
ท่ามกลางความท้าทายของโลกธุรกิจและเทคโนโลยี ที่ลำพังแค่ ‘ไอเดียดี’ หรือ ‘เทคโนโลยีล้ำ’ อาจไม่เพียงพอต่อการอยู่รอด โจทย์ใหญ่ของ กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) ในปีนี้ จึงไม่ใช่แค่การมอบเงินทุน (Grant) แต่คือการสร้าง ‘Ecosystem of Growth’ ที่จับต้องได้จริง
โครงการ TED Club Networking 2025 ภายใต้ธีม "Where Takeoff Begins" ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่ผ่านกระบวนการคัดกรองอย่างเข้มข้นจากผู้สมัครทั่วประเทศ จนเหลือเพียง 10 ทีมศักยภาพสูง (Top 10 Finalists) ที่เข้าสู่การ Workshop จริงและได้รับคำแนะนำจาก Mentor ที่มากประสบการณ์ Techsauce สรุป 4 แกนหลักสำคัญจากโครงการ ตั้งแต่กลยุทธ์การปั้นธุรกิจ จิตวิทยานักลงทุน ไปจนถึง Mindset ของผู้ชนะ ที่เกิดขึ้นในงาน Networking Night (24 พ.ย.) เพื่อให้คุณเห็นภาพว่า ‘รันเวย์’ ที่แข็งแกร่งของสตาร์ทอัพไทย หน้าตาเป็นอย่างไร

ด่านแรกที่ 10 ทีมสุดท้ายต้องผ่านคือการ ‘Re-engineering’ แผนธุรกิจใหม่ ในช่วง Workshop เมื่อวันที่4 พ.ย. ที่ผ่านมา TED Fund มุ่งเน้นการวางรากฐานเชิงกลยุทธ์ที่ชื่อว่า ‘Financial Reality’ โดย ดร.ปุณณมี สัจจกมล (EnLiven Synergy) ได้ชี้ให้เห็นความสำคัญว่า สตาร์ทอัพส่วนใหญ่มักตกม้าตายเพราะ "ตัวเลขไม่สัมพันธ์กับความจริง" เพราะการระดมทุนในยุคถัดไป (Next Stage) นักลงทุนไม่ได้มองแค่ Growth Rate ที่พุ่งทะยาน แต่พวกเขามองหา Sustainability และ Path to Profitability เพราะแผนธุรกิจที่ดีต้องไม่ใช่แค่การวาดฝันบน Canvas แต่ต้องสามารถแปลงเป็น Capital Plan ที่ตอบคำถามได้ว่า "เงินทุกบาทที่ขอไป จะสร้าง Impact กลับมาเท่าไหร่ และเมื่อไหร่?"
เมื่อกลยุทธ์ธุรกิจแน่นแล้ว ด่านต่อมาคือ ‘จิตวิทยา’ การจะ Takeoff ได้อย่างสวยงาม นักบิน (Founder) ต้องเข้าใจหอบังคับการบิน (Investor) อย่างถ่องแท้ ใน Session “Decode the Investor’s Mind" โดย คุณพิเชฐพัชร จันเทรมะ (500 Thailand) และการฝึก Pitching กับ คุณชื่นชีวัน วงษ์เสรี (Globish) ได้เปิดเผย ‘ความจริงที่นักลงทุนไม่เคยบอก’ เพื่อปรับจูนวิธีคิดของทั้ง 10 ทีม โดยแบ่งออกเป็น Empathy over Ego การ Pitching ไม่ใช่การโชว์ว่าเราเก่งแค่ไหน แต่คือการโชว์ว่า "เราเข้าใจปัญหาของลูกค้า และเข้าใจความกังวลของนักลงทุนดีแค่ไหน" และ Authenticity ในวันที่ AI เขียนบทพูดได้ สิ่งที่นักลงทุนมองหาคือ "แววตาแห่งความมุ่งมั่น" และความจริงใจ (Authenticity) ของ Founder ที่เทคโนโลยีเลียนแบบไม่ได้


หลังจากผ่านการเตรียมตัวมาอย่างหนัก ไฮไลต์สำคัญในค่ำคืนนี้คือการเติมเต็ม ‘Resilience Mindset’ ผ่านเวทีเสวนา "Founders Panel: บทเรียน Startup ทำจริง เจ็บจริง" โดยรุ่นพี่ระดับ Top Tier อย่าง Freshket, FINNOMENA และ Zipevent ได้มาถ่ายทอดประสบการณ์และความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้าง 'Resilience Mindset' ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นร่วมกันมีตั้งแต่การหา Product Market Fit ที่ผิดพลาดอันเนื่องมาจาก 'การคาดเดา' มากกว่าการฟัง 'ข้อเท็จจริง' จากลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ตามที่คุณเบลล์ พงษ์ลดา พะเนียงเวทย์ (Freshket) ชี้ให้เห็นว่าการไม่กลับไปหาความจริงกับลูกค้าทำให้ธุรกิจติดขัดเมื่อต้องขยายตัว อีกประเด็นสำคัญคือความท้าทายทางการเงินและการอยู่รอด โดยคุณเจท เจษฎา สุขทิศ (FINNOMENA) เน้นย้ำว่าอัตราการก้าวพ้นระยะสตาร์ทอัพ (Exit Rate) ของไทยต่ำ ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น และปัจจุบันนักลงทุนไม่ได้มองแค่จำนวนผู้ใช้เท่านั้น แต่ให้น้ำหนักกับ PE Ratio, กำไร และ การสร้างรายได้อย่างยั่งยืน มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ปัญหาที่หลายคนมองข้ามคือเรื่องภายในของทีมผู้ก่อตั้ง
โดยคุณเจ ภาโรจน์ เด่นสกุล (ZipEvent) ได้เตือนอย่างหนักแน่นถึงความสำคัญของการมี ‘ข้อตกลง’ ที่ชัดเจนตั้งแต่วันแรก ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งบทบาท สัดส่วนผลประโยชน์ และสัญญาต่างๆ เพื่อเป็นเกราะป้องกันความขัดแย้งเมื่อธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว สำหรับจุดที่ต้องตัดสินใจ "เปลี่ยนทิศทาง" หรือ Pivot Point นั้น คุณเจท (FINNOMENA) เผยถึงความท้าทายในการระดมทุน (Fundraising) ในสภาวะตลาดแข่งขันสูง ที่เขาต้องเผชิญกับการปฏิเสธนับร้อยครั้ง ซึ่งทางแก้คือการมี Grit หรือ ‘ความอึด’ สูง และรู้ให้ชัดว่านักลงทุนต้องการเห็นอะไร ส่วนคุณเจ (ZipEvent) ได้ชี้ถึงความยากในการขยายตัวในตลาดที่เจ้าตลาดครองพื้นที่แทบทั้งหมด ทำให้ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์มา เจาะ Pain Point ที่คู่แข่งยังไม่ตอบ เช่น ตลาด B2B Conference และพัฒนาโซลูชันให้ลึกกว่าเดิมเพื่อยึดพื้นที่เฉพาะทาง ขณะที่คุณเบล (Freshket) ได้ชี้ว่าความท้าทายที่แท้จริงคือ Mental Health และการบริหารงานควบคู่ไปกับการ Pitch หาทุนที่สร้างแรงกดดันมหาศาล ทำให้ Founder ต้องดูแลสภาพจิตใจของตัวเองให้ดี ฟื้นตัวให้เร็ว จากการถูกปฏิเสธ และรักษาสมดุลพลังงานให้ดี
คำแนะนำทิ้งท้ายจากผู้ก่อตั้งทั้งสามคนสรุปได้ว่า สตาร์ทอัพไม่ควรมองข้ามงานหลังบ้านอย่าง HR, การเงิน และกฎหมาย (FINNOMENA), ต้อง โฟกัสที่ลูกค้าให้สุด และแก้ Pain Point ที่แท้จริงให้ได้ (ZipEvent), และที่สำคัญที่สุด Founder ต้องมี Resilience สูง ตรวจสอบข้อเท็จจริงเสมอ และฟื้นตัวให้เร็วเมื่อเจอการปฏิเสธ (Freshket) นี่คือแก่นแท้ของการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยความท้าทาย
จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่จะทำให้การ Takeoff สมบูรณ์แบบ คือ ‘ความพร้อมของ Founder’ และ ‘การมองเห็นทิศทางลมในอนาคต’ ผ่านมุมมองของ Singha Ventures และ Techsauce ใน Session "Investors Panel"

สำหรับคุณเบนซ์ วรพจน์ เณรศกุล CEO ของ Singha Ventures ได้เสริมทักษะที่ช่วยให้สตาร์ทอัพเติบโตได้จริง ได้แก่
คุณเบนซ์ (Singha Ventures) มองว่าคุณสมบัติหลักที่นักลงทุนให้ความสำคัญ ได้แก่
สำหรับคุณมิหมี (Techsauce) ได้เสริมว่าคุณสมบัติสำคัญที่ควรมีเพิ่มเติม ได้แก่
Key Success Factors: ปัจจัยสำคัญที่ Founder ต้องมี

โครงการ TED Club Networking 2025 พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การสร้างสตาร์ทอัพให้ประสบความสำเร็จ ไม่ได้อาศัยโชคช่วย แต่เกิดจาก Strategy ที่แม่นยำ, Psychology ที่เข้าใจตลาด และ Mindset ที่ไม่ยอมแพ้
ในค่ำคืนนี้ เราได้เห็นโฉมหน้าของ ทั้ง 10 ทีม สำหรับ Startup Pitch ซึ่งสะท้อนให้เห็นศักยภาพของนวัตกรรมไทยที่พร้อมจะก้าวไปสู่เวทีโลก ภายใต้การสนับสนุนที่เป็นมากกว่าเงินทุนจาก TED Fund

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด