เจาะ 4 แนวทางเศรษฐกิจไทยที่จะให้ SME และ Startup เป็นพระเอก ฟังพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.กระทรวงพาณิชย์ | Techsauce

เจาะ 4 แนวทางเศรษฐกิจไทยที่จะให้ SME และ Startup เป็นพระเอก ฟังพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.กระทรวงพาณิชย์

จากงาน Thailand Economic Monitor February 2025, Unleashing Growth: Innovation, SMEs and Startups ในช่วงแรก คุณพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ ในหัวข้อ Thailand’s SMEs and Startups for a Prosperous Thailand โดยเน้นถึงแนวทางสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยผ่านการสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และสตาร์ทอัพ

คุณพิชัยออกมาชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง โดยมีแรงผลักดันสำคัญจาก SME และ Startup ที่จะช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ตัวเลขการลงทุนในไทยกำลังมาแรง

  • ปีที่ผ่านมา มีเม็ดเงินลงทุนกว่า 1.13 ล้านล้านบาท มากที่สุดในรอบ 10 ปี
  • การส่งออกเติบโต 5.4% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
  • นักลงทุนต่างชาติแห่เข้ามา โดยเฉพาะในกลุ่ม Semiconductor, AI และ Data Center

"เวลาผมไปไหนกับนายกฯ หรือเดินทางเอง นักลงทุนต่างชาติสนใจไทยกันสุดๆ" พิชัยกล่าว พร้อมเสริมว่า ตอนนี้ไทยกำลังกลายเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของเอเชีย

ปัจจัยเหล่านี้ทำให้คุณพิชัยมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะยังคงเติบโตต่อไปทั้งในปีนี้และปีหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการไหลเข้าของเงินลงทุนจากต่างประเทศ

การลงทุนและบทบาทของไทยในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

คุณพิชัยชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยกำลังกลายเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะในด้าน PCB (Printed Circuit Board) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของชิปอิเล็กทรอนิกส์ โดยปีที่แล้วมีการลงทุนกว่า 6-7 พันล้านเหรียญสหรัฐในอุตสาหกรรมนี้

นักลงทุนจำนวนมากกำลังย้ายฐานการผลิตจากจีนมาที่ไทย โดยเฉพาะจากไต้หวันและฮ่องกง ซึ่งทำให้ไทยมีโอกาสเป็นผู้ผลิต PCB รายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น สมาร์ทโฟน, โทรทัศน์, รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และอุปกรณ์อัจฉริยะอื่นๆ

อีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ไทยให้ความสำคัญคือ ศูนย์ข้อมูล (Data Center) และ AI โดยพิชัยระบุว่า บริษัท G42 จาก UAE กำลังพิจารณาลงทุนขนาดใหญ่ในไทย เนื่องจากไทยมีไฟฟ้าสำรองถึง 16,000 เมกะวัตต์ และมีความมั่นคงด้านพลังงานที่สูง

หนี้ครัวเรือน คือโจทย์ใหญ่ที่ต้องแก้

แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะเติบโต แต่ไทยยังเจอปัญหาใหญ่ นั่นคือ หนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ด้านคุณพิชัย ชี้ว่า เป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องแก้ไข เพราะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รายได้ของประชาชนเติบโตเพียง 1.9% ต่อปี ทำให้หนี้สะสมสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่กินเวลานานถึง 3 ปี

เพื่อแก้ไขปัญหานี้ กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะ ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถบริหารจัดการภาระหนี้ได้ดีขึ้น รวมถึง ลดอัตราดอกเบี้ยบางส่วน เพื่อช่วยให้ภาคธุรกิจและประชาชนสามารถฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ

SME และ Startup ต้องมา ไทยต้องเลิกผูกขาด

จุดอ่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทย คือ ธุรกิจรายใหญ่ผูกขาดตลาด ทำให้ SME และ Startup ไม่สามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่ หนึ่งในนโยบายสำคัญที่พิชัยให้ความสำคัญคือ การลดการผูกขาดทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการส่งออกสินค้า ซึ่งที่ผ่านมามีเพียงผู้ประกอบการรายใหญ่เท่านั้นที่สามารถส่งออกได้ง่าย

เพื่อส่งเสริมให้ ผู้ประกอบการรายย่อย สามารถเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้ กระทรวงพาณิชย์จึงได้ปรับลดค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาตส่งออก

  • รายย่อยเกือบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
  • ธุรกิจขนาดกลางเสียค่าธรรมเนียมเพียง 10,000 - 20,000 บาท จากเดิม 50,000 บาท
  • รายใหญ่ยังคงต้องจ่าย 50,000 บาท

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังเปิดตัว "Thailand Brand" ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์รับรองคุณภาพสินค้าจากผู้ประกอบการ SME และ Startup ที่ได้รับมาตรฐาน โดยจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าไทยในตลาดโลก และการมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันนวัตกรรม ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่กระทรวงพาณิชย์ใช้เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาสินค้าและบริการของตนให้ได้มาตรฐานระดับโลก

ไทยพร้อมเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย”

ประเทศไทยต้องการเป็น "Switzerland of Asia" โดยเป็นมิตรกับทุกประเทศ และเป็นศูนย์กลางในการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน ซึ่งคุณพิชัยเผยว่า ประเทศไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งจีนและสหรัฐอเมริกา และพร้อมที่จะเป็นตัวกลางในการเจรจาแก้ไขปัญหาต่างๆ

เพื่อให้ SME และธุรกิจไทยสามารถเข้าสู่ตลาดโลกได้ง่ายขึ้น รัฐบาลกำลังเร่งเดินหน้าข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับหลายประเทศ เช่น

  • สหภาพยุโรป (EU)
  • สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)
  • สหราชอาณาจักร (UK)
  • เกาหลีใต้
  • อิสราเอล

"ไทยต้องเป็นกลาง และสามารถทำการค้ากับทุกประเทศ ไม่ว่าอเมริกา จีน หรือยุโรป เราต้องเป็น ‘สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย’ เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่ทุกฝ่ายไว้ใจ" - คุณพิชัย นริพทะพันธุ์

สุดท้ายคุณพิชัยสรุปว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผ่านการลงทุนจากต่างประเทศและการส่งเสริม SME และ Startup ในระดับโครงสร้าง รัฐบาลกำลังผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและการค้าระหว่างประเทศ เขาย้ำว่ารัฐบาลไทยเปิดกว้างสำหรับข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน และพร้อมจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้เศรษฐกิจไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

จากแรงงานสู่นวัตกรรม ยกระดับ SMEs และสตาร์ทอัพ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยยุคใหม่ สู่ประเทศรายได้สูง

Mr. Cristian Quijada Torres ร่วมอภิปรายในหัวข้อ Innovation in a Changing World: Empowering SMEs And Startup วิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน อุปสรรคที่ทำให้การพัฒนานวัตกรรมแ...

Responsive image

ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2024 วิเคราะห์ความท้าทายและโอกาส จากงาน Thailand Economic Monitor by World Bank

ในงาน Thailand Economic Monitor ดร. เกียรติพงษ์ อริยปรัชญานักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำประเทศไทย ณ ธนาคารโลก วิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้อย่างละเอียด โดยชี้ให้เห็นถึงปัจจัยสำคัญท...

Responsive image

ชวนวิเคราะห์เกม AI ยุโรป ฝรั่งเศสประกาศ ‘ลงแข่งสหรัฐฯ’ ด้วยงบ 3.7 ล้านล้านบาท พอไหม ?

ฝรั่งเศสประกาศลงทุน 1.09 แสนล้านยูโรใน AI หวังไล่ตามสหรัฐฯ และจีน แต่เงินจำนวนนี้เพียงพอหรือไม่? วิเคราะห์ปัจจัยที่ยุโรปต้องเผชิญในสงครามเทคโนโลยี AI!...