ย้ายทะเบียนบ้าน Online ด้วย ThaID และประโยชน์จากภาษี ที่ประหยัดได้เมื่อมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน | Techsauce

ย้ายทะเบียนบ้าน Online ด้วย ThaID และประโยชน์จากภาษี ที่ประหยัดได้เมื่อมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

‘ThaID’ หรือ ‘ไทยดี’ (Thai Digital Identity) เป็นระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวทางดิจิทัล ที่เปลี่ยนชื่อมาจาก D.DOPA ที่รองรับการใช้งานของประชาชนไทยทั่วประเทศ เพื่อการทำธุรกรรมทางดิจิทัลที่ออกให้โดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ที่ช่วยให้การบริการภาครัฐและธุรกรรมอนไลน์มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานที่รองรับผู้ใช้ได้กว่า 60 ล้านคน ซึ่งยังเป็นการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองความต้องการของประชาชนในการติดต่อกับราชการโดยไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงาน

ภาพประชาสัมพันธ์จาก กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

ซึ่งในปัจจุบันอีกหนึ่งบริการที่ประชาชนสามารถทำ Online ได้แบบที่ไม่ต้องไปสำนักงานเขต คือ ‘แจ้งย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์’ โดยมีเงื่อนไขที่ว่า ชื่อในทะเบียนบ้านต้องเป็นชื่อเดียวกับชื่อที่อยู่หลังโฉนดเท่านั้น ไม่สามารถให้ผู้อื่นย้ายเข้ามาได้ ซึ่งประโยชน์หลักของทะเบียนบ้าน คือ การแสดงตัวตนของผู้อยู่อาศัย รวมทั้งการนำไปใช้เป็นเอกสารทางราชการเพื่อดำเนินการธุรกรรมต่างๆ เช่น การใช้ทะเบียนบ้านตัวจริงเป็นหลักฐานในการยืนยันตัวตนสำหรับการขอเปลี่ยนชื่อ หรือระบุตัวตนให้ตรงกับบัญชีรายชื่อเพื่อมอบสิทธิ์ในการเลือกตั้ง เป็นต้น 

โดยมีวิธีแจ้งย้ายทะเบียนบ้านผ่าน ThaID ได้ดังนี้

  • เข้าแอปพลิเคชัน ThaID กดเลือก ‘ระบบการแจ้งย้ายที่อยู่ด้วยตนเอง’ 
  • กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน ‘ของเจ้าบ้าน’ ที่เราต้องการจะย้ายเข้า หลังจากกรอกกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน ‘ของเจ้าบ้าน’ เรียบร้อยแล้ว จะมีข้อความให้ทำการ ‘ยืนยันตัวตน’ และให้ความยินยอมยืนยันส่งไปทางเจ้าบ้าน

กรณีนี้ : เจ้าบ้านจะต้องทำการยืนยัน และเปิดใช้งานแอป ThaID เช่นกัน

  • หลังจากเจ้าบ้าน ‘กดยืนยันและยินยอม’ข้อความจะถูกส่งไปยังนายทะเบียนของสำนักงานเขตหรืออำเภอที่แจ้งย้าย
  • นายทะเบียนจะดำเนินการอนุมัติการแจ้งย้ายและแจ้งผล ให้ทั้งผู้ย้ายและเจ้าของบ้านทราบ

เป็นอันเสร็จสิ้นโดยไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงานเขต ซึ่งการย้ายเอาชื่อเข้าทะเบียนบ้านมีประโยชน์สำหรับการลงทุนวางแผนเรื่องภาษีเช่นเดียวกัน ที่น้อยคนจะรู้

ประโยชน์จากการเอาชื่อเข้าทะเบียนบ้าน

สามารถแบ่งภาษี ออกเป็น 3 เรื่องด้วยกัน

  1. ภาษีธุรกิจเฉพาะ: ในการขายบ้าน หรือ คอนโด จะต้องเสียภาษีที่สูงถึง 3.3% ของราคาซื้อ-ขาย ซึ่งการมีชื่อในทะเบียนบ้านจะได้รับการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ ก็ต่อเมื่อ ‘มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี’ หรือ ‘ทำการซื้อ-ขายหลังจาก 5 ที่ถือครอง’ กล่าวคือ ถ้าอยากขายบ้าน หรือ คอนโด ที่เราถือครองภายใน 5 ปีแรก ต้องมีชื่อในทะเบียนบ้านก่อนอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งจะทำให้เราไม่เสียภาษีตัวนี้ เสียแค่เพียงค่าอากรแสตมป์แทน
  2. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง: เป็นภาษีที่กำหนดจ่ายทุกปี ยกเว้นเป็นบ้านหลังแรกที่มีชื่อของเราในทะเบียนบ้าน
  3. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายและอากรสแตมป์: โดยปกติแล้วการขายบ้าน หรือ คอนโด จะต้องเสียค่าโอน ภาษีธุรกิจเฉพาะ หรือ อากรแสตมป์ และภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย แต่ถ้าเราขาย แล้วซื้อบ้าน หรือ คอนโดใหม่ภายใน 1 ปี เราสามารถขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายและค่าอากรแสตมป์ได้ โดยมีเงื่อนไขคือต้องมีชื่ออยู่ในบ้านหรือคอนโด ที่ขายอย่างน้อย 1 ปี ด้วยนั่นเอง

ซึ่งทั้งหมดกล่าวได้โดยสรุปว่า ThaID เป็นแอปพลิเคชั่นจากภาครัฐที่เข้ามาอำนวยความสะดวกของประชาชนให้จัดการเรื่องต่างๆ ได้ด้วยตนเองแบบ Online ไม่ต้องเตรียมเอกสารและเดินทางไปสำนักงานเขต รวมทั้งเรื่องของการย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้านที่สามารถทำได้ด้วยตนเองและมีประโยชน์ในการวางแผนเรื่องของภาษีได้อีกด้วย สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้แล้ว รองรับทั้งระบบ iOS และ Android


อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : 

จาก D.DOPA สู่ ThaID (ไทยดี) แอปฯบัตรประชาชนดิจิทัล ใช้ยืนยันตัวตนแทนบัตรตัวจริง-ทะเบียนบ้านได้

รวบรวมและเรียบเรียงข้อมูลจาก

กระทรวงมหาดไทย และ ClubSunday Condo Story

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ตำแหน่ง CRO คืออะไร ? พร้อมเจาะลึก 6 อุปนิสัยสู่ความสำเร็จของผู้บริหารความเสี่ยงยุคใหม่

จากงานวิจัยของ McKinsey จากการสัมภาษณ์เชิงลึกและสำรวจ CRO ปัจจุบันและอดีตมากกว่า 30 รายของสถาบันการเงินหลักทั่วโลก โดยแต่ละรายมีประสบการณ์ในบทบาทนี้มาอย่างน้อย 5 ปี พบว่า CRO ที่ปร...

Responsive image

AI จะเป็น ‘ผู้กอบกู้’ หรือ ‘ผู้ทำลาย’ การ์ตูนญี่ปุ่น

เมื่อประตูสู่วัฒนธรรมและเสาหลักทางเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นอย่าง อนิเมะและมังงะกำลังถูก AI แทรกแซง อนาคตของวงการนี้จะเป็นยังไง ?...

Responsive image

เจาะลึกเทรนด์ Spatial Computing จุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับองค์กรยุคใหม่

Spatial Computing คือเทคโนโลยีที่ผสานโลกเสมือนจริงและโลกจริงเข้าด้วยกัน ซึ่งมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานขององค์กรในยุคดิจิทัล ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการฝึกอบรมและ...