จับตา 3 ธุรกิจ เติบโตควบคู่เทคโนโลยีบนโลกเสมือนแบบทวีคูณ | Techsauce

จับตา 3 ธุรกิจ เติบโตควบคู่เทคโนโลยีบนโลกเสมือนแบบทวีคูณ

Greyscale กองทุนสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับ 1 ของโลกได้ทำนายว่า รายได้ต่อปีของแพลตฟอร์มโลกเสมือนจะเติบโตสู่ 1 ล้านล้านดอลล่าต่อปี อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าธุรกิจและแพลตฟอร์มโลกเสมือน ยังต้องอาศัยชนวนบางอย่าง เพื่อพิสูจน์และแสดงให้เห็นถึงการใช้งานจริงในวงกว้าง ซึ่งหากไม่มีเทคโนโลยี AR และ VR ที่เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญ ภาคธุรกิจและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ก็ไม่อาจเติบโตและมีปฏิสัมพันธ์กันได้ วันนี้ทีมงาน Techsauce จะพาไปส่องธุรกิจ 3 ประเภท ที่มีโอกาสการเติบโตควบคู่กับเทคโนโลยีบนโลกเสมือน

ธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมธุรกิจออฟไลน์อย่างธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ถึงมีโอกาสเติบโตควบคู่กับโลกเสมือน นั่นเป็นเพราะว่า เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) จะเข้ามามีบทบาทกับตัวธุรกิจ โดยเทคโนโลยี VR จะเปิดประสบการณ์การชอปปิงรูปแบบใหม่ในการเลือกสินค้า เพียงแค่หยิบอุปกรณ์อย่างแว่น VR และเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม ก็สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตามต้องการ พร้อมกับประสบการณ์แบบ 3 มิติ ราวกับว่าไปเลือกซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้าจริง ๆ ซึ่งในปัจจุบัน Alibaba ยักษ์ใหญ่แห่งวงการค้าปลีกออนไลน์ได้ริเริ่มนำเทคโนโลยี AR และ VR มาทดลองใช้เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า (อ้างอิงจาก Technode) เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือทางการตลาดและการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าแบบ Omni Channel ซึ่งถือเป็นส่วนเสริมในการกระตุ้นยอดขายอีกด้วย

การจัดงานอีเวนต์

เทคโนโลยี Hologram จะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับธุรกิจมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือธุรกิจเกี่ยวกับการจัดงานอีเวนต์ โดยเทคโนโลยี Hologram จะสร้างโอกาสให้กับผู้คน ทำให้สามารถเดินทางได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม หมายความว่า เราไม่จำเป็นที่จะต้องลงทุนสร้างห้องประชุม จองโรงแรมเพื่อจัดอีเวนต์ หรือแม้กระทั่งจัดเวทีคอนเสิร์ต และเสียเวลาเดินทางอีกต่อไป เพียงแค่โลดแล่นอยู่บนโลกเสมือน ก็สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับคอนเทนต์อันน่าตื่นตาตื่นใจได้ ผ่านเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) ซึ่งจะมาเป็นส่วนเสริมในการเปิดประสบการณ์และสร้างมิติใหม่ให้กับการจัดงานอีเวนต์บนโลกเสมือน

ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและเครือข่ายบล็อกเชน

ณ ปัจจุบัน สภาวะตลาดคริปโทฯ ได้เข้าสู่ช่วงตลาดหมีโดยสมบูรณ์ (Bear Market) ประกอบกับวิกฤต Black Swan ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ทำให้หลากหลายกระดานเทรดคริปโทฯ จำเป็นต้องรัดเข็มขัดเพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม หากทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติ ประกอบกับการเติบโตของแพลตฟอร์มโลกเสมือน ธุรกิจประเภทศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้ใช้งานแพลตฟอร์มโลกเสมือน จำเป็นจะต้องซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์เพื่อนำไปใช้งานจริงบนแพลตฟอร์ม ที่มีเทคโนโลยีบล็อกเชนทำงานอยู่เบื้องหลัง ตัวอย่างเช่น เมื่อมีการทำธุรกรรมเกิดขึ้นบน Bitkub Metaverse ผู้ใช้งานจำเป็นต้องใช้เหรียญ KUB ในการจ่ายค่าแก๊ส (Gas Fee) บนเครือข่าย Bitkub Chain ทั้งนี้ หากลองจินตนาการดูเล่น ๆ เมื่อทุกภาคธุรกิจหันหัวเรือมาใช้งาน Web 3.0 จำนวนธุรกรรมบน Bitkub Chain จะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งชนวนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลเลยก็ว่าได้

ข้อมูลอ้างอิงจาก

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

RELATED ARTICLE

Responsive image

ธ.ก.ส. เดินหน้า ‘New Gen Hug บ้านเกิด Season 2’ เฟ้นหาเกษตรกรรุ่นใหม่ เศรษฐกิจชุมชนยั่งยืน

ธ.ก.ส. เดินหน้า ‘New Gen Hug บ้านเกิด Season 2’ เฟ้นหาเกษตรกรต้นแบบ สร้างแรงบันดาลใจ ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน บนหน้าจอทีวี...

Responsive image

‘ตัวพ่อ’ วงการเทค 2023 ผู้สร้างปรากฏการณ์ ดราม่า และโอกาส

ในปีนี้ Techsauce ได้รวม 3 ตัวพ่อแห่งวงการเทคโนโลยี 2023 ที่มีบทบาท อิทธิพล และสร้างดราม่า มากที่สุดแห่งปี !...

Responsive image

เปิดตัว “ออร์บิกซ์” (orbix) กระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งเป้าสู่ผู้นำด้านบริการสินทรัพย์ดิจิทัล

ออร์บิกซ์ เทรด เปิดตัว “orbix” แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล รองรับความต้องการของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น เข้าถึงบริการที่ตอบโจทย์การใช้งานและปลอดภัย...