คุยกับท่านทูตไทย ณ เฮลซิงกิ ทำไม ‘ฟินแลนด์’ ถึงเป็นยักษ์ใหญ่นวัตกรรมโลก และทำไม ‘ไทย’ อาจเป็นหัวแถวนวัตกรรมเอเชีย

การเดินหน้าสู่ Thailand 4.0 คือยุทธศาสตร์สำคัญที่มุ่งยกระดับเศรษฐกิจไทยจากอุตสาหกรรมดั้งเดิมสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ในการค้นหาพันธมิตรระดับโลกเพื่อเติมเต็มเป้าหมายนี้ ประเทศไทยได้เลือก ฟินแลนด์ เป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญผ่านความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี

Techsauce ได้รับเกียรติพูดคุยกับ นายวรวุฒิ พงษ์ประภาพันธ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ผู้เปรียบเสมือน ‘Bridge Builder’ ในการเชื่อมโอกาสระดับโลกให้กับสตาร์ทอัพไทย พร้อมเผยที่มาของความร่วมมือครั้งนี้

ทำไม ‘ฟินแลนด์’ ถึงเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของ Thailand 4.0?

โจทย์ใหญ่ของประเทศไทยตามนโยบาย Thailand 4.0 คือการเปลี่ยนผ่านโครงสร้างเศรษฐกิจ จากเดิมที่พึ่งพาอุตสาหกรรมหนักและการเกษตรแบบดั้งเดิมไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ท่านทูตฯ อธิบายว่า ฟินแลนด์ เป็นจิ๊กซอว์ที่ตอบโจทย์นี้ของประเทศไทยได้อย่างลงตัว เนื่องจาก

  • การเป็นผู้นำตัวจริงด้าน ICT และนวัตกรรม โดยฟินแลนด์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำด้าน ICT และนวัตกรรมในระดับโลก โดยติดอันดับที่ 6 ของโลก และ อันดับ 4 ของสหภาพยุโรป (EU)
  • มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง โดยฟินแลนด์มีการพัฒนานวัตกรรมอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะกลุ่ม AI, Health Tech และ Sustainable Technology

Slush สปริงบอร์ดสู่เวทีโลก

หนึ่งในกุญแจความสำเร็จของฟินแลนด์คือ “Slush" ซึ่งถูกยกให้เป็นงาน Tech Event ชั้นนำของโลก ที่มี Startups เข้าร่วมกว่า 20,000 ราย จากกว่า 100 ประเทศ และที่สำคัญคือมีนักลงทุนจากทั่วโลกตบเท้าเข้าร่วมมากถึง 3,500 ราย 

ท่านทูตฯ มองเห็นโอกาสว่า การเข้าร่วมงาน Slush จะเป็น Springboard ให้กับผู้ประกอบการไทยในการก้าวสู่เวทีระดับโลก เป็นโอกาสในการนำเสนอศักยภาพ ซึ่งหากผลงานเข้าตานักลงทุนต่างชาติ ก็จะเป็นการยกระดับการยอมรับให้กับอุตสาหกรรม Startups ของไทยทั้งระบบ 

ถอดรหัสเอกลักษณ์ที่ทำให้ Ecosystem ด้านนวัตกรรมของฟินแลนด์แข็งแกร่ง

อะไรคือสิ่งที่ทำให้ฟินแลนด์กลายเป็นยักษ์ใหญ่ด้านนวัตกรรมระดับโลก ? โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ไทยกำลังให้ความสนใจอย่าง Deep Tech และ Green Tech ท่านทูตฯ สรุปปัจจัยสำคัญความสำเร็จของฟินแลนด์ไว้ดังนี้

  1. บุคลากรคุณภาพสูง: ประชากรมีการศึกษาและความรู้ความเข้าใจสูง มีความรู้ความเข้าใจด้านเทคโนโลยี ซึ่งเอื้อต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ซับซ้อน
  2. การมุ่งเน้นในสาขาถนัด: สตาร์ทอัพฟินแลนด์มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางสูง เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็น Gaming (เช่น บริษัท Rovio ที่สร้างเกม Angry Bird), AI, 5G Network, Sustainable Energy (Green Tech) และ Digitalization
  3. การลงทุนใน R&D: บริษัทและภาคเอกชนในฟินแลนด์ ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างต่อเนื่อง เป็นกลไกสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางเทคโนโลยี
  4. โครงข่ายความร่วมมือแข็งแรง: มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี และมีเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา

ทำไม ‘ไทย’ ถึงมีโอกาสเป็นหัวแถวด้านนวัตกรรมแห่งเอเชีย

แม้ฟินแลนด์จะเป็นประเทศเล็กที่มีประชากรไม่ถึง 6 ล้านคน และมูลค่าการค้าระหว่างไทย-ฟินแลนด์ มีเพียงประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ซึ่งน้อยกว่ามูลค่าการค้าระหว่างไทยกับบริเวณชายแดนบางแห่งของไทยและลาวเสียอีก) ทำให้ฟินแลนด์ไม่ใช่เป้าหมายหลักด้านการส่งออกสินค้า

แต่ในมุมของ 'นวัตกรรม' สถานทูตฯ เล็งเห็นว่าไทยต้องใช้ประโยชน์จากจุดแข็งนี้ เพื่อสร้างสะพานเชื่อมต่อด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับสตาร์ทอัพไทย ท่านทูตฯ ได้เน้นย้ำถึงสถานะของไทยในเวทีนี้ไว้อย่างน่าภาคภูมิใจว่า

ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่เข้าร่วมงาน Slush อย่างจริงจัง มีงาน Side Event ที่มีผู้ลงทะเบียนเต็มทุกที่นั่งก่อนสองสัปดาห์ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยยืนหนึ่งเป็นแนวหน้าในภูมิภาคเอเชีย ในการบุกเบิกโอกาสด้านนวัตกรรม

สถานทูตฯ ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานสำคัญ เช่น depa, NIA และ Techsauce เพื่อนำสตาร์ทอัพไทยเข้าสู่ประสบการณ์ระดับโลกนี้ เพื่อสร้างโอกาสในการระดมทุนและขยายตลาด

คำแนะนำสู่ความสำเร็จ “เข้าใจพฤติกรรมตลาด สำคัญกว่าตัวเทคโนโลยี”

สำหรับสตาร์ทอัพไทยทั้ง 10 ทีมที่เตรียมร่วมงาน Slush 2025 ท่านทูตฯ  เน้นย้ำว่า ปัจจัยที่กำหนดความสำเร็จไม่ใช่แค่เทคโนโลยีล้ำสมัย แต่คือ การเข้าใจตลาด

"สาเหตุที่สตาร์ทอัพไม่ประสบความสำเร็จคือผลิตภัณฑ์ไม่ตรงกับความต้องการของตลาด แม้เทคโนโลยีจะสูงแค่ไหนก็ตาม บางสตาร์ทอัพทำเทคโนโลยีชั้นสูง แต่ไม่ได้ศึกษาพฤติกรรมของคนยุโรป การศึกษา พฤติกรรมผู้บริโภค จุดแข็ง จุดอ่อน ของตลาดต่างประเทศจึงมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์"

นี่คือสิ่งที่สตาร์ทอัพไทยต้องทำเพื่อสร้าง Product-Market Fit ที่แท้จริง และยกระดับตัวเองสู่มาตรฐานโลก โดยรัฐบาลพร้อมทำหน้าที่เป็น ‘พี่เลี้ยง’ ในการสนับสนุนการเติบโตและพัฒนาไปด้วยกัน

ฝากถึงคนรุ่นใหม่ให้กล้าก้าวข้ามความต่างของตลาด

ท่านทูตฯ ย้ำว่าคนไทยมีศักยภาพด้าน IT สูงมาก แต่ยังขาดข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดยุโรป จึงอยากให้ผู้ประกอบการไทยและคนรุ่นใหม่ตั้งใจศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคที่แตกต่างจากไทยและเอเชีย และใช้โอกาสจากการเข้าร่วมอีเวนต์ระดับโลกอย่าง Slush ในการสร้างเครือข่ายและนำฟีดแบ็กจาก VC มาพัฒนาต่อยอดเพื่อความสำเร็จในระดับสากล




ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

รวมคลื่น Layoff 2025 บิ๊กเทคปลดคนครั้งใหญ่ 300 กว่าวันที่ผ่านมาเจออะไรบ้าง ?

อัปเดตวิกฤต Layoff ปี 2025 ในวงการเทค Intel ปลดกว่า 23,000 คน ตามด้วย Microsoft และ Amazon วิเคราะห์ภาพรวมการลดคนครั้งใหญ่และแนวโน้มตลาดแรงงานยุค AI...

Responsive image

สรุป 17 ดีลใหญ่ AI ที่เกิดขึ้นในปี 2025

สรุปครบ 17 ดีล AI ยักษ์ใหญ่ปี 2025 พร้อมเจาะลึกปม Circular Deals หรือการหมุนเงินลงทุนเป็นวงกลม สัญญาณเตือนฟองสบู่ที่นักลงทุนต้องระวัง...

Responsive image

ทิศทาง Agoda ในยุค AI-First จาก CEO เตรียมปักธงปั้นกรุงเทพฯ เป็น ‘Silicon Valley แห่งเอเชีย’ พร้อมส่องเทรนด์ท่องเที่ยวปี 2026

เจาะลึกวิสัยทัศน์ Agoda 2025 ปั้นกรุงเทพฯ สู่ Silicon Valley แห่งเอเชีย พร้อมเปิดตัวกลยุทธ์ AI-First และ Autonomous Agent ผู้ช่วยอัจฉริยะที่คิดแทนคุณได้ เผยข้อมูล Insight เที่ยวไทย...