ภูฏานประกาศเริ่มแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยการ ขุด Bitcoin ตามความต้องการพัฒนาเศรษฐกิจภูฏานในศตวรรษที่ 21 แม้จะมีอุปสรรคเกี่ยวกับข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ และปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ
ในความต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยการขุด Bitcoin ประเทศภูฏานมีการดึง Bitdeer Technologies Group ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq และมีฐานอยู่ในสิงคโปร์
ทั้งนี้ก็เพื่อพัฒนาฟาร์มขุด Bitcoin ขนาด 600 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 ของโลก
Bitdeer มีกำหนดจะจัดตั้งกองทุนเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม โดยมีเป้าหมายเพื่อระดมทุนมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนต่างชาติสำหรับโครงการนี้
แหล่งข่าวระดับสูงที่ใกล้ชิดกับโครงการยืนยันว่าการขับเคลื่อนการระดมทุนเกิดขึ้นจริงตามที่วางแผนไว้แต่ปัญหาที่สำคัญก็คือ ข้อจำกัดด้านภูมิศาสตร์ของประเทศ
ในขณะที่ภูฏานเผชิญกับข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์และความท้าทายในการเชื่อมต่อโลกภายนอก ไม่ว่าจะการไม่มีทางออกสู่ทะเลและอยู่ท่ามกลางภูเขา
แต่พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและค่อนข้างถูกทำให้โอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อสร้างเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกันมากขึ้นและยั่งยืน
Ujjwal Deep Dahal CEO ของ Druk Holding and Investments (DHI) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้าน การลงทุนของรัฐบาลภูฏานและยังเป็นพันธมิตรกับ Bitdeer กล่าว
ซึ่งสำหรับนักขุดคริปโตและ Bitcoin การจะใช้พลังงานสะอาดของประเทศนั้น ส่วนใหญ่มาจากไฟฟ้าพลังน้ำ ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ
แม้ว่ารัฐบาลภูฏานมีความพยายามต้องการที่จะนำประเทศเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลด้วย การขุดคริปโตรวมถึง Bitcoin
แต่ในด้านเศรษฐกิจภูฏานยังคงเจอกับปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นผลกระทบมาจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจของภูฏานหดตัวลงถึง 10% ในปี 2020 ทำให้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศลดลง สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในภาคการผลิตและการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และการว่างงานของเยาวชนสูงถึง 29%
การเติบโตทางเศรษฐกิจคาดการณ์ว่าจะเป็น 4.6% ในปีนี้ แต่ส่วนการท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งรายได้หลัก ของประเทศ คาดว่าจะไม่กลับสู่ระดับก่อนการระบาดของโรค COVID-19 จนถึงปี 2025 เนื่องจากมี กฎระเบียบใหม่และการฟื้นตัวของการเดินทางระดับโลกที่ช้าลง
รัฐบาลภูฏานหวังว่าจะสามารถสร้างความหลากหลายในทางเศรษฐกิจเพื่อสร้างเศรษฐกิจที่มีรายได้สูง ในอีก 10 ปีข้างหน้า
รัฐบาลกำลังมองหาโอกาสอื่นๆที่ไม่ใช่แค่ในสกุลเงินที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเท่านั้น แต่ยังมองหาโอกาส เช่น ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีชีวภาพ
อีกทั้งระบบการศึกษาก็กำลังถูกปฏิรูปเพื่อเน้นให้เนื้อหาการเรียนรู้เน้นความคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ และการรู้ทางดิจิทัล โดยมีการสอนรหัสสำหรับนักเรียนอายุ 8 ปีขึ้นไป
สำหรับการดำเนินการขุดสำหรับ 100 เมกะวัตต์แรกคาดว่าจะเริ่มในเดือนกันยายนนี้ ก่อนที่จะถึง 600 เมกะวัตต์ ในอีกสามปีข้างหน้า จะขายไฟฟ้าให้กับผู้ประกอบการในอัตราที่ตกลงกันไว้
โดย 100 เมกะวัตต์ โครงการเหมืองคริปโตจะเป็นผู้ใช้พลังงานที่มากที่สุดในประเทศ ในขณะที่ 600 เมกะวัตต์ โครงการจะใช้พลังงานมากกว่าที่ประเทศภูฏานใช้รวมกัน
ดัชนีพลังงานสูงสุดในประเทศภูฏานในเดือนธันวาคม 2021 ตามบันทึกของ บริษัทพลังงานภูฏาน บริษัทกำลังไฟฟ้าภูฏาน บันทึกไว้ที่ประมาณ 488 มีกิโลวัตต์
หากมองถึงกำลังการผลิตพลังงานของประเทศ ภูฏานมีกำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 2,400 เมกะวัตต์ และขายการผลิตพลังงานน้ำในแม่น้ำส่วนใหญ่ให้กับอินเดียในช่วงฤดูร้อน
แต่ในฤดูหนาวจะนำเข้าไฟฟ้าเมื่อการผลิตลดลงเหลือประมาณ 414 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตาม การการจัดหาพลังงานไฟฟ้าที่มีความเสถียรจะเพิ่มขึ้นเมื่อโรงไฟฟ้าใหม่ขนาด 118 เมกะวัตต์ เปิดดำเนินการในปลายปีนี้ และโรงงานขนาด 1,020 เมกะวัตต์จะเปิดในเดือนตุลาคม 2024
ถึงแม้ว่าสัดส่วนของทุนของภูฏานในโครงการนี้จะเล็กน้อย แต่ข้อตกลงดังกล่าวสัญญา ว่าจะสร้างแหล่งเงินดอลลาร์จากการขายไฟฟ้า ภาษี รวมถึงกำไรมหาศาล และจะใช้เงินทุนเพื่อ เสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงข่ายไฟฟ้าและเครือข่ายโทรคมนาคม
โครงการนี้รัฐบาลภูฏานคาดหวังว่าจะสร้างงานให้กับประชาชนในประเทศ 300 ถึง 400 อัตราและสร้างแนวทางการศึกษาและเทคโนโลยี Blockchain
แต่ความเสี่ยงในตลาด Cryptocurrency และเทคโนโลยี Blockchain ยังคงมีมากท่ามกลางความผันผวนและข้อถกเถียงมากมายถึงมูลค่าที่แท้จริงของมัน
ที่มา : Nikkei
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด