คงปฏิเสธไม่ได้ว่าท่ามกลางวิกฤติ COVID-19 ทุกๆประเทศทั่วโลกคงได้ผ่านบทเรียนอะไรมามากมาย สิ่งที่จะแตกต่างกันไปอยู่ที่ว่าใครมีความพร้อมมากกว่ากันในการปรับตัว ผ่านช่วงระยะเวลาต่างๆ ซึ่งเรียกได้ว่ามีความท้าทายและสาหัสอยู่เอาการ ก่อนจะถึงงาน Techsauce Virtual Summit 2020 ในวันที่ 19 - 20 มิถุนายน ทาง Techsauce ได้มี Live Session Techsauce Virtual Summit: Exclusive Prevue พูดคุยกับผู้ทรงเกียรติส่องท่านอย่าง ดร. สันติธาร เสถียรไทย Group Chief Economist Sea Limited และ ดร. สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ President Thailand Development Research Institute (TDRI) ในหัวข้อ “เปลี่ยนโฉมยุทธศาสตร์ Soft Power สร้างอนาคตใหม่ให้ประเทศไทยหลัง COVID-19”
ก่อนจะเข้าสู่เรื่องของ Soft Power ดร. ทั้งสองได้พูดสั้นๆ เกี่ยวกับการปรับตัวตามระยะต่างๆ ในช่วงวิกฤติขณะนี้
ระยะสั้นคือการอยู่รอด ระยะกลางคือการอยู่เป็น และระยะยาวคือการอยู่ยืน
ตอนนี้ประเทศไทยอยู่ในระยะที่อยู่เป็นแล้ว คือมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่ต่ำ แต่สิ่งที่ภาคธุรกิจต้องคำนึงถึงคือจะปรับตัวและบริหารความเสี่ยงอย่างไร หากดำเนินเปิดกิจการแล้วมีต้นทุนที่สูงขึ้น หรือมาพร้อมกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นไปในตัว
การรับมือของคนกับเทคโนโลยีในยุคนี้มีอยู่ 4 ประเด็นหลักๆ คือ
ลักษณะนิสัยคนไทยคือ เก่งเรื่อง Improvise หรือการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าแบบปุบปับ ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในกลไกของ soft power คือการสามารถโน้มน้าวเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนความต้องการของผู้คน โดยไม่ต้องไปบังคับหรือการจ่ายเงินให้ แต่เป็นไปตามวัฒนธรรม ภาพลักษณ์ประเทศ หรือเรียกอีกนัยหนึ่ง soft power เปรียบได้กับ emotional value ซึ่งเป็นเรื่องของ branding หรือการสร้าง story ขึ้น เช่น ถ้าพูดถึงเมืองไทย คือคนไทยใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
เรายังคงพูดได้ไม่เต็มปาก ว่าใช้ ‘soft power’ อย่างเดียวแล้วจะไม่มีปัญหา หรือจุดอ่อนใดๆ เลย จริงอยู่ที่เมืองไทยฟื้นไว ปรับตัวได้เร็ว แต่ยังห่างจากการโตแบบก้าวกระโดดอยู่มาก ทั้งนี้ก็เพราะว่าประเทศไทยยังไม่สามารถก้าวข้ามไปสู่การ capture value หรือการทวีคุณค่าในตัวมันเองได้ การจะทำให้มี value ที่ดีออกมา จะพึ่งพาแค่ story หรือ branding อย่างเดียวยังคงไม่พอ แต่ต้องรวม soft power กับ hard power เข้าด้วยกัน กลายเป็น ‘smart power’ ซึ่งต้องอาศัย foundation ที่ดี นำไปสู่ technology ที่ดี supply chain ที่ดี และ quality ที่ดี จึงจะกลายเป็น smart power ที่ทรงพลังและยั่งยืน
ดร. สันติธารยังได้กล่าวถึงจุดแข็งที่สามารถเชื่อมกันได้ในการเป็น ‘soft power’ สร้าง ‘branding’ ของเมืองไทย คือ 5C ที่ประกอบไปด้วย
ดร. ทั้งสองท่านยังได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า เมืองไทยยังด้อยในภาพลักษณ์ด้านเทคโนโลยีอยู่ และคนไทยเองยังขาดในเรื่องของ global mindset ในการตระหนักว่าโลกไปที่เรา และเราไปที่โลก Techsauce Virtual Summit ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ สามารถสร้าง global mindset ให้คนไทยได้เห็น ว่ายังมีโอกาสอะไรอีกมากอยู่ตรงข้างนอกนั่น และสามารถหล่อหลอม ‘soft power’ ของไทยให้แข่งแกร่งขึ้นได้อีก
งานจัดขึ้นในวันที่ 19-20 มิถุนายนนี้ งานครั้งแรกในระดับ International ในรูปแบบ Virtual ที่จะพาคุณเปิดประตู Content ในบริบทที่ไม่ไกลตัว เชื่อมต่อสู่ทุกที่ทั่วมุมโลก
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและซื้อบัตรได้ที่เว็บไซต์ https://bit.ly/3eW6pay
ผู้ที่สนใจซื้อบัตรเป็นกลุ่ม ติดต่อ [email protected]
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด