คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปีนี้คือปีทองสำหรับพลังงานสะอาดอย่างแท้จริง ดังที่เห็นได้จากบริษัทผลิตยานยนต์ไฟฟ้าค่อย ๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้นทั่วโลก ยังไม่รวมไปถึงสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังผุดขึ้นมารองรับรถยนต์เหล่านี้ ที่สำคัญไปกว่านั้น แม้แต่ผู้นำจากประเทศต่าง ๆ ต่างสนับสนุนให้อุตสาหกรรมนี้เติบโต เช่น ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้กล่าวหาเสียงว่าจะสร้างสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าภายในปี 2030 และมุ่งมั่นว่าจะผลักดันการศึกษาวิจัยด้านพลังงานสะอาด
ไม่เพียงแค่ยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเป็นที่จับตามองเท่านั้น ในปีนี้เราก็จะได้พบกับบริษัทไฟแรงผลิตนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า จะเป็นตัวรถยนต์รูปแบบใหม่ก็ดี หรืออุปกรณ์เสริม บริการต่าง ๆ ก็ดี มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละบริษัทมีจุดเด่นอะไรที่น่าติดตามบ้าง และแนวโน้มการเติบโตของแต่ละบริษัทนั้นเป็นอย่างไร
Fisker บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีลักษณะใกล้เคียงกับ Tesla ก่อตั้งโดย Henrik Fisker บริษัทเจาะเป้าหมายลูกค้าที่ชื่นชอบรถยนต์ประเภท SUV และเน้นประกอบชิ้นส่วนที่รีไซเคิลได้ทั้งหมด แนวคิดดังกล่าวอาจถูกใจนักลงทุนสาย Activist ที่ต้องการให้องค์กรเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงนักลงทุนสถาบันรายใหญ่อื่น ๆ ที่กำลังหาธุรกิจ EV ชั้นนำที่สามารถเทียบเคียงกับ Tesla ได้
แม้ว่า Fisker ยังไม่ได้ผลิตรถยนต์ SUV ชั้นเรือธงอย่าง Ocean SUV จนกว่าจะถึงปี 2023 แต่ก็เป็นบริษัทที่น่าสนใจและสามารถขยายธุรกิจไปได้อีกในระยะยาว
ต้องเกริ่นก่อนว่า Facedrive ไม่ใช่เป็นบริษัทผลิตยานยนต์ไฟฟ้าโดยตรง แต่เป็นเป็นบริการโดยสารใช้รถร่วมกัน (Ridesharing), ขนส่งอาหาร, อีคอมเมิร์ซ, เฮลท์เทคสัญชาติแคนาดา ที่มีภารกิจในการรักษาเมืองรูปแบบยั่งยืนและมีโมเดลธุรกิจที่มุ่งรับผิดชอบสังคม (Socially Responsible)
ล่าสุด Facedrive ได้ลุยตลาดรถยนต์ EV เริ่มจากการเข้าซื้อกิจการ Steer แอปพลิเคชันให้เช่ารถยนต์ EV ชั้นนำรายเดือน ทั้ง Tesla, Porche, Audi รุ่นใหม่ล่าสุด โดยราคาเช่ารถยนต์ได้รวมไปถึงประกันภัย ค่าบำรุงรักษา และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ทั้งนี้ Steer เองก็ได้เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ Exelon ผู้ให้บริการพลังงานสะอาดรายใหญ่ของสหรัฐ
Electric Meccanica ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติแคนาดาหน้าใหม่ในตลาด เน้นผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งแบบ 1 ที่นั่ง และ รถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ตแบบ 2 ที่นั่ง นับว่าเป็นไม่กี่บริษัทที่หันมาลุยตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กและแต่ละรุ่นก็ถือว่ามีลักษณะเฉพาะโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ถูกใจสายชื่นชอบดีไซน์ล้ำ ๆ อย่างแน่นอน ขณะนี้ Electric Meccanica ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 1 รุ่น ได้แก่ SOLO และมีแพลนจะเปิดตัวรุ่น Tofino ในอนาคต และรุ่นอื่นที่เน้นการดีไซน์แบบคลาสสิก
SOLO รถยนต์สามล้อไฟฟ้าที่นั่งเดียว ออกแบบมาอย่างเรียบหรูและเป็นเอกลักษณ์ มีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าแบรนด์หรูอย่าง Tesla หรือ NIO นอกจากนี้ ยังตรงกับความต้องการของตลาดที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่นั่งเดียวมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
Tofino รถสปอร์ตไฟฟ้าแบบ 2 ที่นั่ง เน้นความล้ำสมัย สไตล์แห่งอนาคต
แน่นอนว่าไม่มีใครไม่รู้จัก Google บริการเสิร์ชเอนจิ้นระดับโลก โดย Google นั้นเป็นหนึ่งในบริษัทลูกของ Alphabet Inc. ซึ่งขณะนี้นอกจาก Alphabet จะดูแลด้านแพลตฟอร์มออนไลน์แล้ว ก็ยังอยู่ระหว่างการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าชนิดขับเคลื่อนด้วยตนเอง (Autonomous Venhicle) โดยได้แยกฝ่ายพัฒนารถยนต์ไร้คนขับเป็นบริษัทใหม่ที่มีชื่อว่า Waymo
Waymo เป็นโครงการที่ได้ทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนอัตโนมัติ เน้นจุดประสงค์เพื่อบริการโดยสารแท็กซี่ รถบรรทุก ล่าสุดได้ทดสอบวิ่งบนถนนไปแล้วกว่า 6.1 ล้านไมล์ หรือเท่ากับระยะทางจากนิวยอร์กไปซานฟรานซิสโก 2,100 ครั้ง นอกจากนี้เป็นรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุน้อยครั้งมากเพียง 47 ครั้งเท่านั้น เป็นผลจากความผิดพลาดของมนุษย์ และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บรุนแรงใดใด
อย่างไรก็ดี ในการทดสอบรถยนต์ครั้งนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างเต็มที่ว่าสามารถใช้งานได้จริง เพราะ Waymo ไม่เคยนำรถยนต์ไปทดสอบในเมืองที่มีสภาพอากาศรุนแรง อีกทั้งระหว่างที่ทดสอบ รถยนต์ขับเคลื่อนอย่างล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น
การที่ Waymo สามารถพัฒนารถยนต์ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้เกิดจากความร่วมมือ Alphabet เท่านั้น ยังมี Intel Corporation พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่มีส่วนร่วมในการผลิตฮาร์ดแวร์ประมวลผลข้อมูลเซนเซอร์ ฮาร์ดแวร์สำหรับการตัดสินใจตนเอง รวมไปถึงระบบเชื่อมต่อข้อมูล เพื่อให้ยานยนต์ภายใต้โครงการ Waymo ขับเคลื่อนได้อย่างไหลลื่นไร้รอยต่อ
ทั้งนี้ Intel Corporation ได้เข้าวงการยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติมาสักระยะหนึ่งแล้ว ย้อนกลับไปปี 2017 Intel ได้เข้าซื้อกิจการ MobileEye ผู้ผลิตชิปกล้องและซอฟต์แวร์สำหรับอุตสาหกรรมโทรศัพท์ระดับโลก และในตอนนี้ Intel กำลังตกลงดีลกับ Luminar บริษัทเทคโนโลยีที่กำลังมาแรง
Bloomenergy เป็นบริษัทผลิตแผงเชื้อเพลิงชนิดออกไซด์ของแข็งเพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า ขณะนี้มุ่งพัฒนาใช้งานเซลล์เชื้อเพลิงในระดับอุตสาหกรรม เป็นที่ต้องตาของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่เป็นจำนวนมาก
จะเห็นได้ว่าเริ่มมีบริษัทหลายแห่งเข้าสู่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (EV) กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าโดยตรง หรือจะเป็นบริษัทที่สนับสนุนพลังงานสะอาด ทั้งหมดนี้จะสามารถเข้ามาแข่งขันชิงพื้นที่ในตลาดกับบริษัทรายใหญ่ได้หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป
อ้างอิง: prnewswire
สำหรับประเทศไทย มีรถยนต์ EV ค่ายไหนที่น่าจับตามองและน่าสนใจบ้าง? สามารถเข้าไปชมกันได้ที่งาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 42 ณ วันที่ 24 มีนาคม - 4 เมษายน 2564 ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.bangkok-motorshow.com/main.php
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด