ทุกวันนี้ มุมมองการทำธุรกิจมีความหลากหลายมากกว่าที่เราจะคาดการณ์ ประกอบกับการเชื่อมต่อโลกได้ใกล้แค่เอื้อม ทำให้เกิดธุรกิจต่างๆมากมาย ตลาดไม่ได้ตีกรอบแค่ประเทศไทย แต่สามารถขยายไปในระดับภูมิภาคและระดับโลก ปัจจุบัน Startup เป็นธุรกิจที่ได้รับความสนใจ และหลายภาคส่วนให้การสนับสนุนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรใหญ่ที่เกิดความตื่นตัวกับยุค Digital Disruption และมองว่า Startup เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่จะเข้ามาหาขับเคลื่อนองค์กร หรือช่วยหา S-Curve ใหม่ได้ และหนึ่งในองค์กรใหญ่ใหญ่อย่าง True ก็เรียกได้ว่า เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับ Startup อย่างมาก ทั้งการร่วมสร้างระบบนิเวศของ Startup อย่างครบวงจรที่เราได้เห็นกันอย่าง True Digital Park รวมถึงโครงการ True Incube ซึ่งตอนนี้ดำเนินโครงการมาถึง Batch ที่ 6 แล้ว และพร้อมเปิดรับ Startup รุ่นถัดไป ที่จะผลักดันไปไกลในระดับโลก
ในประเทศไทยเราได้เห็น Startup เกิดใหม่และผู้ที่กำลังเริ่มธุรกิจ Startup จำนวนมาก ซึ่งสิ่งที่ Startup เหล่านี้ต้องการและขาดเสมอคือการสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็น การสนับสนุนด้านเงินทุน สถานที่ทำงาน คอนเนคชั่น หรือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่ง True Incube ก็เป็นโครงการที่พร้อมสนับสนุน Startup เป็นระบบนิเวศอย่างครบวงจร
โดย True Incube Inbubation & ScaleUp Program เป็นโครงการบ่มเพาะ Startup ที่ได้ดำเนินโครงการมาถึง Batch ที่ 6 แล้ว โดยปีนี้มาในธีม Rising Startup Together มีเป้าหมายหลักในการเฟ้นหา Startup ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับกลุ่มทรูและบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมจัด Boot Camp พัฒนาขีดความสามารถอย่างเข้มข้น ทั้งนี้เงินทุนที่ Startup 5 ทีมสุดท้ายจะได้รับ ยังมีมูลค่าขั้นต่ำ 1 ล้านบาทอีกด้วย และยังปิดท้ายโครงการด้วยการพา Startup ร่วมงาน Web Summit ที่ประเทศโปรตุเกส ซึ่งเป็นงานที่รวมคนในวงการ Startup ระดับโลก
การดำเนินโครงการที่ผ่านมา True Incube ได้มุ่งเน้นใน 4 แกนหลักคือ
ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เปิดเผยถึงความเข้มข้นของโครงการในปีนี้ว่า จะมีการจัด Boot Camp เป็นเวลากว่า 10 สัปดาห์ ซึ่ง Startup จะได้พบกับ Mentor ระดับแนวหน้า ทั้งจากองค์กรธุรกิจชั้นนำมาให้ความรู้ สร้างเสริมประสบการณ์และให้การปรึกษาอย่างใกล้ชิด
“โครงการ True Incube Incubation & ScaleUp Program Batch 6 – Rising Startup Together เปิดโอกาสให้ Startup ได้รับความรู้และคำปรึกษาเพื่อนำไปต่อยอดการขยายธุรกิจจาก 3 มุมมอง ได้แก่ มุมมองระดับบริษัทใหญ่ ระดับ Startup ที่ประสบความสำเร็จในไทย และระดับ Startup ที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ โดย ทรู อินคิวบ์ ได้ร่วมมือกับ RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กร เริ่มตั้งแต่การคัดเลือก Startup ที่ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจของกลุ่มทรูและบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ การอบรมในหลักสูตรแบบเข้มข้นกับเมนทอร์ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการปรับเปลี่ยนกระบวนคิดและการทำงานร่วมกันขององค์กรขนาดใหญ่กับ Startup ซึ่งจะมีทีมจาก Business unit ของกลุ่มทรูและบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ มาร่วม Workshop กับ Startup เพื่อร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ตั้งต้นออกมาทดสอบกับตลาดจริง มั่นใจว่า การสร้างความร่วมมือในลักษณะนี้ จะทำให้โครงการนี้เชื่อมต่อ Startup ให้เป็นพันธมิตรธุรกิจกับกลุ่มทรูและบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ทั้งยังนำไปสู่โอกาสในการลงทุน และเพิ่มขีดความสามารถของสตาร์ทอัพในการต่อยอดและขยายธุรกิจกับองค์กรขนาดใหญ่ในระดับภูมิภาคได้ต่อไป”
สำหรับธุรกิจที่โครงการ True Incube มุ่งเน้นในปีนี้ ได้แก่ AI (Artificial Intelligence), Big Data, ML (Machine Learning), IoT (Internet of Things), Robotics, Advertising & Media Tech , Logistic , Medical , Fin Tech และ Agri Tech ทั้งนี้ กลุ่มทรูและบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์กำลังมองหาพันธมิตรเพื่อต่อยอดและขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเน้นในด้านการจับคู่ธุรกิจ พร้อมเร่งการพัฒนาธุรกิจ Startup ให้สามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการได้ภายในเวลาเพียง 10 สัปดาห์ และที่สำคัญคือ การเพิ่มทักษะในการทำงานร่วมกันระหว่างองค์กรขนาดใหญ่และสตาร์ทอัพ ซึ่งเป็นสกิลที่ Startup สามารถนำไปใช้ในการทำงานร่วมกับองค์กรขนาดใหญ่และหน่วยงานต่างๆ เพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน
คุณประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ได้เล่าถึงการร่วมมือระหว่าง Startup กับองค์กรใหญ่ว่า Startup มีรูปแบบธุรกิจที่สามารถเข้ามาร่วมมือและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจขนาดใหญ่ได้ ในขณะเดียวกันธุรกิจขนาดใหญ่ก็ยังต้องพึ่งพา Startup ด้วยรูปแบบการทำงานของ Startup ที่มีกระบวนการที่รวดเร็ว เหมือนปลาเร็วชนะปลาช้า และ Startup ยังมีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีใหม่ๆมากกว่า ซึ่งเทคโนโลยีที่ทาง CPF โฟกัสก็ไม่ได้มีแค่ AgriTech เท่านั้น ยังมีธุรกิจอื่นๆที่ Startup สามารถเข้ามาร่วมมือกันได้ ยกตัวอย่าง CPF มีโรงงานใหญ่ๆจำนวนมาก จะทำไรอย่างไรที่ให้มี Process การทำงานที่รวดเร็วมากขึ้น หรือเรื่องของการทำ Logistic ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำอย่างไรให้เข้าใจ Customer ได้เร็วขึ้น เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ ได้แก่ Smart VISA สำหรับสตาร์ทอัพที่มีทีมงานเป็นชาวต่างชาติ และยังสามารถใช้งานโปรแกรมบัญชีออนไลน์ ฟรี 1 ปี ติดตามข้อมูลธุรกิจได้ในแบบทันที ทุกที่ ทุกเวลา จาก PEAK
Startup ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2562 - 9 กันยายน 2562 และสามารถติดตามเส้นทางการก้าวสู่สตาร์ทอัพระดับภูมิภาคกับโอกาสในการต่อยอดธุรกิจได้ทางเว็บไซต์
ทรู อินคิวบ์ www.trueincube.com
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด