จากสถานการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ COVID-19 ในสหรัฐ ส่งผลให้มหาลัยวิทยาลัยวอชิงตัน (Washington University) ตัดสินใจปิดมหาวิทยาลัยชั่วคราวเป็นมหาวิทยาลัยแรกในสหรัฐ และเปลี่ยนการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อป้องการระบาดเพิ่มเติมของไวรัสโคโรนา
โดยนอกเหนือจากห้องเรียน ทางด้านโรงพยาบาลของมหาลัย ห้องอาหาร และหอพักสำหรับนักศึกษาจะยังคงเปิดตามเดิม ซึ่งนาง Ana Mari Cauce อธิการบดีมหาวิทยาลัยวอชิงตันยังได้เสริมอีกว่า เป้าหมายในตอนนี้คือการทำให้ภาคการศึกษานี้ผ่านลุล่วงไปได้ โดยจะให้กระทบนักศึกษาและการเรียนการสอนน้อยเท่าที่สุดที่จะเป็นไปได้
ตามที่มหาลัยวิทยาลัยวอชิงตันได้ประกาศ หลายๆ มหาลัยได้เริ่มออกมาตรการป้องกันตามมา เช่น มหาวิทยาลัยซีแอตเทิล (Seattle University) มหาลัยวิทยานอร์ทอีสเทิร์น (Northeastern University) วิทยาเขตซีแอตเทิล และมหาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) ได้ตัดสินใจทำการเรียนการสอนแบบออนไลน์ และเปลี่ยนการสอบเป็นแบบ take-home
เนื่องจากมีนักศึกษารายหนึ่งจากมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลท์ (Vanderbilt University) ในรัฐเทนเนสซี่ ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโคโรนา ซึ่งนักศึกษารายนี้พึ่งกลับมาจากโปรแกรมแลกเปลี่ยนในอิตาลี ซึ่งทางมหาวิทยาลัยต่างๆ มีทิศทางความเห็นไปในทางเดียวกันว่านักศึกษาอาจเป็นพาหะในการนำเชื้อไวรัสโคโรนา มาสู่มหาวิทยาลัย และอาจจะทำให้การระบาดขยายวงกว้างมากขึ้น เนื่องจากมีนักศึกษาหลายๆ กลุ่มกลับมาจากการเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยงในช่วงปิดเทอมภาคฤดูใบไม้ผลิ
การเรียนการสอนแบบออนไลน์นี้อาจจะไม่ได้ผลกับทุกการเรียนการสอน เนื่องจากแต่ละวิชามีความหลากหลายและต่างกัน เช่น วิชาที่ต้องใช้แลป และสตูดิโอ หลายๆ มหาลัยจึงต้องพยายามปรับตัวกับการใช้เทคโนโลยี เช่น มหาวิทยาลัยแบรนด์แมน (Brandman University) ที่หันมาทำการเรียนการสอนแบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ Zoom ซึ่งเป็นเว็บไซต์วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งผู้สอนจะทำการสอนผ่าน Zoom เป็น 85% ของการเรียนทั้งหมด และมีการสอนแบบในห้องเรียน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการระบาดของไวรัส
นอกจากนี้ มหาลัยต่างๆ ในสหรัฐยังออกมาเตือนนักศึกษา และคณาจารย์ให้เตรียมตัวว่าอาจจะมีการปิดมหาลัยและการทำการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ถ้าหากตรวจพบว่ามีนักศึกษา คณาจารน์ หรือบุคคลากรของมหาลัยได้รับการติดเชื้อ และประกาศคำแนะนำให้แก่นักศึกษาที่พึ่งกลับมาจากต่างประเทศในช่วงฤดูร้อน ให้หลีกเลี่ยงการท่องเที่ยว และการอยู่ในที่ที่มีคนจำนวนมาก รวมถึงการยกเลิกการทัศนศึกษาในต่างประเทศ และการสนับสนุนให้นักศึกษาไม่ท่องเที่ยวในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศกลุ่มเสี่ยงในช่วงสถานการณ์การระบาดของไวรัส
อ้างอิงเนื้อหาข่าวจาก: Insight Higher Ed
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด