ในขณะที่ภาครัฐกำลังผลักดันประเทศไทยเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 ผ่านกิจกรรมและโครงการหลากหลายรูปแบบ ภาคเอกชนเองก็ตื่นตัวตอบรับแนวคิด ‘เศรษฐกิจยุคดิจิทัล ในการร่วมสนับสนุนภาครัฐไปในทิศทางเดียวกัน ดังเช่นงานใหญ่อย่าง Startup Thailand 2017 ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งไม่เพียงแต่หลากหลายหน่วยงานจากภาครัฐ แต่ภาคเอกชนก็เข้าร่วมสนับสนุนอย่างเต็มที่ หนึ่งในนั้นคือภาคธนาคารอย่าง ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนตั้งแต่ปีที่แล้ว ในการสนับสนุน Startup ไทย ที่ไม่ใช่เพียงด้าน Fintech เท่านั้น
โดยงาน Startup Thailand 2017 ที่จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 6 – 9 กรกฎาคม 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่เพิ่งจบไป ภาคธนาคารอย่างธนาคารไทยพาณิชย์และ Digital Ventures ได้ร่วมกันสนับสนุนธุรกิจ Startup ในด้านต่างๆ เริ่มตั้งแต่ภายในบูธที่มีบริการ ‘Startup & CVC Clinic’ ในการให้คำปรึกษาผู้ที่สนใจอยากเริ่มธุรกิจ Startup ตั้งแต่มาเป็นเพียงแค่ไอเดีย หรืออาจมีแผนธุรกิจอยู่แล้ว
พร้อมกันนี้ยังมีการแชร์ประสบการณ์จาก Startup ที่ผ่านโครงการบ่มเพาะ Startup หรือ Digital Ventures Accelerator (DvaB0) มาเผยเคล็ดลับการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เช่น Refinn ผู้ให้บริการรีไฟแนนซ์ออนไลน์, OneStockHome แพลตฟอร์มซื้ออุปกรณ์ก่อสร้างออนไลน์ เป็นต้น โดยบริเวณบูธมีการเสวนาใน 3 หัวข้อด้วยกันคือ Why should you join an accelerator? , A Life After DVA และ Digital Payment Innovation in Thailand
นอกจากการพัฒนาด้าน Fintech แล้ว Digital Ventures Accelerator (DVA) เป็นหนึ่งโครงการของที่ธนาคารไทยพาณิชย์สนับสนุน Startup อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 กับการเป็นเหมือนโรงเรียนในการบ่มเพาะ Startup
คุณชาล เจริญพันธ์ Head of Accelerator แห่ง Digital Ventures ได้กล่าวในการเสวนาหัวข้อ Why should you join an accelerator? ว่า หลายบริษัทใหญ่ในประเทศไทยตอนนี้ ตื่นตัวกับการเกิดขึ้นของ Digital Disruption ซึ่งบริษัทใหญ่ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่ออยู่รอด โดยเราได้เห็นตัวอย่างของบริษัทที่ปรับเปลี่ยนตัวเองอย่าง Nokia ที่เป็นการปรับเปลี่ยนจากภายใน แต่จะเห็นได้ว่า ในที่สุดบริษัทก็ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ ธนาคารไทยพาณิชย์จึงมองว่าการร่วมมือจากภายนอกอย่างเช่น Startup บริษัทเล็กๆ หรือ Partner ต่างๆ จะทำให้สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจต่อไปได้
ธนาคารไทยพาณิชย์และ Digital Ventures จึงได้มุ่งมั่นในการผลักดันและบ่มเพาะ Startup รวมถึงการเข้าไปลงทุน FinTech ผ่านบริษัท Digital Ventures ในหลายประเทศ อีกทั้งยังร่วมลงทุนกับ Startup ทั้งไทยและต่างประเทศเพื่อเข้าไปมองหาและศึกษาเครื่องมือใหม่ๆ แล้วนำมาต่อยอดธุรกิจธนาคาร อีกทั้งยังเปิดรับสมัคร Startup เข้าโครงการ DVA Batch 1 ภายในงานนี้อีกด้วย
ความโดดเด่นของ Digital Ventures Accelerator (DVA) คือ ทีมที่ได้รับการคัดเลือก 10 ทีมนั้น นอกจากจะได้รับเงินทุนตั้งต้นทีมละ 300,000 บาท เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ระหว่างที่อยู่ในโครงการแล้ว ยังจะได้รับความรู้ต่างๆ จากหลักสูตรที่ได้รับออกแบบและพัฒนา ให้สอดคล้องกับเป้าหมายมากที่สุดตลอด 6 เดือนเต็ม
โดย DVA สามารถช่วยเชื่อมต่อกับหน่วยธุรกิจต่างๆ ของ SCB เพื่อช่วยทำให้เขาเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ทำให้ธุรกิจของ Startup เติบโตมากขึ้น เพราะทั้งบุคคลทั่วไป บริษัทต่างๆ ต่างก็เป็นลูกค้าของธนาคารอยู่แล้ว นอกจากนี้การสนับสนุนจาก Corporate ยังช่วยให้ Startup ได้รับความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่ง Digital Ventures ต้องการช่วยสร้าง Ecosystem ให้กับวงการ Startup อีกทั้งยังตั้งเป้าว่าจะเป็น Accelerator ชั้นนำในระดับประเทศ และในระดับนานาชาติด้วย
ธนาคารไทยพาณิชย์ยังได้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง Money Market session – a Decade of Disrupting Thai Banks และ มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์ Startup เพื่อให้การเริ่มทำธุรกิจคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยนำ PAYMENT SOLUTION บริการทางการเงินที่ช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้ามาให้บริการ ได้แก่ SCB Ripple, PLUG ‘n PAY, SCB พร้อมเพย์ และ SCB Connect
โดยล่าสุดธนาคารไทยพาณิชย์ยังร่วมมือกับ Ripple และ SBI Remit จากประเทศญี่ปุ่น โดยนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาให้บริการโอนเงินข้ามประเทศแบบ Real-Time โดยนำร่องให้บริการต้นแบบครั้งแรกด้วยบริการโอนเงินข้ามประเทศจากประเทศญี่ปุ่นมายังบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ในประเทศไทยโดยอัตโนมัติภายในเวลา 20 นาทีต่อรายการ พร้อมมีแผนขยายการให้บริการครอบคลุมกลุ่มประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียแปซิฟิกต่อไปในอนาคต
การสร้าง Solution หรือนวัตกรรมใหม่ๆ เป็นสิ่งที่บริษัทใหญ่ๆต้องหันมามองในการสร้างโอกาสทางธุรกิจต่อไป เราจึงเห็นบริษัทใหญ่หลายราย ที่เข้าร่วมในการสนับสนุน Startup โดยธนาคารไทยพาณิชย์เป็นหนึ่งภาคของธนาคารที่ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินเพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในอนาคต พร้อมกับการสร้างโอกาสให้ธุรกิจในยุค Digital Disruption
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด