ทุกวันนี้ หากเราพูดถึงความเคลื่อนไหวของ Corporate เรื่องหนึ่งที่จะถูกยกมาเสมอคือ Digital Transformation แน่นอนว่าไม่ใช่งานง่ายขององค์กรขนาดใหญ่อันมีบุคลากรนับหมื่นคน โดยมีองค์กรไม่กี่แห่งเท่านั้นที่สามารถดำเนินกระบวนการได้อย่างน่าสนใจ ซึ่ง SCG คือหนึ่งในองค์กรเหล่านั้น ล่าสุด หน่วยงานด้าน Digital Transformation ได้ออกมาจัดงานแลถงข่าวประกาศกลยุทธด้านการเฟ้นหานวัตกรรมซึ่งมีเรื่องอัพเดทที่น่าสนใจมากมาย Techsauce จึงถือโอกาสเชิญ ดร. จาชชัว แพส, SCG Corporate Innovation Director และ Managing Director ของ Addventures by SCG มาร่วมพูดคุยถึงรายละเอียด สิ่งที่ได้เรียนรู้ระหว่างทาง และอนาคตของ Digital Transformation ใน SCG
แน่นอนว่าแต่ละองค์กรมีจุดเริ่มต้นกระบวนการ Digital Transformation ที่แตกต่างกัน โดยสำหรับ SCG นั้น เริ่มจากผู้บริหารระดับสูงจึงทำให้เกิดการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนทั่วทั้งองค์กรในเงื่อนไขที่เหมาะสม
ดร.จาชชัว เล่าว่า Digital Transformation ของ SCG เริ่มต้นมาจากความคิดของคุณรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส CEO ของ SCG โดยเริ่มจากการศึกษารูปแบบและความเป็นไปได้ต่างๆ เมื่อราวไตรมาสที่ 3 ของปี 2016 จนกระทั่งผ่านไปครึ่งปี ดร.จาชชัว ก็เริ่มต้นสร้างทีมขึ้นมาในปี 2017 โดยมีวัตถุประสงค์ 2 ข้อด้วยกัน ได้แก่
โจทย์ดังกล่าวเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของบนเส้นทาง Digital Transformation ที่ต้องผ่านการทดลองและเรียนรู้ระหว่างทางมากมาย ไม่ว่าจะเป็น New Business และฝั่งการ Digital Technology Enabler
เริ่มจากในฝั่ง New Business ซึ่งรวมถึง Internal Startup ดร.จาชชัว ตั้งต้นจากการศึกษาขั้นตอนและกระบวนการต่างๆ ที่คิดว่าเหมาะสม ในระยะแรกก็ทำงานกับบริษัทที่ปรึกษาซึ่งมี Founder เป็นระดับอาจารย์ของ Harvard Business School ทำให้การ Setup ระยะแรกมีพื้นฐานที่แข็งแรง ในระยะต่อมา ทีมก็เริ่มขยับขยายไปยังองค์ความรู้อื่นๆ เช่น Business Model Canvas
แต่สุดท้าย ไม่ใช่ความรู้ทุกอย่างที่ได้มาจะเหมาะกับบริบทของ SCG ดังนั้น จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนองค์ความรู้กันตลอดเวลา ดร.จาชชัว ยกตัวอย่างถึง Playbook ของ ZERO TO ONE ก็ยังมีการ Test and Learn ตลอดเวลา
จุดประสงค์ของเราคือ อะไรที่ทีมแรกเรียนรู้แล้วใช้เป็นมาตรฐานได้ เราก็จะให้ทีมที่สองใช้เลย โดยไม่จำเป็นต้อง Fail แบบทีมแรก
ในฝั่งของการลงทุนค้นหานวัตกรรมเองอย่าง Addventures ก็มีการเรียนรู้ระหว่างทางเช่นกัน โดยทีมงานของ Addventures ได้เดินทางไปสำรวจ Ecosystem ของ Startup ทั่วโลก เพื่อมองหาสิ่งที่เหมาะสมที่สุดกับ SCG โดยในระยะเวลาที่ผ่านมา 2 ปี แม้จะยังมีแกนหลักที่มั่นคงเหมือนเดิม แต่ก็ปรับเปลี่ยนอย่างยืดหยุ่นตลอดเวลา สะท้อนจากการไปยังพื้นที่ใหม่ๆ อย่างอินเดียและการพูดคุยกับ Startup จากจีนนับ 10 ราย
“จะเห็นได้ว่า ระหว่างทางมีการ Tweak ข้างใน แต่ Strategy หลักยังคงเหมือนเดิมตลอด อีกตัวอย่างที่เห็นชัด คือ ZERO TO ONE เดิมมี HATCH WALK FLY เพื่อปั้น New Business แต่เราก็เห็นว่าจริงๆ แล้ว หลายรายกลับทำแล้วเสริม Business เดิมของเราได้ เราก็เลยมีเรื่องใหม่ชื่อ Innovation Catalyst บางทีลูกค้าก็สนใจเรื่องที่เราทำก็ขอให้มาแชร์ พอแชร์แล้วพบว่ามีเรื่องที่สนใจร่วมกัน ก็จะผลักดันไปพร้อมกันในรูปแบบ Joint Venture ซึ่งด้วยรูปแบบดังกล่าว ทำให้เราต้องทำงานหนักตลอด” ดร. จาชชัว กล่าว
หลังจากเราได้เห็นถึงที่มาและการปรับเปลี่ยนบนเส้นทาง Digital Transformation แล้ว แน่นอนว่าต้องมีหลายประเด็นทีเดียวที่ SCG ได้เรียนรู้จากกระบวนการดังกล่าว โดย ดร. จาชชัว ได้สรุปเป็น 4 ข้อที่เชื่อว่าเป็นประโยชน์กับทุกองค์กรแน่นอน
ในตอนแรก ทุกอย่างที่ผมทำจะเป็น Small Project และก็หา Quick Win พอคนเริ่มเห็นว่ามันได้เรื่องหนึ่งก็ค่อยๆ เพิ่มเรื่องที่สอง เรื่องที่สามที่ใหญ่ขึ้น แต่เราต้องทำเรื่องที่ทำอยู่ให้แน่นก่อนถึงจะไปเรื่องถัดไป
ผมจะคิดตรงๆ ว่าเราจะกระจายสิ่งที่เราทำได้อย่างไร เช่น การกระจาย Startup Studio ให้ทั่ว SCG ซึ่งแน่นอนว่ามันจะมีคน Success มีคนที่ Fail แค่เราต้องมั่นใจว่า Process ที่ Success จะสามารถทำซ้ำได้ เท่านั้นเอง
เมื่อคุยถึงเรื่อง Digital Transformation จะไม่คุยถึงเทคโนโลยีคงไม่ได้ แน่นอนว่า SCG ได้ตั้งทีม Digital Transformation เพื่อมองหาเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ตอบโจทย์ 2 ข้อข้างต้น ซึ่ง ดร. จาชชัว ก็ได้เล่าถึงแกนเทคโนโลยีที่กำลังจับตามอง โดยมีทั้งหมด 3 แกนด้วยกัน ได้แก่
หลายคนอาจคิดว่า Digital Transformation คือการกระทำที่สิ้นสุดในระยะเวลาไม่นาน แต่ในมุมมองของ ดร.จาชชัว ในฐานะผู้รับผิดชอบด้าน Digital Transformation ของ SCG นั้นมองว่านี่เป็นกระบวนการระยะยาวที่ต้องใช้เวลาต่อเนื่องเป็นสิบปี ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยน SCG เป็น Data Driven Company รวมถึงการลงทุนใน Addventures และ ZERO TO ONE โดย ดร.จาชชัว มองว่า ZERO TO ONE มีโอกาสจะถูกบิดและเปลี่ยนแปลงเยอะที่สุด
นอกจากเวลาที่ยาวนานแล้ว ดร.จาชชัว ยังมองถึงกระบวนการมากกว่าผลลัพธ์ และการลงมือทำล่วงหน้า โดยเฉพาะ Digital Technology อย่าง AI หรือ Blockchain หากไม่สามารถเข้าใจและใช้งานได้เก่งกาจตั้งแต่ตอนนี้ ก็อาจจะไม่ทันเมื่อถึงเวลาต้องใช้งานจริง
และสุดท้าย ความร่วมมือยังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ หากจะอาศัย Startup Ecosystem ในการสนับสนุน Digital Transformation
“อะไรที่ SCG ทำเองไม่ได้ ก็ต้องเชื่อมโยงกับคนข้างนอก และถ้าเขาต้องการ Scale หากขาดความร่วมมือก็ไม่เวิร์ค หน่วยงาน Digital Transformation จึงเป็น Gateway ที่เชื่อมโยงทุกคนนั่นเอง” ดร. จาชชัว กล่าวถึงเป้าหมายของหน่วยงาน Digital Transformation
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด