BigPay เลือก Thredd ใช้ FinTech ขับเคลื่อนขีดความสามารถในการชำระเงิน

BigPay บริษัทฟินเทคซึ่งเป็นผู้พัฒนาแอปบริการทางการเงินชั้นนำจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เลือกแพลตฟอร์มผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ยุคใหม่ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว Thredd เพื่อขับเคลื่อนขีดความสามารถในการชำระเงิน โดยมีแผนขยายธุรกิจของ BigPay ในประเทศไทยและขยายสู่อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ในต้นปี 2024

ปัจจุบัน BigPay เป็นผู้ให้บริการด้านฟินเทคแบบครบวงจรทั้งในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ และมีผู้ใช้งานบัตรมากกว่า 1.4 ล้านคน ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ อาทิ การชำระเงิน การโอนเงินระหว่างประเทศ การประกันภัยรายย่อย สินเชื่อส่วนบุคคล การวิเคราะห์การใช้จ่าย โดยมีเป้าหมายยกระดับบริการด้านการเงินแก่ผู้ใช้งานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านทุกๆการทำธุรกรรม BigPay ยังมีคุณสมบัติ "Stashes and Round-ups" ที่สนับสนุนพฤติกรรมการออมผ่านการตั้งเป้าหมายการออมเงิน และช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับบริการด้านการเงินได้ดียิ่งขึ้นผ่านการช่วยเก็บเงินโดยการปัดเศษเงินทอนของการทำธุรกรรมในแต่ละรายการ

นอกเหนือจากแผนการขยายธุรกิจในระดับภูมิภาคแล้ว  BigPay ยังได้ประกาศความร่วมมือกับ airasia superapp เพื่อเพิ่มฟีเจอร์การชำระเงินสำหรับการจองการเดินทางบนแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดาย ผลิตภัณฑ์ของ BigPay จะได้รับการปรับแต่ง ติดตั้ง และพร้อมใช้งานอย่างสมบูรณ์ผ่านแอปพลิเคชั่น airasia superapp เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินผ่าน BigPay เพื่อจองเที่ยวบิน โรงแรม และอื่นๆ ได้อย่างสะดวกหลังจากเชื่อมโยงบัญชีแล้ว

“เนื่องจากเรามีแผนเตรียมนำ BigPay เข้าสู่ตลาดใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราจึงต้องการพันธมิตรทางเทคโนโลยีการชำระเงินที่เข้าใจดีเกี่ยวกับธุรกรรมการเงินดิจิทัลและความซับซ้อนของภูมิภาคนี้” มิเทอพอล สินหนุ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ BigPay กล่าวว่า “เทคโนโลยีการชำระเงินออนไลน์ของ Thredd มีชื่อเสียงในด้านความน่าเชื่อถือและความยืดหยุ่น รวมทั้งมีการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆอยู่เสมอ เช่น   generative AI  จึงนับเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง พวกเขาเป็นที่รู้จักในภูมิภาคเอเชียในฐานะผู้เชี่ยวชาญการขับเคลื่อนบริการทางการเงินแบบบูรณาการ  หรือ 'Embedded finance' ภายใต้ระบบนิเวศทางการเงินแบบใหม่ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วอย่าง BigPay”

"การผนึกกำลังทางการเงินครั้งนี้คาดว่าจะปลดล็อกรายได้เป็นมูลค่าถึง 242 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025 ในธุรกิจขนาดเล็ก (SMBs) และกลุ่มตลาดผู้บริโภครายบุคคล (consumer segments)" แดเมียน กอฟ ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก Thredd กล่าวว่า "โซลูชัน อย่าง BigPay เป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลนี้ ในการนำนวัตกรรมใหม่เข้าสู่ระบบบริการทางการเงินที่เชื่อมโยงและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทุกคน เราตั้งตารอที่จะบูรณาการเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของ Thredd เข้ากับแพลตฟอร์มที่เป็นนวัตกรรมแห่งอนาคตอย่าง BigPay เพื่อผนึกกำลังกันพร้อมรับการขยายตัวทั่วทั้งภูมิภาค"

Thredd เติบโตเป็นประวัติการณ์ทั่วเอเชียแปซิฟิกตลอดปี 2023 จนถึงปัจจุบัน มีการดำเนินธุรกิจจนประสบความสำเร็จทั้งในออสเตรเลีย ฮ่องกง นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยการขับเคลื่อนผ่านโปรแกรมและบริการบัตรที่ให้บริการลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาค Thredd ครอบคลุมบริการในด้านการเงินที่สำคัญ การจัดการค่าใช้จ่ายขององค์กร และการให้บริการบนมาร์เก็ตเพลสต่างๆ ผ่านการให้บริการลูกค้าในเอเชียแปซิฟิกจากสำนักงานในสิงคโปร์และออสเตรเลีย


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะดีล Netflix เข้าซื้อ Warner Bros ทำไมถึงยอมจ่ายมากถึง 8.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำไมหลายคนไม่เห็นด้วย

นับเป็นข่าวใหญ่ที่สะเทือนวงการบันเทิงหนัง Netflix เจ้าตลาดสตรีมมิ่งประกาศเข้าซื้อกิจการ Warner Bros. ซึ่งนับรวมถึงสตูดิโอสร้างภาพยนตร์-โทรทัศน์ และธุรกิจสตรีมมิ่ง HBO Max และ HBO ด...

Responsive image

ซีอีโอ AWS ชี้ AI Agents จะเปลี่ยนโลกยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ต เราอาจได้เห็น AI Agent พันล้านตัวรันองค์กร

AWS ซีอีโอประกาศชัด AI Agents จะสร้างผลกระทบต่อโลกธุรกิจยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ตและ Cloud พร้อมเปิดยุคที่ ‘AI Agent พันล้านตัว’ ทำงานอัตโนมัติอยู่หลังองค์กรทั่วโลก เร่งผลตอบแทนทางธุรกิ...

Responsive image

วิกฤตสมองไหลใน Apple ไม่จบ ! ล่าสุด Meta ดึงตัว Alan Dye หัวหน้าทีมดีไซน์ Apple ผู้คุมออกแบบ Liquid Glass ใน iOS26

เจาะลึกสมองไหลใน Apple ปี 2025 เมื่อผู้เชี่ยวชาญ AI หลายคนย้ายไป Meta, OpenAI และ Cohere ส่งผลต่ออนาคต Apple Intelligence...