กรณีศึกษา Digital Transformation เสริม MILL ให้แกร่งในศึกค้าเหล็กได้อย่างไร

กรณีศึกษา Digital Transformation เสริม MILL ให้แกร่งในศึกค้าเหล็กได้อย่างไร

Digital Transformation ถูกนำมาใช้กับธุรกิจผลิตเหล็กยุคใหม่ที่มีคลื่น Disruption ผลักดันให้ต้องขับเคลื่อน  เช่นเดียวกับ บมจ. มิลล์คอน สตีล (MILL) ก็ไม่อาจหลีกพ้น ทั้งการใช้ JUBILI by Builk เป็น App ที่ดูแลการขายและ CRM รวมถึงมีระบบ Bar Counting System มาช่วยทำงานที่ต้องพึ่งพาความแม่นยำทดแทนแรงงานคน กระทั่งล่าสุดที่มองหาโซลูชั่นติดตามและตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำผ่านระบบ Blockchain

Digital Transformation

บมจ. มิลล์คอน สตีล เริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2541 เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กชั้นนำของไทย ควบคู่กับเป็นศูนย์บริการด้านผลิตภัณฑ์เหล็กแบบครบวงจร โดยมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทั้งเหล็กเส้นกลม เหล็กข้ออ้อย และเหล็กรูปพรรณ ภายใต้แบรนด์ “มิลล์คอน" ที่สามารถทำรายได้ทะลุ 2 หมื่นล้านบาทไปเมื่อสิ้นปี 2560

ด้วยภาวะอุตสาหกรรมที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายแง่มุม MILL จึงต้องปรับตัวเพื่อให้เดินหน้าต่อได้ โดยร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการผลิตเหล็กทั้งกระบวนการห่วงโซ่ โดยแทรกอยู่ในทุกมิติของอุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในอนาคต

ไม่ว่าจะมีดีลร่วมทุนกับ Kobe Steel, Ltd. ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัท โคเบลโก้ มิลล์คอน สตีล จำกัด เพื่อผลิตเหล็กลวดและเหล็กลวดเกรดพิเศษ รวมถึงลงขันกับ Thiha Group และบริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (GEL) จัดตั้งบริษัท มิลล์คอน ทิฮา จีอีแอล จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตเหล็กรูปพรรณในเขตเศรษฐกิจพิเศษติลาวา (The Thilawa Special Economic Zone) ในประเทศเมียนมา

ด้วยพลังจาก Digital Transformation ที่เข้ามาสั่นสะเทือนในแทบทุกอุตสาหกรรมไม่เว้นแม้กระทั่งธุรกิจค้าเหล็ก ส่งผลให้ในปี 2560 MILL จึงปรับกลยุทธ์องค์กรด้วยแนวคิด ‘Think Beyond Steel’ เพื่อก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมยุค Digital อย่างเต็มรูปแบบ และขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ปรับเปลี่ยนองค์กรใหม่ที่เรียกว่า ‘TRANFORMILLCON’ จากการบอกเล่าของ สุรีรัตน์ ลีสวัสดิ์ตระกูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การตลาดและสื่อสารองค์กร แห่ง MILL

Digital Transformation

อะไรคือเหตุผลที่ต้องก้าวสู่อุตสาหกรรมยุค Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบ

เริ่มเห็นตั้งแต่ปีที่แล้วว่า Digital Transformation กำลังจะมามีบทบาทมากขึ้น จึงเริ่มมีการปรับเปลี่ยน vision และ mission ใหม่ เพื่อให้เราหลุดออกจากกรอบเดิมที่เน้นแข่งขันกันในด้านราคาและสอดคล้องกับการแนวทางที่เราเลือกที่จะเป็น จึงเกิดกลยุทธ์ที่เรียกว่า TRANFORMILLCON (Transformation Millcon)

‘TRANFORMILLCON’ ครอบคลุมในด้านใดบ้าง

TRANFORMILLCON เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งพัฒนาธุรกิจหลัก 3 ด้าน เพื่อให้บริษัทมีต้นทุนลดลงและดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ จากการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาพัฒนา เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ดีในการผลักดันผลประกอบการของกลุ่มบริษัทมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นและยั่งยืนท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง

หนึ่ง กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (Construction Material) ที่ต้องการเน้นเสร้างมูลค่าของผลิตภัณฑ์ให้เพิ่มขึ้นโดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยตั้งแต่การผลิตจนถึงการส่งมอบให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้บริษัทมุ่งเน้นการส่งสินค้าที่มีคุณภาพให้ทันกับความต้องการของลูกค้าในราคาที่แข่งขันได้ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการต่อต้นทุนและลดความเสี่ยงในแง่ค่าขนส่ง อีกทั้งเพิ่มช่องทางการขายผ่านออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อยและลูกค้าที่อยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ

สอง กลุ่มเหล็กเกรดพิเศษ (Special Steel) เนื่องจากบริษัทต้องการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ให้สูงขึ้น จากที่เคยทำกำไรต่อชิ้นได้เพียง 1-2 บาทแต่เมื่อผลิตเหล็กเกรดพิเศษจะทำไรได้ 30-50 บาทต่อชิ้น โดยมุ่งป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์จากเดิมที่มีเพียงกลุ่มลูกค้าที่เป็นอุตสาหกรรมก่อสร้างเพียงกลุ่มเดียว

สาม การลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ (Supporting Core Business) เพื่อเป็นการสนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัท และการหาโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนในธุกิจอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท

Supporting Core Business เป็นการไปลงทุนในธุรกิจที่จะมาสนับสนุน 2 ธุรกิจแรก เช่น การลงทุนในธุรกิจ Logistics Technology Construction Technology และ Factory Technology

ความคืบหน้าของ ‘TRANFORMILLCON’ ปรากฎในด้านใดบ้าง

ปีที่ผ่านมา ในส่วนของการผลิตของโรงงาน 3 แห่งมีการนำ Technology ใหม่ ๆ มาใช้ เพื่อทำให้เครื่องจักรลดใช้พลังงานลงและเสริมให้เป็นระบบ Automation มากขึ้น ควบคู่กับการใช้เครื่องจักรเพื่อมาทำงานบางส่วนแทนแรงงานคน ซึ่งช่วยให้คนสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ด้าน lean organization

อาทิ ลงทุนเรื่อง Bar Counting System ซึ่งเป็นระบบนับจำนวนเหล็กด้วย Digital Technology โดยให้คนเป็นผู้ควบคุมเครื่อง จึงใช้แรงงานเพียง 2 คนก็เพียงพอ จากเดิมที่ต้องมีถึง 6 คน ซึ่งสามารถนำแรงงานที่เหลือไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์มากขึ้นได้

นอกจากนี้ได้ใช้โปรแกรม ERP (Enterprise Resource Planning) ที่เสริมโมดูลใหม่ ๆ เช่น SAP Analytics Cloud (SAC) ที่มีระบบ Business Intelligence หรือ BI ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายงานด้านธุรกิจต่าง ๆ ได้รวดเร็วด้วยตนเอง ทำให้การนำข้อมูลทางธุรกิจไปใช้งานนั้นเกิดขึ้นได้อย่างคล่องตัว และเข้าถึงได้จากทุกอุปกรณ์ในทุกที่ทุกเวลา

Digital Transformation

ตัวอย่างของการไปลงทุนด้าน Technology ที่โดดเด่น

เริ่มจากเมื่อปี 2558 ที่ MILL เคยลงทุนราว 40% ของหุ้นทั้งหมดกับ Lonkong Studio Co., Ltd. (ปัจจุบันคือ บริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ BUILK ซึ่งเป็น Startup ที่พัฒนาช่องทางจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้างให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างทั่วไทยผ่านออนไลน์

ปัจจุบันมีธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง SMEs ที่บริหารงาน อยู่บนระบบของ BUILK กว่า 18,000 บริษัทใน 5 ประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย สปป. ลาว เมียนมา และ กัมพูชา

ลูกค้าของ Builk ก็คือลูกค้าที่เป็น final destination ของเราอยู่แล้ว

ทั้งนี้ปัจจุบันการลงทุนดังกล่าวได้ปรับเปลี่ยนจากในนามของ MILL เป็นการขายหุ้นให้แก่บริษัท มูนช็อต เวนเจอร์แคปปิตอล จำกัด ในอัตราราว 34% นอกจากนี้ล่าสุด สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ได้ก้าวลงจากสถานะ CEO แล้วถอยไปเป็นที่ปรึกษาของ MILL แทน (โดยสิทธิชัยลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2561 )

นอกจากลงทุนใน BUILK แล้วยังต่อยอดไปสู่เรื่องอื่น ๆ อีกหรือไม่

เรายังใช้ JUBILI by BUILK ในด้านการบริหารงานขายและความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ซึ่ง JUBILI เป็นโปรแกรมบริหารงานขายสำหรับร้านค้าวัสดุก่อสร้าง และ Construction Graph ที่ให้บริการเช็คราคาวัสดุก่อสร้างจากฐานข้อมูลการสั่งซื้อจริง

“ JUBILI เป็น App ที่พัฒนาต่อยอดมาเพื่อให้ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างใช้ โดยเราให้สิทธิประโยชน์กับลูกค้าที่ซื้อเหล็กกับเราด้วยการออกค่า fee สำหรับการใช้งาน JUBILI ให้ จึงเป็นเหมือนมูลค่าเพิ่มให้ลูกค้า ดังนั้นนอกจากส่งเสริมให้ BUILK เจริญเติบโตแล้วทาง MILL ก็ได้ประโยชน์ด้วย ”

Digital Transformation

ความคืบหน้าของการพัฒนาระบบข้อมูลที่รองรับ Blockchain เป็นอย่างไร

ตอนนี้เป็นเพียงแนวคิดอยู่ เพราะยังไม่สามารถหาคู่ค้าหรือผู้พัฒนาระบบที่เหมาะสมได้ แต่ก็มีความคืบหน้าในระดับหนึ่งตรงที่ใกล้จะได้ที่ปรึกษาเพื่อมาคัดเลือกแล้ว ซึ่งเราเชื่อว่าแนวทางนี้ต้องเกิดขึ้นแน่ แค่ในวันนี้ยังไม่เห็นใครที่พัฒนาระบบนี้ขึ้นมา 100%

โดยคอนเซ็ปต์ของระบบที่วางไว้คือ ข้อมูลทุกอย่างจะอยู่บน Cloud Computing ซึ่งข้อมูลที่เคยเป็นเอกสารจะกลายเป็นรูปแบบ paperless โดยต้องการให้ระบบสามารถตรวจสอบและติดตามข้อมูล หรือ tracking ได้ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ นับตั้งแต่ข้อมูลของวัตถุดิบที่นำมาผลิตสินค้าชิ้นนี้ ข้อมูลการผลิตของสินค้าชิ้นนั้น ข้อมูลสินค้าที่ถูกส่งไปยังลูกค้าของเรา และข้อมูลสินค้าที่ลูกค้าของลูกค้านำไปใช้ หรือสินค้านี้อยู่ที่ตึกหรือถูกนำไปใช้ที่ไหน รวมถึงยังมีแผนผนึก QR Code บนเหล็กทุกชิ้น เพื่อให้สามารถตรวจสอบข้อมูลวัตถุดิบและการผลิตได้ด้วย

สำหรับแผนพัฒนาในระยะแรกจะเริ่มที่การทำ e-billing ด้วยแนวคิดที่ให้เราใช้อย่างง่ายดายก่อนแล้วค่อยต่อยอดให้ลูกค้า ไม่เพียงเท่านั้นยังเชื่อมโยงกับสถานบันการเงินในแง่การทำ e-payment ด้วย

ไม่สามารถเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ เพราะลูกค้าหรือ supplier บางรายก็ยังต้องการเอกสารที่เป็น paper อยู่ แต่ขอให้ภายในของเราเริ่มที่ e-billing ก่อนแล้วค่อย connect แต่ละระบบเข้ามาด้วยกันในเฟสต่อ ๆ ไป หลังจากที่คู่ค้าของเราเห็นประโยชน์ของการใช้ระบบแบบนี้แล้ว

การที่สามารถ tracking ได้เป็นประโยชน์อย่างไร

ประโยชน์โดยตรงสำหรับเราคือสามารถตรวจสอบวัตถุดิบที่นำมาใช้ ข้อมูลตัวสินค้าที่ผลิต การจำหน่ายและขนส่งสินค้า ขณะที่ลูกค้าที่นำเหล็กไปใช้ก็จะมีข้อมูลเพื่อตรวจสอบสาเหตุในกรณีที่เกิดความผิดพลาดได้

“กรณีที่เกิดปัญหา ทางผู้รับเหมาปลายน้ำที่นำสินค้าไปใช้สามารถ tracking กลับมาที่ต้นทาง เพื่อจะตรวจสอบถึงสาเหตุหรือ error ต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน เพราะรู้ได้แม้กระทั่งเศษเหล็กที่นำมาผลิตมีที่มาจากไหน”

จุดที่ยากสุดของการปรับตัวเพื่อรับมือกับ Digital Disruption คืออะไร

ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอะไร ที่เป็น Traditional Business มองว่าการเริ่มปรับเปลี่ยนที่คนก่อนเป็นเรื่องยากที่สุด

 


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

มรดกแนวคิด Steve Jobs ที่ส่งต่อถึง Tim Cook เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของ Apple

Tim Cook ยกหนึ่งคำสอนล้ำค่าในการทำงานจาก Steve Job ที่ทำให้ Apple เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลก ในด้านการส่งเสริมนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ภายในองค์กร นั่นก็คือ ‘ทุกคนสามารถสร้าง...

Responsive image

ทำไมองค์กรต้องมี ‘Innovation Culture’ พื้นฐานที่ขาดไม่ได้ถ้าอยากสร้างนวัตกรรม

ในบทความนี้ Techsauce ขอพาผู้อ่านไปรู้จักคำว่า Innovation Culture หรือ วัฒนธรรมนวัตกรรม อีกฟันเฟืองสำคัญของการสร้างนวัตกรรมองค์กรที่ขาดไปไม่ได้...

Responsive image

เจาะกลยุทธ์ ‘ปรับแต่ไม่เปลี่ยน’ ที่ IKEA ร้านเฟอร์นิเจอร์เก่าแก่เอาตัวรอดในยุคดิจิทัล

กลยุทธสำคัญอย่าง ‘ปรับแต่ไม่เปลี่ยน’ ที่ทำให้ IKEA สามารถรักษาเอกลักษณ์อันโดดเด่นของบริษัท ไปพร้อมกับการปรับตัวท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง...