หลังจากที่ Metaverse ได้กลายเป็นคำยอดฮิตที่ผู้คนทั่วโลกหันมาให้ความสนใจ เรื่องราวของเทคโนโลยีโลกเสมือนก็ได้ถูกพูดถึงและได้รับความสนใจมากขึ้นกว่าเดิมไปด้วย โดยเฉพาะเทคโนโลยี AR หรือ Augmented Reality ที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการเล่นเกมยอดฮิตอย่าง Pokémon Go ที่ให้ทุกคนมาไล่จับโปเกมอนตามสถานที่ต่างๆ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้ แต่นอกจากเกมแล้วเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ยังมีประโยชน์อีกหลายด้าน หนึ่งในนั้นคือ การนำมาใช้ในการนำทางที่ให้มีความแม่นยำมากขึ้น ที่อาจเรียกได้ว่าเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาในสิ่งที่ Google Maps แอปนำทางที่ผู้คนนับล้านทั่วโลกขาดไม่ได้ในการใช้ชีวิตประจำวัน
จากการที่ Google Maps เป็นระบบ GPS ซึ่งใช้การรับ-ส่งสัญญาณจากดาวเทียม แม้ว่าปัจจุบันจะมีความแม่นยำขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังมี Pain Point บางประการที่ไม่สามารถ Support ผู้ใช้ได้ดีเท่าที่ควร เพราะการใช้สัญญาณจากดาวเทียมเช่นนี้ ยังมีข้อเสียที่หากใช้ Google Maps ในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยตึกสูงเช่น Hong Kong, London และ New York จะทำให้การรับสัญญาณ GPS แย่ลงจนเกิดความผิดพลาดในการนำทาง
ปัญหาอีกหนึ่งอย่างของ GPS คือการที่มันไม่สามารถบอกความแตกต่างของระดับชั้นได้ อีกทั้งยังไม่สามารถใช้กับการนำทางภายในตึก เพราะระบบไม่สามารถติดตามรายละเอียดปลีกย่อยอย่าง ชั้นในอาคาร หรือ ตำแหน่งของบันไดเลื่อน ทำให้เกิดการหลงทางภายในอาคารอยู่บ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้จึงมี Startup จากประเทศอังกฤษอย่าง Pointr ที่ได้ดึงเทคโนโลยี AR เข้ามาแก้ปัญหาดังกล่าว และ นำเสนอแนวทางที่เหมาะสมกับพื้นที่เหล่านั้น
Pointr ได้สร้างแผนที่ดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี AR ผสานระหว่างสภาพแวดล้อมโดยรอบและการนำทางในโลกเสมือน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถดูได้ทันทีว่าคุณกำลังอยู่ที่ไหนและจะต้องเดินทางอย่างไร ด้วยการวางร่องรอยของเหรียญไว้บนหน้าจอโทรศัพท์ของผู้ใช้ หลังจากนั้นผู้ใช้ก็เดินไปตามทางที่ปรากฏจากจุด A ไปยัง จุด B ได้โดยไม่หลงทาง
นอกจากนี้ Pointr ยังมีฟังก์ชั่นแสดงผลสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆของอาคาร เช่น ห้องน้ำ, ATM, บันไดเลื่อน, ลิฟต์ ว่าอยู่จุดใดบ้าง รวมถึงสามารถเก็บสถิติผู้ใช้งานอาคาร ว่ามักจะตั้งจุดหมายปลายทางหรือค้นหาสถานที่ใดในอาคารบ่อย และยังสามารถใช้สอดส่องดูแลความเรียบร้อยต่างๆในตัวอาคาร และแจ้งเตือนทันทีเมื่อเกิดความผิดปกติ
แอปพลิเคชัน Pointr สามารถใช้นำทางได้ทั้งระหว่างและภายในตึก เช่น Xiqu Centre สถานที่สำหรับทำการแสดงและจัดนิทรรศการสำหรับละครจีนแบบดั้งเดิมในฮ่องกง ซึ่งมีโซนการแสดงกระจัดกระจายอยู่ ทั่วอาคารขนาดกว่า 300,000 ตารางฟุต โดยมีห้องโถงเป็นศูนย์กลาง ทางลาดและบันไดเลื่อนมากมายที่เชื่อมต่อแต่ละพื้นที่นั้นทำให้ขอบเขตระหว่าง 8 ชั้นไม่ชัดเจน
เทคโนโลยีของ Pointr ได้ใช้ internet-connected sensors ที่ติดตั้งทั่วทั้งอาคารและพื้นที่อื่นๆ เพื่อให้ข้อมูลตำแหน่งและการนำทางที่แม่นยำ สำหรับในอนาคต Indoor maps และ AR กำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่และกลุ่มสนามบิน ในปัจจุบัน Pointr ได้ให้บริการแก่ สนามบินในหลายประเทศ เช่น London Gatwick Airport, Washington Airports และ Airports of Thailand
แม้ว่าตลอดการอธิบายถึงประโยชน์ของการนำเทคโนโลยี AR มาช่วยแก้ปัญหาในการนำทางนั้น จะมีการกล่าวเปรียบเทียบกับการใช้ Google Maps แต่สำหรับ Pointr ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อ Disrupt หรือเข้ามาแทนที่แต่อย่างใด เพียงแค่นำเสนอวิธีการนำทางแบบใหม่ด้วยแผนที่ดิจิทัล และให้ผู้คนรับข้อมูลนี้โดยง่ายมากยิ่งขึ้น
Ege Akpinar ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Pointr กล่าวว่า “Google Maps อาจเหมาะสำหรับการนำทางจากส่วนใดของเมืองหนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง แต่ทันที่คุณเริ่มเข้าไปภายในอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ สิ่งนั้นอาจไม่เพียงพอ ดังนั้นนี่คือ สิ่งที่เราปิดช่องว่าง”
สำหรับ Pointr มุ่งเน้นพื้นที่ขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ภายใต้คอนเซปต์ “large, confusing spaces” เช่น สนามบิน, พิพิธภัณฑ์, สนามกีฬา, ห้างสรรพสินค้า และปัจจุบันมีการเปิดให้ใช้งานแล้ว ที่ West Kowloon Cultural District ในฮ่องกง
อ้างอิง : Fast Company, Pointr
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด