ธุรกิจค้าปลีก ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงและต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากวิถีชีวิตของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดจากห้างสรรพสินค้าหลายแบรนด์ที่ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์และการให้บริการให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า ตั้งแต่ร้านค้าปลีกขนาดเล็กไปถึงห้างสรรพสินค้า และการเปิดให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้ 

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในแต่ละครั้ง ได้นำไปสู่คำที่คุ้นหูในแวดวงธุรกิจ เช่น E-commerce ในยุค Retail 3.0 ที่เป็นจุดเปลี่ยนการค้าปลีกสู่โลกออนไลน์ หรือ Omni-channel และ Personalization ในยุค Retail 4.0 ซึ่งเป็นยุคแห่งการเกิด Super app ที่หลายท่านกำลังใช้งานอยู่ในขณะนี้ แน่นอนว่าธุรกิจค้าปลีกไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นี้ เพราะปัจจุบันเรากำลังจะเข้าสู่ยุค Retail 5.0 แล้ว 

เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจมากขึ้น Techsauce ได้เชิญคุณ Khong Sheau Yan, Head of Consumer Experience Portfolio, Fujitsu APAC บริษัทที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจค้าปลีกมาอย่างยาวนาน มาร่วมพูดคุยถึงเทรนด์ธุรกิจค้าปลีกและ Digital solutions ที่น่าสนใจในการประกอบธุรกิจในยุค Retail 5.0

Retail 5.0 คืออะไร

Retail 5.0 คือ ยุคที่ธุรกิจค้าปลีกให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น หรือที่เรียกกันว่า Hyper-personalization และเน้นความสะดวกสบายด้วยการจัดการปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับลูกค้า ข้อมูลจาก PricewaterhouseCoopers International Limited (PwC) ชี้ว่าการเข้าสู่ Retail 5.0 มีหลายสิ่งที่ธุรกิจค้าปลีกต้องให้ความสำคัญ ได้แก่ 

• Frictionless retail service: มุ่งเน้นไปที่การลดอุปสรรคในการซื้อสินค้าของลูกค้าเช่น ลดขั้นตอนการรอคิวชำระเงิน 
• Extreme personalization:  การนำเสนอสินค้าและโปรโมชันที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของลูกค้าแบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ 
• Reimagine loss prevention:  การป้องกันการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นจากการสูญเสียเงินทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย 
• Customer managed relationship: การให้ความสำคัญกับสิทธิของผู้บริโภคในการติดต่อกับผู้ให้บริการค้าปลีก เช่น กฎหมาย Personal Data Protection Act (PDPA) 
• Proactive retailers: การเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าเชิงลึก เพื่อเสนอสิ่งที่ลูกค้าอาจไม่ทราบว่าต้องการ 
• Device as a Customer (DaaC): การใช้อุปกรณ์ในการเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างละเอียด เพื่อส่งมอบสินค้าที่ลูกค้าต้องการ โดยอุปกรณ์อาจสั่งซื้อสินค้าแทนลูกค้า เช่น เครื่องซักผ้าสั่งผงซักฟอก หรือตู้เย็นสั่งสินค้าเติม

เทรนด์ความยั่งยืนในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก

นอกเหนือจากเทคโนโลยี อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทต่อธุรรกิจค้าปลีกในอนาคตคือ เรื่องของความยั่งยืน โดยปัจจุบันได้มีการคาดการณ์เทรนด์ความยั่งยืนที่จะเกิดขึ้น ดังนี้ 

• Resale in retail การชวนผู้บริโภคนำสินค้ากลับมาขายซ้ำเห็นได้จากหลายธุรกิจผุดแคมเปญนำสินค้ามือสองมาขายอีกครั้ง 
• Sustainable supply chain การลดมลพิษในการขนส่ง ปัจจุบันข้อมูลแสดงห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ของธุรกิจค้าปลีก มีส่วนทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHGs) ถึง 25% ทั่วโลก ทำให้ผู้ค้าปลีกริเริ่มปรับปรุงการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน เพื่อสนับสนุนด้านความยั่งยืน โดยจุดหลัก คือการตรวจสอบย้อนกลับของผลิตภัณฑ์และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในห่วงโซ่อุปทานที่ถือเป็นอันดับความสำคัญสูงสุด
• Technology enables sustainability progress เทคโนโลยีที่ช่วยให้ความคืบหน้าทางด้านความยั่งยืนเป็นไปได้ 
  แพลตฟอร์มที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานและการใช้คาร์บอนไดออกไซด์ เป็นตัวอย่างของวิธีการนำเทคโนโลยีมาช่วยในธุรกิจค้าปลีกเพื่อสร้างความยั่งยืน ตัวอย่างเช่น บล็อกเชนและปัญญาประดิษฐ์ บล็อกเชนช่วยเสริมสร้างด้านความยั่งยืนโดยการเพิ่มระดับการตรวจสอบย้อนกลับและความโปร่งใสในการดำเนินการของห่วงโซ่อุปทานของผู้ค้าปลีก ในขณะที่ปัญญาประดิษฐ์ช่วยเสริมสร้างให้เกิดประสิทธิภาพในหลากหลายด้าน เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์หรือการคาดการณ์ที่แม่นยำ ซึ่งช่วยลดการสูญเสียจากสินค้าคงคลังส่วนเกิน
• Regulation framework กรอบกฎระเบียบ 
  การนำเทคโนโลยีมาใช้ในระบบเพื่อตรวจสอบความโปร่งใสในการประกอบธุรกิจ การกำหนดเฟรมเวิร์ก กฎระเบียบ และรายงานที่มีมาตราฐานระดับสากล จะต้องระบุอย่างละเอียดต่อผู้บริโภคโดยเฉพาะ 

ภารกิจใหม่ของฟูจิตสึ ในการสร้างความยั่งยืนสู่ธุรกิจค้าปลีกภายใต้แบรนด์ Fujitsu Uvance

เพื่อตอบสนองเทรนด์ความยั่งยืนและช่วยให้ธุรกิจค้าปลีกประสบความสำเร็จ เราได้เปิดตัวแบรนด์ Fujitsu Uvance ที่เน้นให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์หลักที่แตกต่าง 7 ด้าน พร้อมกับนวัตกรรมที่พร้อมสนับสนุนและแก้ไขปัญหาทุกด้าน ทั้งการบริหารจัดการหน้าร้านและหลังร้าน การขนส่ง และกระบวนการผลิตที่โรงงาน เรียกได้ว่าเป็นการสนับสนุนและบริการที่ครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ฟูจิตสึ  ยังให้ความสำคัญในมิติ 3 ด้าน ได้แก่ คน (People) ความเจริญรุ่งเรือง (Prosperity) และ โลก (Planet) 

และแน่นอนว่าเพื่อตอบโจทย์ในด้านต่างๆ เหล่านี้ ฟูจิตสึ ได้พัฒนาโซลูชันที่พร้อมมอบให้กับธุรกิจค้าปลีกมาอย่างครบถ้วน 

Digital solutions จาก ฟูจิตสึ ที่พร้อมตอบโจทย์ธุรกิจค้าปลีกในยุค Retail 5.0 คือ

Unified omni-channel platform 

ที่เชื่อมต่อระบบออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพบนแพลตฟอร์มเดียวกัน ซึ่งสามารถให้บริการได้กับธุรกิจค้าปลีกทุกประเภท เช่น ร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า และสถานีน้ำมัน โดยแพลตฟอร์มนี้สามารถเชื่อมต่อระบบธุรกิจแต่ละประเภทเข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้ซอฟแวร์ที่ทันสมัย เช่น GK Software ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ เช่น  

• Mobile POS ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า โดยไม่ต้องเดินไปที่เคาน์เตอร์ สามารถชำระเงินบนมือถือหรือแท็บเล็ตได้  
• Self-scanning ช่วยให้ลูกค้าสามารถสแกนสินค้าและชำระเงินด้วยตนเองบนมือถือได้
• Self-checkout เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้ายิงบาร์โคดสินค้าและชำระค่าสินค้าโดยตรงกับเครื่องด้วยตัวเองในยุคดิจิทัล 
• Cashier Free Store เป็นร้านค้ารูปแบบใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องมีพนักงานขาย ลูกค้าสามารถหยิบสินค้าแล้วออกจากร้านได้เลย โดยร้านค้าได้ติดตั้งระบบชำระเงินอัตโนมัติไว้แล้ว นับเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดระยะเวลาในกระบวนการซื้อสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Data analysis and Hyper-personalization 

การวิเคราะห์ข้อมูลและการปรับเปลี่ยนส่วนบุคคลขั้นสูง การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence for Retail หรือ AIR) มาใช้ในการพัฒนาร้านค้า โดยมีการใช้ Dynamic pricing หรือการใช้อัลกอริทึมในการกำหนดราคาสินค้าเพื่อให้ร้านค้ามีกำไรมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนส่วนบุคคลขั้นสูง (Hyper-personalization) ซึ่งใช้เทคโนโลยี เพื่อมอบโปรโมชันและสินค้าที่ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคลให้กับลูกค้าแบบเรียลไทม์

การวิเคราะห์ข้อมูลและ AI เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของร้านอาหารบริการด่วน (Quick Service Restaurant หรือ QSR)

การใช้ข้อมูลเพื่อคำนวณปริมาณวัตถุดิบที่จะสั่งซื้อเพื่อลดการทุจริต พร้อมทั้งการจัดการกระบวนการปรุงอาหารเพื่อรักษาคุณภาพอาหารให้ดีที่สุดและรักษาความพึงพอใจของลูกค้านอกจากนี้ยังมีระบบจัดการการส่งอาหารที่ช่วยให้การขนส่งถูกต้องและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 

Profit protection data analytics and AI for fraud detection 

การป้องกันการทุจริตด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลและเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าและช่วยตรวจจับการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นทั้งจากฝั่งลูกค้าและพนักงานขาย

Track & Trust 

การใช้บล็อกเชน (Blockchain) เพื่อตรวจสอบกระบวนการผลิต แหล่งที่มาของวัตถุดิบ และรายละเอียดการขนส่งตลอดเส้นทางของสินค้าเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าได้ผ่านกระบวนการผลิตอย่างถูกต้องและถูกกฎหมายสอดคล้องกับหลักการของ Sustainable Development Goals (SDGs) ของ United Nations

Quantum-inspired computing accelerates route optimization 

การนำ Fujitsu Digital Annealer ที่ได้นำเทคโนโลยีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากควอนตัม มาใช้ในการคำนวณเส้นทางการขนส่งสินค้า เพื่อให้ได้เส้นทางที่เร็วที่สุด ค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) น้อยที่สุด   

Generative AI for improving customer service 

Generative AI ที่อยู่บน Fujitsu Kozuchi แพลตฟอร์ม AI ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัทฟูจิตสึ สามารถปรับปรุงการให้บริการกับลูกค้า โดยช่วยให้ลูกค้าค้นหาข้อมูลได้ครบถ้วนและรวดเร็วที่สุด เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า 

ซึ่งจากโซลูชันทั้งหมดนี้ ฟูจิตสึ ยังมีบริการหลังการขาย (Retail Managed Services) ที่พร้อมให้บริการแบบออนไซต์ ดูแลทั้งระบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ตลอดเวลา 

เห็นได้ชัดว่าโซลูชันทั้งหมดของฟูจิตสึ มาพร้อมกับผลลัพธ์ที่ช่วยสร้างความยั่งยืน ตอกย้ำแบรนด์ Uvance ที่มาพร้อมแนวคิดการทำให้ทุกสิ่ง (Universal) ก้าวไปข้างหน้า (Advance) ผ่านการเชื่อมต่อผู้คน นวัตกรรม สู่โลกที่ยั่งยืน 

สำหรับธุรกิจที่ต้องการเติบโตในยุค Retail 5.0 อย่างยั่งยืน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.fujitsu.com/th/th/ หรือส่งอีเมลมาที่ [email protected]

บทความนี้เป็น Advertorial