Exec Insight ในหัวข้อ พลิกโจทย์อสังหาฯ ด้วย Mindset 'นักเเก้ปัญหา' มาลองฟังมุมมองการพลิกโจทย์อสังหาฯ ในแบบฉบับผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่ตั้ง Mindset แบบ 'นักแก้ปัญหา' อะไรคือบทเรียนจากอดีต ที่เขาจะกลับไปบอกตัวเองเมื่อเป็นวัยรุ่น คุยกับ คุณณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ CEO จาก SC Asset บริษัทอสังหาริมทรัพย์แนวหน้าของประเทศไทย โดย Techsauce ได้สรุปสาระสำคัญจากการสัมภาษณ์ได้ดังนี้
ในปีนี้ GDP ของประเทศไทยนั้นคาดว่าจะติดลบมากกว่า 5% ซึ่งต้องยอมรับว่าภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นก็เกี่ยวข้องกันกับตัวเลขนี้อยู่แล้ว ซึ่งในตอนนี้วิกฤตได้ส่งผลกระทบกับอสังหาฯ อยู่ 2 เรื่องหลัก ๆ ได้แก่
สภาพคล่อง: เมื่อวิกฤตเกิดขึ้น สิ่งแรกที่เกิดขึ้นคือผู้คนนั้นเริ่มที่จะตื่นตระหนก นักลงทุนนั้นเกิดความกังวลและไม่มั่นใจเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันนั้นมีความไม่แน่นอนสูง ส่งผลให้ตลาดพันธบัตรมีปัญหา ผู้คนเริ่มลังเลในการลงทุนในพันธบัตร ทำให้บริษัทอสังหาฯ หลาย ๆ รายที่ใช้พันธบัตรเป็นแหล่งเงินนั้นขาดแหล่งเงิน และหันไปพึ่งธนาคารหรือแหล่งอื่น ๆ
รายได้: SC Asset พบว่ายอดการซื้อบ้านนั้นกลับเพิ่มขึ้นจากความเชื่อของผู้คนที่เชื่อว่าในสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนสูงนั้นทำให้พวกเขาต้องการพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนี้ผู้คนนั้นยังมีพฤติกรรมการเลือกซื้อบ้านที่เปลี่ยนไป จากเมื่อก่อนที่ผู้คนนั้นมีแนวโน้มที่จะมาดูบ้านหลาย ๆ ครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ แต่ในปัจจุบัน ด้วยเวลาที่ว่างขึ้นทำให้ลูกค้านั้นสามารถที่จะนัดครอบครัวให้มาพร้อมกันได้ภายในครั้งเดียว รวมถึงดอกเบี้ยที่ถูกลง ทำให้การซื้อขายบ้านแนวราบนั้นขายดียิ่งขึ้น
เมื่อเราพูดถึง “ในวิกฤตมีโอกาส” เราต้องถามว่าวิกฤตนี้เป็นวิกฤตของใคร เราก็จะเจอโอกาสที่อยู่ตรงนั้น
วิกฤตของพนักงาน ในช่วงล็อคดาวน์ พนักงานจะต้อง Work from Home ซึ่งวิกฤตในที่นี้คือการทำงานนั้นมีข้อจำกัดมากขึ้น ทำให้ทำงานได้ยากขึ้น แต่ในปัจจุบันนี้เราอยู่ในช่วงเวลาที่เทคโนโลยีนั้นกลายมาเป็นโซลูชั่นในมุมมองต่าง ๆ ของชีวิต ทำให้พนักงานนั้นสามารถที่จะเรียนรู้เรื่องของเทคโนโลยีและสามารถที่จะใช้เทคโนโลยีได้อย่างง่ายดาย ซึ่งโอกาสที่เกิดขึ้นนั้นคือบริษัทสามารถที่จะทำ Digital Transformation ได้ง่ายขึ้น บริษัทนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องใช้พลังในการชักชวนพนักงานในการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ เนื่องจาก Mindset ของพวกเขานั้นเข้าใจและพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนอยู่แล้ว
วิกฤตของลูกค้า จากวิกฤตที่เกิดขึ้นทำให้พฤติกรรมของลูกค้านั้นเปลี่ยนแปลงไป บ้านนั้นทำหน้าที่เป็น Hub สำหรับทุกอย่าง ลูกค้านั้นไม่ได้แค่ Work from Home แต่ Learn from Home, Buy from Home และทำทุก ๆ อย่างจากที่บ้านได้ ซึ่งโอกาสที่เกิดคือการที่บ้านนั้นกลายมาเป็นโซลูชั่นมากกว่าสินค้า บ้านจะทำหน้าที่เป็น Hub ที่เชื่อมต่อกับโซลูชั่นต่าง ๆ กับเทคโนโลยีต่าง ๆ เพราะลูกค้าสามารถทำทุกอย่างได้จากที่บ้าน
เมื่อก่อนเราอาจจะได้ยินว่าเราจะต้องทำที่ทำงานของเราให้เป็นเหมือนบ้านหลังที่สอง แต่ตอนนี้เรากำลังจะทำบ้านให้เป็นที่ทำงานแหล่งที่สองของเรา
จากการที่ลูกค้านั้นหันมาดูแลบ้านมากขึ้น ทาง SC Asset ก็ได้สร้างการ Subscription หรือที่เรียกว่า “รู้ใจคลับ” เมื่อลูกค้านั้นซื้อบ้านหรือซื้อคอนโด ลูกค้าจะเป็นสมาชิกของรู้ใจคลับโดยอัตโนมัติ โดยรู้ใจคลับนั้นเกิดขึ้นมาเพื่อนดูแลสมาชิก ลูกค้านั้นจะสามารถติดต่อกับทุก ๆ การบริการผ่านแอปพลิเคชัน ไม่ว่าจะเป็นบริการทำความสะอาดบ้าน ซ่อมบ้าน ดูแลสวน หรืออาบน้ำให้สัตว์เลี้ยง เรียกว่าครอบคลุมโซลูชั่นเรื่องบ้านและเรื่องชีวิตของสมาชิกทั้งหมด
ในยุคนี้เรียกว่าธุรกิจการบริการหรือธุรกิจแบบ Subscription นั้นกำลังเติบโตอย่างมาก จากสถิตแล้วบริษัทต่างประเทศที่ให้บริการแบบ Subscription นั้นมีรายได้ที่โตกว่า 300% ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา รวมถึงพฤติกรรมของคน Gen Z หรือ Gen Y ที่มีความคุ้นชินกับการใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของหรือการใช้บริการต่าง ๆ ด้วยพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้พวกเขานั้นมี Mindset ที่ไม่ได้อยากจะเป็นเจ้าของอะไร หากอยากจะฟังเพลงหรือดูหนังก็สามารถที่จะ Subscribe กับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ซึ่งจากพฤติกรรมเหล่านี้ ตอนนี้ทาง SC Asset นั้นก็ให้บริการ Service Subscription แล้ว และในอนาคตก็กำลังมองถึงการทำ Home Subsciption หรือการอยู่อาศัยแบบ Subsciption
ข้อดีของคอนโดคือการที่มีโลเคชั่นที่ดี ส่วนบ้านข้อดีคือมีพื้นที่ที่กว้างขวาง แต่ในตอนนี้โลเคชั่นที่ดีไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ติดถนนเสมอไป เพราะเรามีโซลูชั่นที่จะเข้ามาช่วยให้บ้านนั้นมีโลเคชั่นที่ดีได้ อย่างเช่น ถ้าหากบ้านนั้นตั้งอยู่ในซอยแต่ว่าบริการต่าง ๆ เช่น เดลิเวอรีหรือส่งของ นั้นยังสามารถเข้าไปถึงได้นั่นก็จะทำให้ผู้อยู่อาศัยนั้นสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย ดังนั้นในอนาคตแนวโน้มเทรนด์การซื้อบ้านแนวราบนั้นจะมีมากขึ้นแน่นอน
เมื่อเป็น Developer วิธีคิดของเราคือเราทำอะไร แต่เมื่อเป็น Living Solution Provider เรากำลังแก้ปัญหาให้กับใครและอย่างไร
ทางองค์กรจึงได้ปรับเปลี่ยน Mindset ของพนักงานให้เน้นไปที่การแก้ปัญหา การให้โซลูชั่นต่าง ๆ มากกว่าการคิดค้นผลิตภัณฑ์ขึ้นมา ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจาก IDEO บริษัทที่มีความโดดเด่นเรื่อง Design Thinking ในการเข้ามาช่วยในการสร้างวิธีคิดผ่านเวิร์กชอปต่าง ๆ ที่ทำให้พนักงานของ SC Asset สามารถนำมาต่อยอดในการทำการคิดค้นและสร้างโซลูชั่นต่าง ๆ ขึ้นมาใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งบริษัทนั้นได้มี 2 ทีมที่ดูแลในด้านของ Living Solution เพิ่มเติมขึ้นมา คือ
ทีม Living Solution ที่มีหน้าที่ในการไปทำความเข้าใจคนและหาโซลูชั่นที่จะตอบโจทย์ความต้องการของคน และนำโซลูชั่นเหล่านี้มาเชื่อมต่อกับบ้าน
ทีมรู้ใจคลับ ทำหน้าที่เป็นทีมที่คอยดูแลสมาชิกทั้งหมด ทั้งเรื่องของ Free Service หรือบริการที่ต้องมีการ Subscription
SC Asset ได้เริ่มทำการ Agile ใน 4 พื้นที่หลักในองค์กร คือเรื่องของคน โครงสร้าง ขั้นตอนและข้อมูล เพื่อให้องค์กรนั้นมีความคล่องตัว รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้นหลังการแพร่ระบาด COVID-19 ได้จบลง ซึ่งในเรื่องของโครงสร้างนั้น ตอนนี้ทางบริษัทได้เน้นไปในเรื่องของความยืดหยุ่นหรือ Resilience พนักงานแต่ละคนนั้นมีหน้าที่หลักอยู่แล้ว แต่บางทีพวกเขานั้นสามารถที่จะถอดหมวกของตัวเองและมาทำอีกโปรเจ็คหนึ่งที่เป็น Project-based ได้ บางคนสามารถที่จะกลายมาเป็น Leader ได้และบางคนสามารถที่จะเป็น Member พนักงานสามารถที่จะสลับปรับเปลี่ยนบทบาทได้ตามโจทย์ขององค์กรที่ปรับเปลี่ยนไป
สามารถรับฟังเนื้อหาฉบับเต็มได้ทาง Video ที่แนบมาด้านบนนี้
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด