
ข่าวการประกาศยุติให้บริการของ foodpanda ในประเทศไทย อาจสร้างความประหลาดใจ และก่อให้เกิดคำถามถึงอนาคตของผู้ใช้งาน ร้านค้า และไรเดอร์จำนวนมาก ทว่าในอีกมุมหนึ่ง สถานการณ์นี้ได้เปิดทางให้ Robinhood (โรบินฮู้ด) แอปพลิเคชันส่งอาหารสัญชาติไทยแท้ ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจาก ‘ยิบอินซอย’ (Yip In Tsoi) กลุ่มบริษัทที่อยู่คู่สังคมไทยมากว่าศตวรรษ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่แข็งแกร่ง และพร้อมดูแลทุกฝ่ายในวงจรเดลิเวอรี
ยิบอินซอย ที่หลายคนอาจรู้จักในหลากหลายมิติทางธุรกิจ กำลังนำประสบการณ์ และความมุ่งมั่นมาสานต่อเจตนารมณ์ ไม่ใช่เพียงเพื่อเข้ามาแทนที่หรือแข่งขันในตลาด แต่เพื่อสร้าง ‘วงจรที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ จากการรับไม้ต่อในครั้งนี้
Techsauce พาไปพูดคุยกับ คุณมรกต ยิบอินซอย ถึงเบื้องหลังการรับไม้ต่อ และวิสัยทัศน์ต่อไปของ Robinhood ที่ต้องการเป็นมากกว่าแอปฯ ส่งอาหาร แต่คือการสร้าง ‘Good to Ecosystem’ หรือการสร้างแพลตฟอร์มที่แคร์ทุกชีวิตในวงจรของ Robinhood
การรับไม้ต่อครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากความต้องการทางธุรกิจ แต่มาจาก ‘ความห่วงใย’ ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน คุณมรกต เล่าถึงวินาทีที่ทราบข่าวการเปลี่ยนแปลงของ foodpanda ว่า
ทันทีที่ foodpanda ประกาศยุติการให้บริการ เราเห็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องติดต่อเข้าไปในทันที ด้วยประสบการณ์ที่เราเคยเผชิญเมื่อครั้งที่ Robinhood (เดิม) ต้องยุติการให้บริการภายในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ทีมงานของเราเข้าใจถึงความซับซ้อน และความวุ่นวายที่จะตามมาเป็นอย่างดี
ร้านค้าที่มีฟู้ดแพนด้าเจ้าเดียวล่ะจะเป็นยังไง แล้วไรเดอร์ที่ชีวิตเค้ายังอยู่กับฟู้ดแพนด้าคนเดียวล่ะจะเป็นยังไง เราก็บอกติดต่อเค้าไปทันทีเลยว่าเราอยากคุยด้วย
ความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่าง Robinhood และ foodpanda จึงไม่ใช่การเข้าซื้อกิจการ หรือการร่วมทุนทางธุรกิจ แต่เป็น ‘Redirect Agreement’ ที่เปรียบเสมือนการ ‘ฝากเพื่อนดูแลต่อ’ เพื่อให้ทุกคนในวงจรได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องผ่านแพลตฟอร์มของ Robinhood
แนวคิดหลักคือ เมื่อร้านค้าอยู่ได้ ไรเดอร์มีกำลังใจ ลูกค้าก็ได้สิ่งที่ดีที่สุด นี่ไม่ใช่แค่ปรัชญาสวยหรู แต่เป็นแนวทางการทำงานที่ Robinhood ตั้งใจทำ
คุณมรกต ขยายความว่า Robinhood ต้องการแสดงให้เห็นว่า แพลตฟอร์มส่งอาหารสามารถสร้างประโยชน์ให้ทุกฝ่ายได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘คุณ’ ซึ่งเป็นลูกค้า จะได้รับอาหารที่มีคุณภาพ บริการที่น่าประทับใจ และราคาที่เป็นธรรม
เราอยากเป็นพริกขี้หนู ที่เล็กแต่ร้อนแรง สัมผัสได้ และหวังว่า Fair & Care Philosophy ของ Robinhood จะสามารถมีผลต่อการปรับพฤติกรรมในอุตสาหกรรม Food Delivery ในไทยได้ค่ะ
ความแตกต่างที่ Robinhood ต้องการสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มนี้ ไม่ใช่การแข่งขันด้วยราคาหรือโปรโมชัน แต่เป็นการสร้าง ‘แอปที่แฟร์ และแคร์คุณ’ ตาม tagline ที่ Robinhood ยึดถือมาโดยตลอด ซึ่งคำว่าแฟร์ และแคร์ในที่นี้ ประกอบไปด้วย 3 ส่วนสำคัญ คือ ไรเดอร์ ร้านค้า และลูกค้า
คุณมรกต เล่าว่า Robinhood เข้าใจดีว่าพี่ๆ ไรเดอร์คือฟันเฟืองสำคัญที่อยู่บนท้องถนน เผชิญทั้งแดด ฝน และความเร่งรีบ จึงต้องการให้ ค่ารอบที่ดีที่สุดในตลาด และที่สำคัญคือ ‘ไม่พ่วงออเดอร์’
นอกจากนี้ Robinhood ยังให้ความสำคัญกับการ คัดกรองไรเดอร์ผ่านระบบ KYC และการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม เพื่อสร้างความมั่นใจ และความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการทุกคน
การไม่พ่วงออเดอร์ไม่เพียงช่วยลดความกดดันให้ไรเดอร์ แต่ยังหมายถึงโอกาสที่ลูกค้าจะได้รับอาหารที่สดใหม่ รวดเร็ว และมีคุณภาพ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของประสบการณ์การสั่งอาหารที่ดี
ส่วนทางฝั่งร้านค้านั้น Robinhood ตั้งเป้าเก็บค่า GP ที่น้อยที่สุด และเป็นธรรมที่สุด เพื่อให้ร้านค้าสามารถตั้งราคาอาหารได้อย่างสมเหตุสมผล และมีกำไรไปพัฒนาธุรกิจของตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง ท้ายที่สุดแล้ว ผลก็จะกลับมาที่ลูกค้า ที่มีโอกาสได้ทานอาหารอร่อยในราคาที่เป็นกันเองมากขึ้น นี่คือแนวคิดของเรา
เมื่อลูกค้า ไรเดอร์ และร้านค้ากำลังจะมีจำนวนมากขึ้นจากการรับไม้ต่อครั้งนี้ Robinhood เองก็เร่งพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อรองรับการใช้งานในอนาคต
เราต้องแข่งกับตัวเองตลอดเวลา เพื่อพัฒนาแอปฯ Robinhood ให้เก่ง และประทับใจลูกค้า และ work กับระบบของเรา เรามีสิ่งที่คิดว่าต้องทำอีกมาก และมีเรื่องใหม่ๆ เข้ามาหาเราตลอดเวลา เมื่อขึ้นเรือ Robinhood มาแล้ว ก็ถึงเวลาต้องออกแรงกันเต็มที่แล้ว
หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญที่ Robinhood ให้ความสำคัญ และเร่งพัฒนาอย่างรวดเร็วคือ การพัฒนาระบบเพื่อรองรับผู้ใช้งานกลุ่มใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ คุณมรกต อธิบายว่า Robinhood ได้ปรับปรุงแพลตฟอร์มจากเดิมที่เน้นภาษาไทยเป็นหลัก ให้รองรับการใช้งานสองภาษาได้ เพื่อมอบความสะดวกให้กับทุกคนไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม
เช่น การแปลเมนูอาหารโดยอาศัยเทคโนโลยี AI ควบคู่กับการตรวจสอบโดยทีมงาน และการพัฒนาระบบสนทนา (Chat) ที่สามารถแปลภาษาระหว่างลูกค้าชาวต่างชาติ และไรเดอร์ไทยได้แบบเรียลไทม์
คุณมรกต เล่าต่อว่า ด้วยความที่ Robinhood เป็นแอปฯ คนไทย เจ้าของเป็นคนไทย มีทีมพัฒนาเป็นคนไทย ทำให้มีความคล่องตัวสูงในการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ขอเพียงแค่ลูกค้า ไรเดอร์ และร้านค้า feedback มาให้เท่านั้น สำหรับประเด็นร้านค้าที่ผู้ใช้อาจยังรู้สึกว่ามีจำนวนจำกัด Robinhood ก็พร้อมรับฟัง และพิจารณานำร้านค้าที่ลูกค้าต้องการเข้ามาในระบบ
เมื่อถามว่าวิสัยทัศน์ต่อไปของ Robinhood คืออะไร ? คุณมรกต บอกว่า ต้องการพัฒนา Robinhood ให้เป็นมากกว่าแอปพลิเคชันส่งอาหาร แต่เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ โดยมีลูกค้าคนสำคัญเป็นศูนย์กลาง
สำหรับทิศทางในศตวรรษต่อไปของยิบอินซอย เรามุ่งเน้นไปที่การดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG (Environment, Social, Governance) และให้ความสำคัญกับการพัฒนาสังคมเป็นอันดับแรก ดังนั้น ธุรกิจใหม่ที่เราเข้าไปมีส่วนร่วมอย่าง Robinhood จึงจำเป็นต้องดำเนินไปในทิศทางที่สอดคล้องกับเป้าหมายหลักขององค์กรด้วยเช่นกัน
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญสำหรับธุรกิจเดลิเวอรี่อาหาร ก็คือเรื่องความยั่งยืนทางอาหาร (Food Sustainability) เมื่อเราถามคุณมรกต มีวิธีจัดการเรื่องนี้อย่างไร ก็ได้รับคำตอบมาว่า เป็นเรื่องที่ Robinhood ไม่ได้มองข้าม โดยเตรียมที่จะนำประสบการณ์จากกยิบอินซอย มาช่วยเสริมในประเด็นนี้
คุณมรกต เล่าว่า ยิบอินซอย ทำเรื่อง Food Sustainability มาเป็นระยะเวลานานแล้ว อย่างในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ครัวของยิบอินซอย ได้นำเศษอาหารที่เกิดขึ้นมาผ่านกระบวนการหมักด้วยโปรไบโอติกส์ เพื่อแปรรูปเป็นปุ๋ยดินอุดม ทำให้ยิบอินซอย สามารถจัดการขยะเศษอาหารภายในองค์กรได้ทั้งหมดโดยไม่สร้างภาระให้กับระบบกำจัดขยะภายนอก
แนวคิดเหล่านี้สามารถนำมาปรับใช้กับ Robinhood ได้ไม่ยาก คุณมรกต บอกว่า ในอนาคตอาจมีการพัฒนาระบบรวมเศษขยะจากร้านค้า หรือตั้ง Food Waste Hub ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้ร้านสามารถนำขยะเศษอาหารมาจัดการได้อย่างถูกวิธี และยังเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมไปในตัว
การจะสร้าง Robinhood ให้เป็นแอปฯ ของคนไทยตามที่ยิบอินซอยหวังนั้น แน่นอนว่าต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ใช้ทุกคน คุณมรกต ยิบอินซอย จึงได้ฝากคำพูดจากใจ และคำเชิญชวนแบบตรงๆ ถึงคนไทยทุกคนเกี่ยวกับการสนับสนุน และเลือกใช้ Robinhood ในฐานะ ‘แอปฯ ของคนไทย เพื่อคนไทย และทำโดยคนไทย
“ที่ยิบอินซอยตั้งใจทำ Robinhood ให้เป็น 'Fair & Care Business Ecosystem' (วงจรที่แบ่งปันและดูแลกัน) ของเดลิเวอรี่ ถ้าทุกคนเข้าใจว่าการ 'Caring' และ 'Sharing' ของเรามันส่งผลถึงแต่ละคนในวงจรยังไงแล้ว...ถ้าทุกคนมาช่วยกันใช้ Robinhood นะคะ มันจะขยายความเป็น 'Caring-Sharing' นี้ไปได้อีกเยอะเลย"
"อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในยิบอินซอย เชื่อมั่นใน Robinhood เชื่อในสิ่งที่พวกเราตั้งใจทำ บางทีมันก็อาจจะไม่ได้เพอร์เฟคทุกอย่างนะ แต่มันเป็นสิ่งที่คนไทยเราทำกันเอง เราตั้งใจทำ มีอะไรผิดพลาดเราก็ตั้งใจแก้ไข ถ้าคุณเห็นแล้วคุณเชื่อ คุณก็ลองใช้ดู ลองเอ็นจอยกับความรู้สึกที่ว่า ทุกๆ ออเดอร์ที่คุณสั่งผ่าน Robinhood คุณได้เผื่อแผ่ไปให้ทุกคนในวงจรแล้วนะ”
ทุกๆ การใช้งาน Robinhood คุณคือส่วนหนึ่งของ Caring Society ค่ะ
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Robinhood ‘แอปไทยเพื่อคนไทยทุกคน’
สัมผัสประสบการณ์สั่งอาหารที่ ‘ส่งไว ค่าส่งเป็นธรรม’ กับ Robinhood พร้อมรองรับการใช้งานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อให้ทุกคนใช้งานง่าย สะดวกสบาย
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด