ Managing Director C asean ได้ขึ้นมากล่าวถึง Startup Index
ซึ่งเกิดจากผลสำรวจผู้ประกอบการรายย่อยของไทยโดย C asean ร่วมมือกับ Techsauce โดย Digital Platform ที่คนส่วนใหญ่ใช้กันคือ Cloud storage system รองลงมาคือ E-document/Paperless System และ Online Conference
อะไรเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการกังวลในการใช้ Digital Platform
เหตุผลที่องค์กรเลือกใช้ Digital Platform
Session 2: Opportunities and Challenges of Startup’s scaling in SEA
ในช่วงนี้แขกรับเชิญประกอบด้วย ดร.การดี เลี่ยวไพโรจน์ (Managing Director C asean) , ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา (CEO Priceza) และ Harprem Doowa (CEO Whatsnew)
ดำเนินรายการโดย รุ่งโรจน์ ศิริพรมงคล (Tui) ผู้ร่วมก่อตั้ง Techsauce
- เมื่อคิดจะสร้าง Product ให้คิดระดับภูมิภาคเลยตั้งแต่แรก
- ต้องยอมรับว่าภาครัฐฯ ของประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์และมาเลเซีย อย่าง SPRING และ MAGIC ให้การสนับสนุนที่ชัดเจน มีกฏระเบียบที่ชัดเจนสำหรับ Startup ในขณะที่บ้านเรายังไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบชัดเจนโดยตรง
- เวียดนาม และอินโดนีเซียยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจ มีการเติบโตสูงโดยเฉพาะธุรกิจสายอีคอมเมิร์ซ
- การขยายธุรกิจไปต่างประเทศแนะนำว่าคุณต้องมีคนพื้นที่ช่วยในการดำเนินธุรกิจ เพราะเข้าใจตลาดท้องถิ่นได้ดีกว่า
- ในบางสถานการณ์เราสามารถเรียนรู้ทั้งข้อดีและความผิดพลาดจากคู่แข่งที่เข้าไปก่อนได้ และเค้าช่วยในการ Educate ตลาดให้เราก่อนด้วย
- ยอมรับว่าการจดบริษัทในฮ่องกง และสิงคโปร์ช่วยทำให้การดำเนินธุรกิจกับต่างชาติง่ายกว่า และดึงดูดนักลงทุนต่างชาติอีกด้วย ซึ่งนักลงทุนต่างชาติจะเข้าใจกฎหมายของ 2 ประเทศนี้มากกว่าบ้านเรา
- นักลงทุนปกติจะมี Checklist ว่าต้องคำนึงเรื่องอะไรบ้างในการลงทุน และการโอนเงินข้ามประเทศ (ความยากลำบาก) ภาษีก็เป็นหนึ่งในหัวข้อนั้น
- เอกสารต่างๆ ของบริษัทต้องเป็นมาตรฐานเตรียมไว้ให้ดีแต่แรก วันนึงที่คุณต้องขยายธุรกิจต้องมีข้อมูลพร้อม ทำให้การขยายไปต่างประเทศรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
- Product/Market fit ครองตลาดในประเทศตัวเองให้ได้ ก่อนขยายไปสู่ประเทศอื่น อย่าขยายออกไปตั้งแต่วันแรก (Keep in mind that we have to go one day but not day one)
Session 3: How to scale startup's business: The story of 2C2P
Aung Kyaw Moe :Group CEo 2C2P
- แรงกระตุ้นสำคัญในการดำเนินธุรกิจของเขาคือ มีความต้องการอยากทำมากๆ แม้ตัวเขาเองยังไม่ได้รู้เรื่องนั้นมากนัก
- ในช่วงเริ่มต้น เงินทุนที่ได้มาจะมาจาก 3Fs Family, Friends, Fools ซึ่งต้องสื่อสารถึงความตั้งใจของคุณ , แผนงาน รวมถึงความเสี่ยงด้วย โดยเพื่อนควรเป็นเพื่อนที่มีสัมพันธ์ที่ดีและมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องและเสริมกัน
- Family ส่วนหนึ่งเพราะเค้ารักในตัวคุณ ก็เป็นความเสี่ยงเช่นกัน เพราะไอเดียของคุณอาจไม่ได้ดีพอ แต่เค้าก็สนับสนุน
- Friend เมื่อคุณได้รับการสนับสนุนเรื่องเงินจากเพื่อนของคุณ เขาจะคิดว่าเขาก็เป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจของคุณ ถ้ามีปัญหากันก็เป็นความเสี่ยงคืออาจเสียเพื่อนได้ด้วยเช่นกัน
- กับ Friend และ Fools ไม่ควรขอในสิ่งที่เกินความสามารถที่เขาจะให้ได้
- สิ่งที่ควรให้คือหุ้นส่วน ไม่ควรเป็นเงินกู้
Angel
- ในช่วงที่เรายังเป็นบริษัทเล็กๆ แน่นอนการไปคุยกับบริษัทใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่าย โชคดีที่เวลานั้นเขามีนักลงทุน Angel ที่ช่วยแนะนำและเชื่อมโยงเข้าไปให้ได้, ช่วยเป็นที่ปรึกษา และจัดหาคน ดังนั้นการเลือก Angel Investor ก็สำคัญเช่นกัน ต้องเลือกให้ดี ดูว่าเขาเชี่ยวชาญด้านไหน และความเสี่ยงคือการขอหุ้นจำนวนมาก และเข้ามาควบคุม
- สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง - Advisor ที่เข้ามาแล้วบอกว่าจะขอหุ้นจากคุณ, Guaranteed Return Seeker, Term Sheet Guy,Idea Thief, Financial Controller, The Broker
VC
- สิ่งที่คุณควรทำความเข้าใจ - เข้าใจ financial models และการ projection, Pitching Skills, ทำความรู้จักกับคำต่างๆ ที่ VC ใช้กัน, โอกาสที่จะได้ฝึก Pitch กับ Investor, รับได้กับสิ่งที่คนวิจารณ์ และนำมาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง, เข้าใจเรื่อง Term Sheets
- การฝึก Pitch บ่อยๆ ทบทวนหลายๆ ครั้ง จะทำให้คุณเก่งขึ้น, การ Pitch ที่ดีอาจยังไม่ได้รับการลงทุน แต่จะเป็นการพูดคุยกันต่อในครั้งถัดไป, การ Pitching กับนักลงทุนที่หลากหลาย จะทำให้คุณเก่งขึ้น และรู้ว่าอะไรเป็นจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุง
- ในการ Pitch จริงๆ กับ VC สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีก นอกจากการนำเสนอคือ Pre-Money Valuation, Term Sheet และธุรกิจของเราสอดคล้องหรือสนับสนุนธุรกิจอื่นๆ ใน Portfolio ด้วยหรือเปล่า เป็นต้น
- สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง - VC ที่ไม่มีประสบการณ์ด้าน Startup ในทีมมาก่อน, กลุ่มที่เอาแต่พูดแต่ไม่ทำ, ไม่บอกที่มาของเงินทุน
- VC ที่มาจากสายธุรกิจเดียวกันนั้นก็มีทั้งข้อดี ข้อเสีย ข้อดีคือ เขาเข้าใจธุรกิจคุณมากกว่า VC จากสายธุรกิจอื่น แต่ก็ต้องระวังอาจจะโดนหลอก เพราะเล็งเห็นว่าธุรกิจจะโต แต่อาจบอกว่าไปได้ยาก เพื่อต้องการซื้อหุ้นในราคาต่ำๆ กว่าศักยภาพจริงของคุณ
Credit: บทสรุปนี้เกิดจากการรวบรวมโดยทีมงาน TechSauce และ Guest Post :
Parin Songpracha Former Head of eCommerce, Cp All และ Former eCommerce Director, DHL