รู้จัก 3 ประเภทของ Blockchain พร้อมตัวอย่างการนำไปใช้งานเบื้องต้นในแวดวงต่าง ๆ | Techsauce

รู้จัก 3 ประเภทของ Blockchain พร้อมตัวอย่างการนำไปใช้งานเบื้องต้นในแวดวงต่าง ๆ

Blockchain ได้กลายเป็นที่ยอมรับระดับโลกในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมาย ที่นำคุณสมบัติของเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในลักษณะที่แตกต่างกันออกไป บทความนี้เราจะพามาทำความรู้จัก 3 ประเภทของ Blockchainว่ามีอะไรบ้าง รวมถึงตัวอย่างการนำไปใช้งานเบื้องต้นในอุตสาหกรรมต่างๆด้วย 

ประเภทของ Blockchain

Public blockchain network

Public blockchain เป็น Blockchain ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและมีส่วนร่วมได้ เนื่องจากเป็น Open Network ทั้งหมด โดยลักษณะของการใช้งานพื้นฐานของ Blockchain ประเภทนี้ คือ การแลกเปลี่ยน Cryptocurrency และการขุด รวมถึงความสามารถในการรักษาความไว้วางใจระหว่าง Community ของผู้ใช้ทั้งหมด 

เนื่องจากทุกคนในเครือข่ายรู้สึกมีแรงจูงใจที่จะทำงานเพื่อพัฒนาเครือข่าย แต่ข้อเสียของ Blockchain ประเภทนี้ คือ ต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการประมวลผลธุรกรรมเพราะใช้ระบบ Proof of work ในการตรวจสอบธุรกรรม และปัญหาอีกอย่างที่พบเจอคือ การเปิดกว้างเกินไป จึงทำให้ไม่มีความเป็นส่วนตัวในการทำธุรกรรมเท่าไรนัก

ตัวอย่างของ Public blockchain network เช่น Bitcoin  , Ethereum , BNB Chain ซึ่งต่างเป็น Blockchain ยอดนิยมที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย

Private blockchain network

Private blockchain คือ Blockchain ที่ทำงานในเครือข่ายแบบปิด ซึ่งสามารถเข้าร่วมได้เฉพาะบุคคลที่ได้รับอนุญาตหรือคำเชิญเท่านั้น โดย Blockchain ประเภทนี้เหมาะที่สุดสำหรับองค์กรและธุรกิจที่ต้องการใช้ Blockchain สำหรับการใช้งานภายใน 

ขณะที่การทำธุรกรรมใน Private blockchain นั้นเร็วและง่ายเมื่อเทียบกับ Public blockchain แต่ข้อเสีย คือ ไม่มีการกระจายอำนาจ เนื่องจากมีผู้มีอำนาจเพียงคนเดียวที่ดูแลเครือข่าย

ตัวอย่างของ Private blockchain network ได้แก่ Ripple (XRP) เครือข่ายแลกเปลี่ยนสกุลเงินเสมือนระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ

Consortium blockchain network

Consortium blockchain เป็น Blockchain ที่จำกัดผู้ใช้งาน โดยเป็นการผสมกันระหว่าง Public Blockchain และ Private Blockchain โดยที่องค์กรมากกว่าหนึ่งแห่งจะทำหน้าที่อนุญาตในการให้เข้าถึงโหนดที่เลือกไว้ล่วงหน้าสำหรับการอ่าน เขียน และตรวจสอบ Blockchain

นอกจากนี้ Consortium blockchain จะไม่เน้นที่สกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากมีเพียงผู้เข้าร่วมที่เลือกไว้ล่วงหน้าเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วม จึงไม่จำเป็นต้องมีแรงจูงใจทางการเงินโดยตรง 

ตัวอย่างการนำมาใช้ เช่น การจัดระบบการสร้างฉันทามติระหว่างองค์กร Consortium blockchain มักจะมีประสิทธิภาพมากกว่า Public Blockchain แต่มีข้อจำกัดเรื่องการกระจายอำนาจที่น้อยกว่าจึงเป็นสาเหตุที่ผู้เข้าร่วมแต่ละคนได้รับอำนาจมากกว่า

ตัวอย่างการนำไปใช้งานเบื้องต้นในแวดวงต่าง ๆ

เราสามารถนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ประโยชน์ได้หลากหลายด้าน เช่น Supply chain, การเงิน, อสังหาริมทรัพย์ และพลังงาน โดยบริษัทและบุคคลสามารถหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายและความไม่ชัดเจนในการโต้ตอบกับบุคคลที่สามในการดำเนินธุรกิจได้โดยการนำ Smart Contract มาใช้ 

นอกจากนี้ในอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องบริหารจัดการข้อมูลให้ปลอดภัย เช่น การดูแลสุขภาพและการระบุตัวตนทางดิจิทัล Blockchain จะช่วยให้ผู้ใช้ไม่เปิดเผยตัวตนและช่วยถ่ายโอนข้อมูลอย่างปลอดภัย

และสำหรับรัฐบาลและหน่วยงานทั่วโลก Blockchain สามรถนำมาใช้ในการรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรม เพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน รวมทั้งสามารถสร้างความเชื่อใจแก่ประชาชนได้ เช่น รัฐบาลสามารถใช้ Blockchain เพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น วันเกิด หมายเลขประกันสังคม ที่อยู่ และหมายเลขใบขับขี่


อ้างอิง Blockchain Council, CointelegraphOriginStamp





ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สิงคโปร์ ทำอย่างไรให้เป็นยักษ์ใหญ่ Fintech?เมื่อหัวใจของนวัตกรรมคือ ‘คน’

โลกยุคดิจิทัลพาให้หลายวงการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะ Fintech ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีสิงคโปร์เป็นผู้นำด้านการเงินแล้ว นับได้ว่าเป็นศูนย์กลาง Fintech ของภูมิภาค SEA ก็ว่าได...

Responsive image

สำรวจ 5 เทรนด์สำคัญจากงาน Accenture Life Trends 2025 ที่สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคไทย

สำรวจ 5 เทรนด์สำคัญจากงาน Accenture Life Trends 2025 ที่สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคไทยและทั่วโลก ตั้งแต่ความลังเลในโลกดิจิทัล, การเลี้ยงลูกยุคใหม่, เศรษฐศาสตร์แห่งความใจร้อน, ศักดิ์ศรี...

Responsive image

Qwen2.5-Max คืออะไร หมัดสองจาก AI จีนโดยยักษ์ใหญ่ Alibaba ที่เก่งกว่า Deepseek R1

Qwen2.5-Max โมเดล AI ใหม่จาก Alibaba ท้าชน DeepSeek R1 และ GPT-4o ด้วยประสิทธิภาพสูงกว่า ใช้พลังงานน้อยลง และอาจเปลี่ยนสมดุลอุตสาหกรรม AI ระดับโลก...