ผลสำรวจจาก The Workforce Institute ของ UKG บริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติจากสหรัฐฯ ที่ให้บริการด้านการจัดการแรงงานและทรัพยากรมนุษย์ ชี้ พนักงานกว่า 70% ลงความเห็นว่า หัวหน้าของพวกเขามีผลกระทบต่อสุขภาพจิต มากกว่าหมอหรือนักจิตบำบัดเสียอีก 

UKG สำรวจความเห็นจากพนักงาน 3,400 คนใน 10 ประเทศ พบว่าความเครียดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ทั้งชีวิตพัง โดย 43% ของพนักงานที่ตอบแบบสำรวจบอกว่ารู้สึกเหนื่อยล้า 78% กล่าวว่าความเครียดส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงานและด้านอื่นๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะสุขภาพกาย สุขภาพจิต และความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ซึ่งหัวหน้างานเป็นหนึ่งในสาเหตุหลัก 

พนักงานกว่า 84% กล่าวว่าความเครียดในการทำงานเกิดจากหัวหน้า และชาวอเมริกันกว่า 57% เชื่อว่าจะเป็นผลดีกับองค์กรโดยตรง หากมีการเทรนพนักงานให้เป็นหัวหน้าทีมที่ดีขึ้นได้ 

แบบไหนคือหัวหน้าที่ไม่ดี?

เรามักได้ยินคนพูดว่า ‘ไม่ได้ลาออกเพราะงาน แต่ลาออกเพราะหัวหน้า’ แสดงให้เห็นว่าหัวหน้านั้นเป็นปัจจัยสำคัญในการทำงานของพนักงานเป็นอย่างมาก เมื่อหัวหน้าไม่ได้รับการฝึกอบรมหรือไม่มีประสบการณ์ในการดูแลพนักงาน จะส่งผลให้สภาพแวดล้อมในการทำงานแย่ และทำให้พนักงานไม่ชอบหัวหน้าในที่สุด แล้วลักษณะนิสัยหัวหน้าแบบไหนที่ลูกน้องไม่อยากอยู่ด้วย ? 

• จู้จี้จุกจิก

หัวหน้าบางคนคิดว่าจำเป็นที่จะต้องควบคุมพนักงานอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานทำงานจริง และงานเสร็จตามที่กำหนด ในขณะเดียวกันพนักงานต่างก็ต้องการความไว้วางใจในการทำงาน

• เป็นผู้ฟังที่ไม่ดี

เมื่อพนักงานเข้าปรึกษาปัญหากับหัวหน้า พวกเขาต้องการเพียงแค่คนรับฟังและช่วยเหลือ แต่กลับพบว่าพนักงานส่วนใหญ่ถูกละเลย หัวหน้าไม่รับฟังปัญหาเหล่านั้น ซึ่งก็ทำให้เกิดความขัดแย้งในองค์กรตามมา

• มีการบริหารจัดการไม่ดี

เมื่อหัวหน้าขาดการประชุม ทำเอกสารหาย ไม่มีการวางแผนงาน หรือให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดความระส่ำระสายในที่ทำงานจนทำให้ทุกคนในองค์กรเกิดความเครียด มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ toxic 

• ให้ฟีดแบ็คไม่ได้ 

สิ่งสำคัญสำหรับการเป็นหัวหน้าคือต้องรับฟังลูกน้องและให้คำแนะนำกลับไป ไม่ใช่การเพิกเฉยต่อพนักงาน เพราะหากหัวหน้าไม่ให้ฟีดแบ็ค งานที่ติดค้างอยู่ก็ไม่คืบหน้า

ทำอย่างไรถึงเรียกว่าเป็นหัวหน้าที่มีประสิทธิภาพ

เนื่องจากหัวหน้ามีอิทธิพลต่อพนักงานมาก ดังนั้นหัวหน้าจึงต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและน่าอยู่ให้แก่พนักงาน การมีหัวหน้าที่ดีจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงานและลดอัตราการลาออกได้ จากการศึกษาพบว่า แรงจูงใจและการมีส่วนร่วมของพนักงานกว่า 70% นั้นล้วนขึ้นอยู่กับหัวหน้าทีมของพวกเขา

และนี่คือวิธีในการเป็นหัวหน้าที่ดีและมีประสิทธิภาพ:

• มีการสื่อสารที่เปิดกว้าง จริงใจต่อกัน ไว้เนื้อเชื่อใจกัน 
• ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม
• มีการกำหนดหน้าที่ในการทำงานที่ชัดเจน
• ให้และรับฟังฟีดแบ็คอยู่เสมอ
• ฟังความคิดเห็นจากพนักงานในทีม
• รับรู้ถึงการทำงานหนักและยินดีกับความสำเร็จของพนักงาน
• เป็นตัวอย่างที่ดีแก่พนักงาน
• มีทัศนคติที่ดี
• ตั้งเป้าหมายในการทำงานไว้เสมอ

สุขภาพจิตของพนักงานจะดีหรือแย่ลงนั้นขึ้นอยู่กับหัวหน้างานมากกว่าการดูแลของแพทย์หรือจิตแพทย์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่หัวหน้าจะต้องใช้อำนาจหน้าที่ของตัวเองให้ดีและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าตนไม่ใช่สาเหตุหลักของความเครียดในพนักงาน

อ้างอิง: linkedin, forbes