Techsauce ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “The 1 Tech & Product Team” ทีมเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังและเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของ The 1 ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล ถึงวิธีการทำงาน การสร้างทีมที่เติบโตอย่างยั่งยืน และการทำความเข้าใจลูกค้า ซึ่งเป็นหัวใจของธุรกิจ
กว่า 17 ปี ที่เติบโตจากโปรแกรมสมาชิก The 1 Card สู่แพลตฟอร์มลอยัลตี้ของ The 1 ในวันนี้ ที่ยังคงมีเป้าหมายที่จะมอบสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจ และสร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อระหว่างโลกออฟไลน์และออนไลน์ให้สมาชิกได้สัมผัสบน The 1 APP ครบจบในที่เดียว ตามวิสัยทัศน์สู่การเป็น ‘Center of Life Platform’
ทีม The 1 Tech & Product ถือเป็นกุญแจสำคัญที่มีส่วนในการขับเคลื่อนแพลตฟอร์มลอยัลตี้นี้ ในบทบาท “Personalized O2O Experience & Innovation Curator” โดยเลือกสรรและพัฒนานวัตกรรมให้ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้าทั้งของกลุ่มเซ็นทรัล และพาร์ตเนอร์อื่น ๆ ใน The 1 Ecosystem
กลุ่มเซ็นทรัลผูกพันกับคนไทยมาหลายทศวรรษ จุดแข็งของธุรกิจนี้คือด้านออฟไลน์ ที่เป็นอันดับ 1 ของประเทศ ทั้งในด้านขนาดของธุรกิจ ความหลากหลายที่มีทั้ง การกิน เที่ยว และชอปปิง และภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ ความมีเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งสะท้อนผ่านสินค้าและบริการคุณภาพสูง
เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ผู้บริโภคทำธุรกรรมทุกอย่างผ่านมือถือและช่องทางออนไลน์ ทำให้ภารกิจสำคัญของ The 1 ในการทรานส์ฟอร์มมาสู่การเป็นแพลตฟอร์มลอยัลตี้ และเปลี่ยนจาก The 1 Card มาเป็น The 1 APP คือ การเชื่อมประสบการณ์แบบออนไลน์และออฟไลน์ ที่ต้องตอบโจทย์ตรงใจลูกค้า (Personalized O2O Experience) ให้เข้ากันแบบไม่มีสะดุด
ว่ากันง่ายๆ ก็คือ The 1 APP จะเป็นเหมือน Shopping Companion ให้กับลูกค้า โดยจะช่วยให้ประสบการณ์การชอปปิงของคุณสะดวก สบาย และสนุกมากขึ้น ได้ทุกที่ทุกเวลา
The 1 APP จึงไม่ใช่แค่ Loyalty Program อีกต่อไป แต่เป็น ‘Center of Life Platform’ ที่เชื่อมต่อสมาชิกกว่า 20 ล้านราย ใน Ecosystem ของกลุ่มเซ็นทรัล ผ่านเครือข่ายพันธมิตรกว่า 3,000 แบรนด์ และจุดให้บริการกว่า 32,000 แห่งทั่วประเทศ และทีมงานที่อยู่เบื้องหลังการทำงานของแพลตฟอร์ม ในด้านเทคโนโลยี ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นทีม The 1 Tech & Product นั่นเอง
ด้วยธุรกิจในเครือที่หลากหลาย ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรมร้านอาหาร บริการด้านการเงิน ฯลฯ มีฐานลูกค้าอยู่ทั่วโลก รวมถึงพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจกว่า 3,000 แบรนด์ แน่นอนว่าความต้องการของลูกค้าต้องต่างกันออกไป รวมถึง Customer Journey ก็มีความหลากหลายด้วย
The 1 APP ในฐานะเป็นศูนย์กลางที่รวบรวมข้อมูลและบริการของทั้งเครือไว้ จึงมีการใช้ Big Data เทคโนโลยี และระบบการบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) เข้าด้วยกัน เพื่อส่งมอบบริการที่ตรงใจ และตรงเวลา เป็นเป้าหมายอย่างหนึ่งที่ทีม Tech ให้ความสำคัญ และแน่นอนต้องมาพร้อมกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของลูกค้า
คุณไพสาน Head of Core Platform เล่าถึงวิธีการทำงานของทีม ที่สะท้อนความตั้งใจนั้นได้เป็นอย่างดี
“เราต้องเข้าใจลูกค้าก่อน ว่าลูกค้าต้องการอะไร พอเราเข้าใจลูกค้าผ่านข้อมูล ข้อมูลนั้นจะถูกใช้เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ และพัฒนาการทำ Personalization เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้า”
ทีมเทคโนโลยีเบื้องหลังแอปนี้ยังลงทุนกับการทำ UX/UI เพื่อสร้างประสบการณ์ของลูกค้า (CX) ที่ดี ซึ่งนอกจากจะต้องน่าใช้ ใช้ง่ายแล้ว ต้องเข้าไปช่วยสร้างประสบการณ์ของลูกค้าที่ดีขึ้นได้จริงๆ ด้วย
“Job to be done (สิ่งที่ลูกค้าต้องการทำให้สำเร็จ) ของลูกค้าคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ The 1 เราจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายและคุ้มค่ายิ่งขึ้น” คุณจุมพฎ Head of Consumer Platform Product กล่าว
คุณจุมพฎยังได้ยกเคสน่าสนใจ เกี่ยวกับการทำ Humanization กับ Digital Platform ที่ช่วยให้บริการออนไลน์มีความเข้าใจและเข้าถึงมนุษย์ผู้ใช้งานจริง ด้วยการเข้าใจ Mental Model ของลูกค้า เช่น การทำให้ระบบแลกแต้มในแอป สะดวก รวดเร็วมากขึ้น สะดวกขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งการสร้างประสบการณ์ที่ดีสำคัญไม่แพ้การออกแบบหน้าแอปให้สวยงาม
เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยี เครื่องมือ นวัตกรรมใหม่ๆ เป็นสิ่งที่องค์กรต้องมี แต่การทำงานของ The 1 เริ่มต้นจากเข้าไปนั่งในใจลูกค้าและใกล้ชิดกับลูกค้าให้มากที่สุด เพื่อจะออกแบบแพลตฟอร์ม ที่ช่วยสร้างประสบการณ์แบบ Personalized
คุณฟร้องค์เล่าว่า การทำงานของ The 1 นั้น จะใช้ MarTech เพื่อรวบรวมข้อมูลลูกค้าที่มาจากหลายช่องทาง จากนั้นจึงนำมาวิเคราะห์พฤติกรรม ความสนใจ ความต้องการ สุดท้ายแล้วข้อมูลเหล่านี้จะถูกใช้ในการสร้างแคมเปญการตลาดที่ตอบโจทย์ รวมถึงมีการใช้เทคโนโลยี AI และ ML (Machine Learning) เพื่อติดตามพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าและปรับ Customer Journey ของลูกค้าให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ทางการตลาด
คุณไพสาน กล่าวเสริมว่า “อย่างที่ทราบกันดีว่า The 1 มีทั้งฐานข้อมูลสมาชิก และข้อเสนอจากแบรนด์ใน The 1 Ecosystem เป็นจำนวนมาก จึงเป็นความท้าทายในการนำเสนอสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจให้กับสมาชิกแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเราได้ใช้ชุดข้อมูลที่เรียกว่า Single View of Customer (SVOC) เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าจากหลายกิจกรรมและพฤติกรรมการซื้อ รวมถึงการคาดการณ์ถึงสินค้าและบริการที่อยากจะซื้อต่อไป จากนั้นจึงนำไปพัฒนาเป็นกลยุทธ์การตลาด “Personalized Curation” ที่ The 1 สามารถ Scale Up สู่การนำเสนอสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจแบบเฉพาะบุคคลให้กับสมาชิกทุกคนได้อย่างทั่วถึงและทันท่วงที แม้ว่าจะมีจำนวนมากถึง 20 ล้านราย”
อย่างไรก็ตาม เครื่องมือไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดเสมอไป คุณฟร้องค์เผยว่า เทคโนโลยีนั้นสำคัญในฐานะเป็นเครื่องมือที่ผสานทุกทีมให้ทำงานด้วยกันอย่างใกล้ชิด และเป็นตัวส่งมอบคุณค่าของผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า แต่วิธีการทำงานของ The 1 และความพยายามเข้าใจลูกค้า ถือเป็นส่วนสำคัญที่สนับสนุนให้ทั้งระบบทำงานได้ราบรื่น และออกไปสู่ตลาดได้เร็วขึ้นด้วย
คุณฟร้องค์ เผยว่าตอนนี้ The 1 สามารถทำ Digitization เปลี่ยนจากบัตร The 1 สู่การใช้แอปพลิเคชันได้ 100% แล้ว และแนวทางในอนาคตคือการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลเต็มรูปแบบ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าใน The 1 Ecosystem
ด้านคุณจุมพฎ ยกตัวอย่างความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงนี้ จากระบบบริหารจัดการสมาชิก The 1 ที่ทำให้ลูกค้าสมัครง่ายขึ้น ทำได้ผ่านมือถือได้ทุกที่ ทุกเวลาอีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการสิทธิพิเศษทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง
รวมถึงการเลิกใช้คูปองกระดาษ (Paperless coupon) ที่ฟังแล้วดูเป็นเรื่องทั่วไป แต่สร้างประโยชน์มหาศาลให้กับลูกค้า ที่สามารถใช้คูปองได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าจะชำรุดเสียหาย และมีการแจ้งเตือนหากใกล้หมดอายุ ฝั่งแบรนด์ก็เข้าใจการใช้งานของลูกค้าว่าใช้คูปองเพื่อซื้อสินค้าใด เพื่อนำข้อมูลไปใช้ทำการตลาด นอกจากนั้นยังได้ช่วยโลกด้วยการลดการใช้กระดาษด้วย
การทำฐานข้อมูลสมาชิกบนแพลตฟอร์มออนไลน์ยังช่วยให้ The 1 เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของสมาชิก และสร้างสรรค์สิทธิประโยชน์ที่ตรงใจได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต
การจะเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล คนสร้างแพลตฟอร์มอย่าง The 1 ก็จำเป็นต้องทรานส์ฟอร์มองค์กรไปพร้อมกันด้วย The 1 จึงมีแนวคิดการสร้างองค์กรที่จะสามารถโตได้อย่างยั่งยืน พร้อมเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเจอสถานการณ์ไหน
คุณฟร้องค์ เล่าว่า "การสร้างทีม ‘The 1 Tech & Product’ ถือเป็นก้าวสำคัญในการทรานส์ฟอร์มองค์กรของ The 1 สู่การเป็น Tech Company เพราะการมีทีมเทคโนโลยีของตัวเองช่วยให้ The 1 มีศักยภาพที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรม และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ The 1 ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและเพื่อรับกับทุกการเปลี่ยนแปลงในอนาคต"
คุณกอบบุญ Head of Engineering เสริมว่าเมื่อมีทีมที่มีศักยภาพ มีองค์ความรู้ของเราเองที่พร้อมใช้แล้ว เราจะสามารถสร้างแพลตฟอร์มเพื่อไปให้บริการลูกค้าได้เร็วขึ้น ตอบสนองได้ทันทีต่อความต้องการของลูกค้าและตลาด ซึ่งทำให้องค์กรเดินหน้าแบบยั่งยืน ทั้งในด้านบุคลากรและงบประมาณ
ด้านคุณศักดิ์ชัย หาญประเสริฐพร Head of IT Synergy and PMO กล่าวถึงอีกกุญแจสำคัญของการเปลี่ยนผ่านองค์กรในยุคดิจิทัล นั่นก็คือการสร้างเป้าหมายที่ทุกคนอยากจะทำร่วมกัน ไม่ใช่แค่ทีมใดทีมหนึ่งเท่านั้น
คุณจุมพฎ เสริมประเด็นการสร้างวัฒนธรรมการทำงานภายในของ The 1 ว่า The 1 ให้ความสำคัญกับการทำงานแบบ Agile โดยเน้นการทำงานเป็นทีม นอกจากเป้าหมายในระยะยาวอย่างยั่งยืนของธุรกิจแล้ว การสร้างเป้าหมายในระยะสั้นแต่จับต้องได้ สิ่งนี้ช่วยให้ทุกคนในองค์กรสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ The 1 ยังมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและพร้อมรับทุกการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ช่วงสุดท้ายของการสนทนา คุณฟร้องค์ ได้เผยทิศทางและกลยุทธ์ของ The 1 ในอนาคต ที่ยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อให้ลูกค้า การทำ Personalizaiton เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าในแบบเฉพาะรายบุคคลให้ได้มากที่สุด
ทั้งในแง่ของการพัฒนาเทคโนโลยีและแพลตฟอร์ม ขณะเดียวกันก็ขยายพันธมิตรใน The 1 Ecosystem อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายสิทธิประโยชน์เพื่อให้ครอบคลุมกับทุกไลฟ์สไตล์ของสมาชิก และตอบโจทย์ความนิยมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนั้น ในปี 2567 ยังเดินหน้าพัฒนา The 1 APP อย่างต่อเนื่องโดยมีเป้าหมาย คือ มอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าและสนุกกับการชอปปิงมากขึ้นในรูปแบบ Gamification
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด