จบไปแล้วกับงาน Thailand Influencer Awards 2022 by Tellscore ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 4 ภายใต้คอนเซปต์ “F O R W A R D - Looking Forward >> Thinking Forward >> Moving Forward” โดยมีเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ และครีเอเตอร์แนวหน้า, แบรนด์ และเอเจนซี่ชั้นนำ, คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งไทย และต่างชาติ, สื่อและ Media Partner กว่า 350 คน ตบเท้าเข้าร่วมงาน เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ณ TRUE ICON HALL ชั้น 7 ศูนย์การค้า ICONSIAM

โดยในปัจจุบัน Influencer มีอิทธิพลต่อการตลาดอย่างมาก เพราะมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคอยู่ไม่น้อย บริษัท เทลสกอร์ จำกัด หนึ่งในผู้นำด้าน Influencer Marketing, แพลตฟอร์ม Tellscore จึงได้จัดงาน Thailand Influencer Awards ขึ้น เพื่อเป็นงานประกาศรางวัลผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด หรืออินฟลูเอนเซอร์ ครีเอเตอร์ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมในช่องทางดิจิทัล เพื่อการเฟ้นหาคนคุณภาพ (Recognize Talents) ส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานการสร้างคอนเทนต์ที่ดี (Promote Content Standards) และเพื่อสร้างสังคมอินฟลูเอนเซอร์ที่แบ่งปัน (Build Community)

ในบทความนี้ เราจะมาสรุปภาพรวมในงาน บรรยากาศของงาน และประเด็นที่น่าสนใจจากการเสวนาภายในงาน

เริ่มต้นเปิดงานด้วยการแสดงสุดพิเศษจาก อินฟลูเอนเซอร์สายแซ่บ “หนูหรี่ หมูกระทะป๊ะปุ๊” และวงแร๊ปเปอร์มาแรง “Flow Dojo”

ผู้ชนะ Influencer Awards ทั้ง 20 สาขารางวัล

ก่อนที่จะเข้าช่วงการประกาศผลรางวัลทั้ง 20 สาขา แก่อินฟลูเอนเซอร์ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอด 1 ปีที่ผ่านมาในสายตาสาธารณชน รวมถึงราววัลแบรนด์และเอเจนซีชั้นนำ ที่ทำแคมเปญร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ได้อย่างยอดเยี่ยมอีก 15 สาขารางวัล

โดยมีรายชื่ออินฟลูเอนเซอร์ผู้ได้รับรางวัลในสาขาต่าง ๆ (เฉพาะผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1) ดังนี้

• รางวัล Best Art & Design Influencer: Riety

• รางวัล Best Automotive Influencer: Spin9

• รางวัล Best Beauty & Fashion Influencer: Eyeta

• รางวัล Best Entertainment & Lifestyle Influencer: papaparty_feelgood

• รางวัล Best Family & Parenting Influencer: Beam-Oil Channel

• รางวัล Best Financial & Investment Influence: The Money Game by Tanin

• รางวัล Best Foodie Influencer: Bow Kanyarat

• รางวัล Best Green Change Maker Influencer: Environman

• รางวัล Best Health & Sports Influencer: Bebe Fit Routine

• รางวัล Best Healthcare Professional Influencer: เรื่องของผิว by Kengw

• รางวัล Best Home & Living Influencer: BoomTharis

• รางวัล Best Kids Influencer: YimYam TV

• รางวัล Best NFT Artist: The Duang

• รางวัล Best Pets Lover Influencer: Japanfriends

• รางวัล Best Social Change Maker Influencer: เส้นด้าย

• รางวัล Best Tech, Gadget & eSports Influencer: Techoffside

• รางวัล Best Travel Influencer: Pigkaploy (พลอยเรียนจบแล้วทำไรต่อ)

• รางวัล Best Virtual Influencer: katii.katie

• รางวัล Best Voice Content & Podcast Influencer: People you may know By FAROSE Podcast

โดยในปีนี้ มีการประกาศรางวัล Best Regional Influencer Awards แก่อินฟลูเอนเซอร์ทั้ง 5 ประเทศคือ ไทย ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ผ่านการลงคะแนนตัดสินจากคณะกรรมการทั้ง 5 ประเทศ ได้แก่ 

• Suvita Charanwong, CEO & Co-Founder, Tellscore, Thailand 

• Yuhwen Foong, CEO & Founder, SushiVid, Malaysia 

• Ace Gapuz, CEO, Blogapalooza, The Philippines 

• Rade Tampubolon, CEO & Co-Founder, SociaBuzz, Indonesia 

• Ajeng Febrianti, Community Manager, Tellscore, 

• Indonesia Detch Singh, CEO & Founder, HypeTap, Australia

• รายชื่อผู้ชนะจากแต่ละประเทศประกอบด้วย

  • Best Regional Influencer Thailand: I Roam Alone

  • Best Regional Influencer Australia: seanszeps

  • Best Regional Influencer Indonesia: jonathanend

  • Best Regional Influencer Malaysia: yazminaziz

  • Best Regional Influencer The Philippines: arshielife 

โดยสามารถติดตามรายละเอียดและชื่อผู้ชนะในอันดับอื่น ๆ ของแต่ละสาขาได้ที่ https://www.thailandinfluencerawards.com/awards/2022

ผู้ชนะ Brand Awards ทั้ง 15 สาขารางวัล

อีกหนึ่งประเภทรางวัลที่น่าสนใจไปไม่น้อยกว่าอินฟลูเอนเซอร์คือ Brand ต่าง ๆ ที่ในปีนี้มีแบรนด์ดังที่เราคุ้นหูกันดีได้ถูกเสนอชื่อเข้ามาในการประกาศรางวัล Brand Awards 2022 หลายแบรนด์เลย โดยรายชื่อแบรนด์ผู้ชนะในแต่ละสาขาของปีนี้ ได้แก่

• รางวัล Best Beauty & Fashion Influencer Campaign: Garnier 

• รางวัล Best Family & Parenting Influencer Campaign: MamyPoko

• รางวัล Best Food & Beverage Influencer Campaign: Lay's Truffle

• รางวัล Best Restaurant Influencer Campaign: Swensen's

• รางวัล Best Health Influencer Campaign: Bumrungrad

• รางวัล Best Device & Consumer Electronics Influencer Campaign: Dyson V12

• รางวัล Best Home Solution Influencer Campaign: Lunio Thailand

• รางวัล Best Pet Care Influencer Campaign: Kaniva

• รางวัล Best Financial & Investment Influencer Campaign: KBANK

• รางวัล Best Retail & eStore Influencer Campaign: Pomelo

• รางวัล Best Mobile & Digital Content Influencer Campaign: Spotify Submitted by UM & MBCS

• รางวัล Best Delivery & Logistics Influencer Campaign: foodpanda

• รางวัล Best Social Change Maker Influencer Campaign: KBANK

• รางวัล Best Green & Animal Rights Change Maker Influencer Campaign: Nestlé

• รางวัล I Love Influencer Award: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

สามารถติดตามรายละเอียดและชื่อแบรนด์ผู้ชนะในอันดับอื่น ๆ ของแต่ละสาขาในหัวข้อ Brand Awards และรายชื่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ที่ https://www.thailandinfluencerawards.com/awards/2022

มองอนาคตวงการอินฟลูเอนเซอร์และ NFT

หลังจากการประกาศรางวัลทั้ง 35 สาขา จากรางวัลทั้งประเภทอินฟลูเอนเซอร์และแบรนด์แล้ว ภายในงานยังมี Session เสวนาพิเศษ ในหัวข้อ “How is NFT shaping the content creator economy” ในประเด็นเรื่อง Digital Asset โดยเฉพาะ NFT ว่าจะส่งผลต่อวงการอินฟลูเอนเซอร์ และครีเอเตอร์อย่างไรในอนาคตอันใกล้ รวมไปถึงการปรับตัวในสายอาชีพนี้ และแบรนด์ต่างๆ ที่ต่างก็ต้องเตรียมตัวเพื่อก้าวสู่การทำการตลาดในยุค Metaverse กัน

ในการเสวนาในหัวข้อนี้ มี Speaker ที่เข้าร่วม 6 ท่าน คือ

1. คุณปั๋น ดริสา การพจน์ ศิลปินด้าน Art & Design ชื่อดัง เจ้าของช่อง Riety และ NFT creator

2. คุณวีระชัย ดวงพลา ศิลปินนักวาดชื่อดัง และ NFT creator หรือที่รู้จักกันดีว่า The Duang

3. คุณสัญชัย ปอปลี CEO Cryptomind, และที่ปรึกษาสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย

4. คุณพิมพ์ลภัทร ไชยวิริยะโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันตนา โพสท์ โปรดักชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด

5. คุณวิน วีระประทีป Manager, Social Media Marketing โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์

6. คุณสุวิตา จรัญวงศ์ CEO & Co-Founder, Tellscore

และ ดำเนินรายการโดยคุณสิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม CEO, RGB72 และผู้จัดงาน Creative Talk Conference

คุณสัญชัย ปอปลี มองว่า Blockchain เป็นโครงสร้างพื้นฐาน ที่ทำให้อีกหลายเทคโนโลยีเป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็น Digital Asset ต่าง ๆ Cryptocurrency หรือ NFT แต่สินทรัพย์ดิจิทัลแต่ละชนิดก็มีวัตถุประสงค์และกลุ่มผู้ใช้ที่ไม่เหมือนกัน NFT เป็นเรื่องของการสร้าง Transparency ให้กับ Ownership มากกว่าการซื้อขายเพื่อลงทุน และ NFT  ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง Membership แบบเดียวกับการสะสมแต้มจากแบรนด์ต่างๆ ในขณะที่ผู้สะสม ก็ซื้อ NFT เพื่อตอบโจทย์ Emotional/ Personal Value ของตัวเองมากกว่า Trade Value

ขณะที่คุณปั๋น Riety มองว่า NFT ไม่ควรเป็นเรื่อง Technical แต่เธอต้องการสร้าง Community ระหว่างผู้สะสม ที่สามารถแบ่งปันเรื่องราว แชร์โลกส่วนตัวระหว่างกันได้ ซึ่งหากมองในด้าน Emotional Buying หรือการตัดสินใจซื้อ NFT จากคุณค่าทางอารมณ์ เพราะต้องการสนับสนุน YouTuber หรือ Influencer ที่ตัวเองชื่นชอบ บางท่านที่อาจมีแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตนเอง ก็สามารถต่อยอดด้วย NFT แบรนด์ตนเองในลักษณะของการสะสมแต้ม Membership สามารถใช้แลกซื้อผลิตภัณฑ์ได้ ทดแทนกลยุทธ์การตลาดแบบเดิม ๆ โดยศิลปินไม่ต้องมีความกังวลว่าจะโดน Disrupt โดยเทคโนโลยี เพราะเทคโนโลยีต่าง ๆ จะ Disrupt การทำงานทุกแขนงอาชีพแน่นอน แต่เรื่อง NFT ยังต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มากมาย ยังไงก็ต้องใช้คน ยังไง AI ก็แทนที่คนไม่ได้ทั้งหมด

ทางฝั่งคุณพิมพ์ลภัทร ไชยวิริยะโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันตนา โพสท์ โปรดักชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวเสริมว่า ในมุมของแบรนด์ ที่ลงสู่ตลาด NFT และ Digital Asset ว่าทำออกมาในลักษณะของการนำ Asset ของบริษัทที่มีอยู่แล้วของบริษัท มาทำเป็น NFT เช่น Character จากภาพยนตร์ โดยให้แบรนด์เจ้าของ 100% ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก ที่แบรนด์จะเป็นเจ้าของผลงาน NFT ของศิลปิน เพราะการทำงานของศิลปินต้องมีการพูดคุยกับผู้ว่าจ้างอยู่แล้ว ว่ามีเงื่อนไขในการสร้างสรรค์ผลงานอย่างไร และมองกลับกันว่าศิลปินต้องเตรียมความพร้อมตรงนี้ให้ชัดว่าเรากำลังทำงาน หรือทำศิลปะส่วนตัว ถ้าทำชิ้นงานศิลปะส่วนตัวก็ย่อมเป็นของตนเอง แต่ถ้าทำงานแลกค่าจ้างก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของการซื้อขายและการเปลี่ยนมือของ Ownership แบรนด์ที่ต้องการเข้าสู่โลก NFT ต้องมองหาโมเดลที่พอดีระหว่าง NFT กับแบรนด์ให้ได้ โดยอิงจาก Asset ที่แบรนด์มีอยู่แล้วก็จะได้เปรียบ

ส่วนคุณปู สุวิตา จรัญวงศ์ CEO Tellscore มองว่า ถึงเวลาแล้วที่แบรนด์จะคิดถึงการเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมด้าน NFT เพราะเป็นโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ปัจจุบันเมืองไทยมี Active NFT users อยู่ที่ราว 1 ล้านคน เป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ Brand ไม่ว่าแบรนด์จะสร้างโปรเจ็ค NFT ด้วยตัวเอง จะร่วมงานกับ Creator หรือจะสนับสนุน NFT Creator ไปก่อนก็ตาม ก็เป็นเรื่องราวของการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นว่าที่ลูกค้าของแบรนด์นั่นเอง

คุณสุวิตา Tellscore ได้สรุปให้ผู้ฟังคิดตามว่า โอกาสที่ทั้งศิลปิน, Influencer และแบรนด์ จะเข้าสู่ NFT ยังมีอีกมาก เพราะในขณะนี้ NFT ยังคงเป็น Early Stage เท่านั้น ใครก็ตามที่เข้าสู่โลก NFT มีโอกาสที่จะสร้างการเติบโตก่อน และเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ความได้เปรียบของการเป็น First to market ในวงการเทคโนโลยี เป็นสิ่งที่มีมูลค่ามหาศาล การสร้างแบรนด์ สร้างรายได้ แม้ในวันนี้จะยังเป็นช่วงเริ่มต้น แต่ก็มี use case จากฝั่งแบรนด์ให้เห็นเป็นสิบ ๆ เคสแล้วที่ประสบความสำเร็จทั้งการสร้างรายได้ และการสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ทุกภาคส่วนแค่ต้องศึกษาเรื่องความเสี่ยง และข้อกำหนดต่าง ๆ ไปด้วยพร้อมกัน แต่ในอนาคตอันใกล้ ใครจะไปรู้ว่า NFT อาจกลายเป็น Norm ใหม่ของกลยุทธ์ทางการตลาด เหมือนที่แบรนด์ไหน ๆ เมื่อก่อนก็ต้องมี Facebook และวันนี้ที่ทุกคนก็ต้องมี TikTok ที่แน่ ๆ Influencers และ Creators ต่าง ๆ จะมีส่วนในการเติบโต และสร้างมูลค่าตลาดให้กับ Ecosystem ของ NFT แน่นอน

เจาะเทรนด์ตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในเอเชียแปซิฟิก

หลักจากการเสวนาในประเด็น Digital Asset กับอินฟลูเอนเซอร์แล้ว ภายในงานยังมีอีกหนึ่งหัวข้อการเสวนาที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ในหัวข้อ “The Shaping of Asia Pacific Influencer Economy” ที่จะพาไปเจาะลึกการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่สถานการณ์ และความต่างความเหมือนของตลาด ไปจนถึงการสร้างสรรค์คอนเทนต์อินฟลูเอนเซอร์ในแต่ละประเทศ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนแนวคิดมาประยุกต์ใช้ในประเทศหรือตลาดตนเอง

โดย Speaker ทั้ง 6 ท่านเป็น Market Lead ด้าน Influencer Marketing จาก 5 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คือ

1. Suvita Charanwong, CEO & Co-Founder, Tellscore, Thailand

2. Yuhwen Foong, CEO & Founder, SushiVid, Malaysia

3. Ace Gapuz, CEO, Blogapalooza, the Philippines

4. Rade Tampubolon, CEO & Co-Founder, SociaBuzz, Indonesia

5. Ajeng Febrianti, Community Manager, Tellscore, Indonesia

6. Detch Singh, CEO & Founder, HypeTap, Australia

วิทยากรทั้ง 6 ท่าน เริ่มต้นเสวนาด้วยการเล่าถึงพื้นฐานตลาด Influencer Marketing ใน 5 ประเทศเอเชียแปซิฟิกว่ามีแนวโน้ม มีมาตรฐานราคาในแต่ละประเทศอย่างไร รวมถึงปัจจัยสำคัญที่มีส่วนกำหนดราคา Influencer ในแต่ละประเทศ โดยเชื่อว่าในปี 2023 เป็นต้นไปเราจะได้เห็นการจ้างงานอินฟลูเอนเซอร์มข้ามประเทศกันมากขึ้น

โดยวิทยากรแต่ละท่านได้แลกเปลี่ยนความแตกต่างของ Social Media Platform ที่ได้รับความนิยมในแต่ละประเทศ รวมถึงความเหมาะสมของสื่อต่าง ๆ ทั้ง Shortform Video, Longform Video, ภาพ และงานเขียน ที่ผู้ติดตามในแต่ละประเทศชื่นชอบ โดยได้เจาะรายละเอียดในความคาดหวังของนักการตลาดที่ต้องการจากอินฟลูเอนเซอร์ในปี 2023 ผ่านมุมมองเชิงการตลาดที่ต้องมองตั้งแต่ Engagement ใน Social Media เช่น Likes, Comments, Shares จำนวนการคลิกต่อเนื่องจนถึง Sales Conversions (ตามหลักการ Marketing Funnel) 

Speaker จาก 5 ประเทศเห็นพ้องกันแล้วว่า แม้ Marketer จะมีความต้องการต่ออินฟลูเอนเซอร์ที่แตกต่างกัน แต่ก็มีเป้าหมายที่คล้ายกัน เพราะในปัจจุบันแบรนด์ต่างๆ มอง Influencer Marketing เป็นสิ่งจำเป็นในทุกแผนการตลาด และส่วนใหญ่มีการตั้งงบอินฟลูเอนเซอร์แยกออกมาจากงบการตลาดทั่วไป ซึ่งแสดงถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแรง (Mature Market)

นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยถึงรายละเอียดการทำงาน ความต้องการใช้ Influencer ในแต่ละประเภทตามคอนเทนต์ และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ไปจนถึงผลลัพธ์ และการวัดผลของ Marketer ไม่ว่าจะเป็นเอเจนซี่หรือแบรนด์ ที่ต่างหวังพึ่งความเชี่ยวชาญจาก Influencer ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและได้คาดการณ์ถึงก้าวต่อไปของ Influencer Economy ในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า

สรุปกันไปแล้วกับงาน Thailand Influencer Awards 2022 แต่หากผู้อ่านสนใจรับชมงานย้อนหลังสามารถรับชมได้ที่นี่ 

—----------------------------------------------------------------------------------------------------------

เกี่ยวกับผู้จัดงาน: บริษัท เทลสกอร์ จำกัด

เทลสกอร์ก่อตั้งปี 2016 เป็นผู้ให้บริการด้าน influencer marketing & digital media buying ครบวงจร และแพลตฟอร์ม Influencer Hiring Automation ภายใต้ชื่อ Tellscore.com มีสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย และสาขาในประเทศอินโดนิเซีย และโคลอมเบีย ปัจจุบันเฉพาะในประเทศไทย เทลสกอร์มีอินฟลูเอนเซอร์ลงทะเบียนกว่า 85,000 คนจากทั่วประเทศ ให้บริการลูกค้าระดับแนวหน้าทั้งแบรนด์และเอเจนซี่ และมีบริการพิเศษในกลุ่มลูกค้า SMEs - Tellscore เชื่อในพลังของ Influencer และตั้งมั่นในการมีส่วนร่วมสร้างให้สังคมโซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ผ่านโครงการเพื่อสังคมภายใต้นโยบาย Influencer for Change ได้แก่โครงการ Help You, Help Me ที่สนับสนุนหน่วยงานเพื่อสังคมจำนวนหนึ่งเป็นประจำทุกปี เปิดโอกาสให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์โปรโมตและสร้างการมีส่วนร่วมจากประชาชนเพื่อผลักดันกิจกรรมของหน่วยงานเพื่อสังคมต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม 

หากนักการตลาด เอเจนซี่ หรือแบรนด์ใด สนใจ Influencer Marketing เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่จะมาช่วยขยายธุรกิจและนำไปสู่การสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้น สามารถติดต่อเพื่อขอคำแนะนำจาก Tellscore ได้ที่ 

Email: [email protected]

เว็บไซต์ Tellscore  

Facebook: Tellscore  

และติดตามงาน Thailand Influencer Awards ได้ที่ www.thailandinfluencerawards.com