สร้างความสนใจมาอย่างต่อเนื่องสำหรับ True Digital Park ศูนย์กลางด้านนวัตกรรมดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่พร้อมผลักดัน Tech Startup Ecosystem ด้วยการรวมความร่วมมือทั้งหมดให้เข้าถึงได้ในพื้นที่เดียว ปัจจุบันโครงการนี้สร้างแล้วเสร็จไปมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว และจะเปิดใช้งานภายในต้นปี 2019
ความคืบหน้าอีกขั้นสำหรับโครงการ คือการร่วมมือของบริษัทพันธมิตรเทคโนโลยีรายใหญ่ 4 ราย ได้แก่ Microsoft , Epson , Cisco และ Ricoh ที่จะมาร่วมสร้างพื้นที่อัจฉริยะ และให้ Startup ที่เข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในนี้ ได้ใช้ชีวิตแบบสมาร์ท (Smart Life) ด้วยหลากหลายเทคโนโลยี
คุณฐนสรณ์ ใจดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้อธิบายถึง True Digital Park ที่จะกลายเป็นต้นแบบของ Smart city ในบริเวณโซนพื้นที่ปุณณวิถี พร้อมกับนำเทคโนโลยีสำคัญมาประยุกต์ใช้งาน ทั้ง Big Data Analytics, AI, IoT และ 5G testbed รวมถึงบริการดิจิทัลต่างๆ ทั้งยังจะมีการเก็บ Data จากผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในโครงการ นำมาพัฒนาต่อยอด เพื่อทำให้คนที่อยู่พื้นที่ทำงานและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
“เราต้องการเป็นผู้สร้าง Startup Ecosystem พร้อมทั้งนำนวัตกรรมมาพัฒนาประเทศ และในอนาคตต้องการให้ True Digital Park กลายเป็น Global Hub” คุณฐนสรณ์กล่าว
พื้นที่ของ Smart City แบ่งออกเป็น 3 พื้นที่หลัก คือ Residential Area , Campus Area และ Lifestyle Area โดยนวัตกรรมไฮเทคในโครงการ ประกอบด้วย
พร้อมกันนี้ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ร่วมกับ 4 พันธมิตรไอทีชั้นนำระดับโลก นำนวัตกรรมไฮเทคติดตั้งในโครงการ ได้แก่ Cisco , Microsoft , Epson และ Ricoh โดยมีเทคโนโลยีที่นำมาใช้ดังนี้
เทคโนโลยี Heat Map จาก Cisco รวบรวมข้อมูลการใช้งานพื้นที่ต่างๆ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และบริหารจัดการการใช้พื้นที่ และการสื่อสารถึงผู้ใช้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการควบคุมระบบแสงสว่าง (Smart Lighting) ช่วยจัดการระบบการใช้ไฟฟ้าในออฟฟิศและห้องประชุมให้เป็น Smart Office และ Smart Building
เทคโนโลยี AI จาก Microsoft นำ AI Cognitive service ซึ่งเป็นรูปแบบการตรวจและจดจำใบหน้าเพื่อควบคุมการเข้า-ออกอาคารโดยอัตโนมัติ เพื่อเสริมสร้างมาตรฐานความปลอดภัยแทนที่การใช้งานบัตรผ่านในแบบเดิม ในส่วนนี้จะมีการเก็บข้อมูลอารมณ์ของผู้เข้าออกจากสีหน้า ซึ่งข้อมูลจะถูกเก็บไว้บน Cloud ของ Microsoft
นวัตกรรม Epson เลเซอร์โปรเจคเตอร์ที่เป็นมาตรฐานใหม่ของโปรเจคเตอร์ในอนาคต ซึ่งให้ความคมชัดที่ดีกว่าและอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าโปรเจคเตอร์ทั่วไป ทั้งยังมีอินเทอร์แอคทีฟโปรเจคเตอร์สำหรับห้องบอร์ดรูมและโปรเจคเตอร์ความสว่างสูงสำหรับห้องประชุมขนาดใหญ่ โดยโปรเจคเตอร์ทุกเครื่องสามารถรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย เพื่อช่วยให้ทุกการประชุมมีประสิทธิภาพและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
RICOH ติดตั้งเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน รองรับการใช้งานของเหล่า Startup และผู้ใช้พื้นที่ประชุมต่างๆ ใน True Digital Park พร้อมเตรียมเปิด Ricoh Experience Center เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ด้านนวัตกรรมดิจิทัลภายใต้แนวคิดแบบ Open Innovation ให้แก่กลุ่ม Startup และสร้างแรงบันดาลใจในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ Ricoh มีมาประยุกต์ใช้ในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ True Digital Park ยังใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการเพื่อประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น Pave Gen ทางเดินที่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ในเวลากลางคืน และ EV Charger ส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เป็นต้น
การผนึกกับ 4 พันธมิตรไอที เป็นส่วนหนึ่งของการวางโครงสร้างและเทคโนโลยีสำคัญใน True Digital Park ซึ่งทำให้เห็นภาพชัดของการสร้างพื้นที่ให้เป็นต้นแบบของ Smart City อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ยังมีพันธมิตรอื่นๆที่จะร่วมกับขับเคลื่อนพื้นที่นี้ให้เป็น Tech Startup Ecosystem ไปพร้อมๆกันในหลายแขนง ซึ่งต้องติดตามกันอีกครั้งเมื่อมีการเปิดใช้งานจริงในต้นปี 2019 ทั้งนี้สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ truedigitalpark.com
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด