ก้าวสู่สังคมสูงวัย เป็นโอกาสทองของไทยหรือความท้าทายที่ต้องเผชิญ ? | Techsauce

ก้าวสู่สังคมสูงวัย เป็นโอกาสทองของไทยหรือความท้าทายที่ต้องเผชิญ ?

ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค "สังคมสูงวัย" อย่างรวดเร็ว ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2024 ทาง Techsauce ได้ร่วมฟังการเสวนาในหัวข้อ The Critical Shift to a Green and Healthy Economy ก้าวสู่เศรษฐกิจสีเขียวและสุขภาพ โดย ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษา กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงด้านประชากร ทั้งในมิติของความท้าทายและโอกาสทางเศรษฐกิจที่ซ่อนอยู่ในบริบทของสังคมสูงวัย

จากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรในปัจจุบัน ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ไปจนถึงการลดลงของประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ 

‘สังคมสูงวัย’ ความท้าทายหรือโอกาสของประเทศไทย ?

ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรครั้งใหญ่ โดยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว สัดส่วนของประชากรสูงวัย (อายุ 60 ปีขึ้นไป) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อัตราการเกิดลดลง และประชากรวัยทำงานหดตัว ซึ่งมันส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมอย่างแน่นอน

จากการคาดการณ์จากสถาบันการเงินระดับโลก เช่น ธนาคารโลก และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ระบุว่า ภาวะสังคมสูงวัยอาจทำให้ GDP ของประเทศไทยเติบโตช้าลงประมาณ 1% ต่อปี นับเป็นความท้าทายที่ประเทศไทยต้องเตรียมพร้อมรับมืออย่างเร่งด่วน

ความท้าทายจากสังคมสูงวัย แรงงานลด ภาระเพิ่ม

  • การขาดแคลนแรงงาน: จำนวนประชากรวัยทำงานที่ลดลง ทำให้เกิดการขาดแคลนแรงงานในภาคส่วนต่างๆ ส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิต ฐานภาษี และการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม ภาคธุรกิจอาจประสบปัญหาในการหาแรงงานที่มีทักษะ และต้องปรับตัวด้วยการนำเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติมาใช้ทดแทนแรงงานคน รวมถึงการจ้างงานผู้สูงอายุที่มีศักยภาพ
  • ภาระการดูแลผู้สูงอายุ: สัดส่วนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้ภาระในการดูแลทั้งด้านสุขภาพและสวัสดิการสังคมตกอยู่กับประชากรวัยทำงานมากขึ้น ทั้งในด้านการดูแลโดยครอบครัว และการจัดสรรงบประมาณของภาครัฐเพื่อดูแลผู้สูงอายุ เช่น เบี้ยยังชีพ บริการสาธารณสุข และสถานสงเคราะห์ ซึ่งอาจกระทบต่อฐานะทางการเงินของครัวเรือนและภาครัฐ
  • ต้นทุนทางอ้อมจากปัญหาสุขภาพ: ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักเผชิญกับปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคมะเร็ง ซึ่งนอกจากต้นทุนในการรักษาพยาบาลที่สูงแล้ว ยังมีต้นทุนทางอ้อมอื่นๆ อีกมาก เช่น การสูญเสียรายได้จากการที่ต้องออกจากงานก่อนวัยเกษียณ ค่าใช้จ่ายในการดูแลระยะยาว และผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและครอบครัว

ดร.ศุภวุฒิ เผยว่า การเตรียมพร้อมรับมือสังคมสูงวัย มี 3 ปัจจัยสำคัญที่เราควรโฟกัส ได้แก่ ารป้องกันและดูแลสุขภาพตั้งแต่วัยทำงาน เป็นสิ่งสำคัญในการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในระยะยาว โดยเฉพาะการควบคุมปัจจัยเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น เบาหวาน มะเร็ง ความดัน เป็นต้น

และควรที่จะต้องเร่งพัฒนาทักษะและความรู้ของแรงงาน โดยเฉพาะทักษะที่จำเป็นในยุคดิจิทัล รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงาน การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) และการปรับเปลี่ยนทัศนคติในการจ้างงานผู้สูงอายุ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและชดเชยการขาดแคลนแรงงานได้

สุดท้ายคือ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรด้านบริการสุขภาพ การดูแลผู้สูงอายุ และ wellness เช่น การพัฒนาโรงพยาบาล ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ การฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ และการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพ จะช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและรองรับความต้องการของสังคมผู้สูงอายุ รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อดึงดูดรายได้จากต่างประเทศ

โอกาสในวิกฤต ไทยต้องลุยเศรษฐกิจบริการสุขภาพและ Wellness

ด้าน ดร.ศุภวุฒิ ชี้ว่า แม้สังคมสูงวัยจะนำมาซึ่งความท้าทาย แต่ก็เป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจภาคบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการด้านสุขภาพ การดูแลผู้สูงอายุ และ wellness ซึ่งจากข้อมูลการจัดอันดับของ Global Wellness Institute พบว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูงในด้านนี้ โดยอยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก และอันดับที่ 9 ในภูมิภาค

โดยมีจุดแข็งอยู่ที่บริการที่มีคุณภาพ ต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว และเชี่ยวชาญในบริการแบบ High-touch หรือการให้การดูแลที่เน้นความใกล้ชิดและการปฏิสัมพันธ์โดยตรงระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ เช่น สปา การนวดแผนไทย การแพทย์แผนไทย การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และสถานบริการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ที่ต้องการบริการด้านสุขภาพจากทั่วโลก

ดังนั้น สังคมสูงวัยของไทยจึงไม่ใช่เพียงความท้าทายที่ต้องแก้ไข แต่เป็นโอกาสครั้งสำคัญในการปรับตัวและสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ทั้งในแง่เศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของประชากรทุกช่วงวัย หากทุกฝ่ายร่วมมือกันขับเคลื่อนแนวทางเหล่านี้ ประเทศไทยจะสามารถเปลี่ยนผ่านสู่สังคมสูงวัยได้อย่างมีคุณภาพและมั่นคงในระยะยาว

ข้อมูลจาก งาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2024 ทาง Techsauce ได้ร่วมฟังการเสวนาในหัวข้อ The Critical Shift to a Green and Healthy Economy ก้าวสู่เศรษฐกิจสีเขียวและสุขภาพ โดย ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษา กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP)

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ปลดล็อกศักยภาพท่องเที่ยวไทยสู่ Global Destination ยกระดับประเทศผ่านเอกลักษณ์และความร่วมมือ

ร่วมวิเคราะห์เชิงลึกจากการเสวนาของคุณชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ และ ดร. วิทวัส สิทธิเวคิน Moderator ใน session นี้ เกี่ยวกับโอกาสและความท้าทายข...

Responsive image

ความท้าทาย โอกาส และการปรับตัวของประเทศไทย เจาะลึกยุทธศาสตร์นำทัพไทยในพายุภูมิรัฐศาสตร์ 2025

โลกกำลังเผชิญกับ Turbulent Times หรือยุคแห่งความผันผวนที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยความผันผวนนี้ส่งผลกระทบต่อทุกมิติ ตั้งแต่เทคโนโลยี เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ไปจนถึงสิ่งแว...

Responsive image

ยิบอินซอย ทำอย่างไรถึงเป็นบริษัทไอทีที่อยู่มาเกือบ 100 ปี กับเป้าหมายใหม่โตต่อเนื่องไปอีกศตวรรษ

‘ยิบอินซอย’ (Yip In Tsoi) ชื่อของบริษัทเก่าแก่ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 100 ปี ทำมาหลายอย่างหลายอุตสาหกรรมจนทำให้คนอาจรู้จักกันไปในคนละมุม แต่แท้จริงแล้ว ยิบอินซอย ถือเป็น ‘บริษัทไอที...