ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีซึ่งเข้ามาขับเคลื่อนโลกใบนี้ให้เปลี่ยนแปลงไป ธุรกิจรูปแบบใหม่ ๆ ต่างเกิดขึ้นและนำพามาซึ่งความต้องการแรงงานที่เต็มไปด้วยทักษะที่เท่าทันกับยุคสมัย คนรุ่นใหม่จึงต้อง เตรียมพร้อมและปูพื้นฐานที่ควรมีอย่างครบถ้วนเพื่อพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศและโลกใบนี้
WEDO หน่วยงาน Digital Office ภายใต้ธุรกิจซิเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างเอสซีจี เห็นถึงความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก จึงมีวิสัยทัศน์ในการสร้าง Talent แห่งยุคผ่านการจัดโครงการ “WEDO Young Talent Program”
โครงการ WEDO Young Talent Program 2021 ในปีที่ผ่านมาได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างมากจากน้อง ๆ นักศึกษาทั่วประเทศ ปีนี้โครงการจึงกลับมาอีกครั้งพร้อมกับงาน Hell Day หนึ่งในกิจกรรมสุดโหดที่บรรจุอยู่ในโครงการ WEDO Young Talent ที่น้อง ๆ ทุกคนต่างพูดถึง เพราะจะต้องฝ่าด่านสุดท้าทายนี้แบบ non-stop 24 ชั่วโมงในรูปแบบ Online Virtual Event เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็น ‘สุดในรุ่น’ที่จะได้ ‘ทำงานจริง’ ใน ‘Hell Weeks’ กับ WEDO ในรูปแบบ Micro Enterprise เป็นระยะเวลา 13 สัปดาห์
โดยในปีนี้ WEDO Young Talent Program 2022 ได้จัด Hell Day 2022 ในรูปแบบ Online Virtual Event ภายใต้ธีม “Chaotic Gateway to Discover the Hidden Power” เรื่องราวของการท่องอวกาศเพื่อค้นหาขุมพลังลึกลับอันยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในดินแดนหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า “WEDO space” โดยระหว่างทาง candidate ทุกคนจะต้องฝ่าฟันหลากหลายบททดสอบ เพื่อคัดเลือกนักศึกษาที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทั้ง Skillset และ Mindset รวมถึงความรู้รอบแบบ T-Shape ทั้งในด้าน Design, Business และ Technology
คุณอภิรัตน์ หวานชะเอม Chief Digital Officer บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด หรือ พี่อาร์ท ได้เปิดเผยแนวคิดในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ว่า “Disruption ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้มีธุรกิจและนวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้น เราจึงต้องหา Talent ที่มี Mindset และ Passion ที่ต่างไปจากการทำธุรกิจเดิม ๆ และต้องเป็นคนที่กล้าจะออกนอกกรอบ ลองผิดลองถูก นี่คือความท้าทาย เพราะระบบการศึกษาผลิตคนมาเฉพาะทางและส่งเข้าไปสู่ระบบเศรษฐกิจเดิม แต่เมื่อธุรกิจใหม่เกิดขึ้นจึงควรมีคนที่มีทักษะใหม่ เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องรู้ลึกและรู้รอบ ทั้งหมดจึงเป็นที่มาในการที่สร้าง Future Talent นี่คือเหตุผลที่เกิดโครงการ Young Talent Program เกิดขึ้น”
“ต้องยอมรับว่าการสร้างนวัตกรรมจริง ๆ นั้นยากมาก และมีหลากหลายอุปสรรค ไม่ว่าจะทำในหน่วยงานเล็กหรือใหญ่ พี่อยากส่งสารให้น้องรับทราบก่อนว่าการที่น้องจะมาทำงานประเภทนี้มัน Hell ถ้าน้องชอบมาเลย น้องคือคนที่ใช่สำหรับเรา เพราะสโลแกน Hell Day คือการหาคนที่ใช่ ไม่ใช่เก่ง ถ้าน้องรู้สึกสนุกและมีคุณค่าในงานแบบนี้ ที่นี่คือที่ที่ใช่เลย เพราะฉะนั้นเราเลยพยายามจำลองและย่อประสบการณ์มาให้น้อง ๆ ได้สัมผัส”
หนึ่งในไฮไลท์ที่ทุกคนต้องพูดถึงคงหนีไม่พ้นด่านสุดโหดที่อัดแน่นกันแบบต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง เรียกได้ว่าน้อง ๆ จะต้องงัดทุกศักยภาพออกมาใช้กันจนเต็มที่ โดยปีนี้มีสารพัดด่านนอกจากจะวัด skillset ในด้าน Design Business และ Technology แล้ว ยังประกอบด้วยกิจกรรมที่วัด mindset ทั้ง 8 ด้านของน้อง ๆ ที่ทาง WEDO มองว่าเป็นคุณสมบัติที่ Talent ยุคใหม่ควรมี ซึ่งได้แก่
กิจกรรมเริ่มต้นตั้งแต่เที่ยงวันที่ 14 พ.ค. ถึงช่วงบ่ายของวันที่ 15 พ.ค. 65 โดยมีการร่วมกันระดมความคิด ไอเดีย นำเสนอ Solution และ Pitching กับคณะกรรมการ ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาของการทำภารกิจจะมีทั้งภารกิจกลุ่มและเดี่ยวสลับกันไปมา อีกทั้งยังมีสารพัดด่านที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว กดดันทั้งทางอารมณ์และร่างกาย
โดยผู้ได้รับรางวัลจากทั้งหมด 20 ทีม
คุณอาร์ท อภิรัตน์ ได้กล่าวในตอนท้ายของกิจกรรมว่า “ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง อย่างแรกคือไม่อยากให้รู้สึกว่าตนเองประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว เพราะน้องอาจจะเจอแบบอื่นที่ใช่กว่าก็ได้ แต่เวอร์ชันนี้เป็นเวอร์ชันของ WEDO ประโยชน์ของกิจกรรมนี้คือการได้พบว่าจริง ๆ แล้วน้องได้ทดสอบตัวเอง ค้นพบศักยภาพที่แท้จริงของตัวเอง แม้จะมีบางคนที่ขอหยุดกลางทางเพราะไม่ใช่ พี่ยังคงรู้สึกแฮปปี้ที่น้องรู้จักตัวเอง ไม่มีใครแพ้แม้จะเข้ารอบหรือไม่เข้ารอบ แต่สิ่งที่ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนจะได้คือ ‘ได้รู้จักตัวเอง’ ส่วน Hell week นั้นเป็นเพียงรางวัลของ Hell Day
เพราะที่ WEDO เรามีสโลแกนว่า The Easy Day was Yesterday อันเป็น Teaser ของ Hell Week ทำจริง เจ็บจริง เป็นเทคโนโลยีจริง มี Budget จริง มีลูกค้าจริง ซึ่งเป็นคอนเซปต์ของ Micro Enterprise น้องหลายคนถูกสังคมผลักดันด้วยการบอกให้เรามักคิดถึงเป้าหมายถัดไป จนลืม Enjoy the Journey อย่ามองแต่ว่าเมื่อไหร่จะจบกิจกรรมแล้วจะได้ Pitch ไอเดียที่เจ๋งมาก ๆ แต่อย่าลืมสนุกไปกับแต่ละช่วงเวลา และนี่คือโอกาสในการที่น้องได้หาตัวเองให้เจอ ”
โดย Techsauce ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พี่อาร์ทถึงแนวคิดในการจัดงานและมุมมองต่อทักษะการทำงานในอนาคต รอติดตามรับชมกันได้ที่ Techsauce
และนี่เป็นเพียงบทสรุปภาพรวมของงาน ‘Hell Day 2022’ เท่านั้น ยังมีอีกหลากหลายประเด็นน่าสนใจให้ทุกท่านได้ติดตามกันต่อ กับการประกาศผลสรุปว่าใครจะได้ผ่านเข้าไปทำงานจริงในสายงานแห่งโลกอนาคตกับ ‘Hell Weeks’ ทั้ง 13 สัปดาห์กับ WEDO
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด