ธปท. ร่วมกับ แบงก์ชาติอินโด เปิดตัวบริการชำระเงินระหว่างประเทศผ่าน QR Code คาดใช้งานเต็มรูปแบบได้ต้นปีหน้า | Techsauce

ธปท. ร่วมกับ แบงก์ชาติอินโด เปิดตัวบริการชำระเงินระหว่างประเทศผ่าน QR Code คาดใช้งานเต็มรูปแบบได้ต้นปีหน้า

รายงานข่าวจาก Fintechnews ประเทศสิงคโปร์ ระบุว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) ร่วมกับธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) เปิดตัวบริการชำระเงินระหว่างประเทศผ่าน QR Payment เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ผ่านมา ภายใต้บริการดังกล่าวจะทำให้ผู้บริโภคและผู้ขายทั้งสองประเทศสามารถรับการชำระเงินสินค้าและบริการผ่าน QR Code  ได้ทันที ความพยายามที่เกิดขึ้นนับว่าเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับการเชื่อมโยงการชำระเงินในอาเซียน (ASEAN Payment Connectivity) ที่ส่งเสริมการรวมกลุ่มของภาคการเงินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

QR Code

บริการชำระเงินระหว่างประเทศผ่าน QR Code ของไทยกับอินโดนีเซียจะดำเนินการคล้ายคลึงกับกรณีของสิงคโปร์และไทย กับ มาเลเซียและไทย ที่ก่อนหน้านี้ก็ได้ประกาศเปิดการใช้งานชำระเงินข้ามพรมแดนด้วย QR Code ด้วยเช่นกัน 

ทั้งนี้ การเปิดตัวบริการชำระเงินผ่าน QR Code  ยังคงอยู่ระหว่างขั้นตอนนำร่องของโครงการ เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการจากร้านค้าอินโดนีเซียรวมไปถึงธุรกรรมจากแพลตฟอร์ม E-Commerce ระหว่างประเทศซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบการเชื่อมต่อของบริการ QR Code จะดำเนินการได้อย่างราบรื่น โดยในขั้นตอนนำร่องดังกล่าว ผู้ใช้บริการจากอินโดนีเซียจะสามารถใช้แอปพลิเคชันการชำระเงินจากโทรศัพท์มือถือตนและสแกน รหัส QR ของไทยในการชำระเงินกับร้านค้าทั่วประเทศไทยได้เลย ขณะเดียวกัน ผู้ใช้งานจากประเทศไทยเองก็สามารถสแกน QRIS (รหัส QR ตามมาตรฐานของประเทศอินโดนีเซีย) สำหรับร้านค้าของอินโดนีเซีย และแพลตฟอร์ม E-Commerce ได้

Sugeng ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซียได้ย้ำถึงโครงการนี้ว่า “การริเริ่มครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญของกรอบการดำเนินงานชำระเงินของอินโดนีเซียภายในปี 2025 โดยเฉพาะระบบการชำระเงินของผู้ให้บริการรายย่อย บริการนี้จะช่วยเชื่อมโยงการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่านรหัส QR ของทั้งสองประเทศ สิ่งที่น่าสนใจของโครงการนี้ก็คือ การใช้อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่อ้างอิงจากกลไกลการใช้ชำระเงินสกุลท้องถิ่น (Local Currency Settlement Framework) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกรรมการเงิน และส่งผลให้ค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมธุรกรรมต่ำลงด้วย ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้ไม่เพียงแต่อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมการเงินในภาคการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังช่วยธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในพื้นที่ท่องเที่ยวอีกด้วย นอกจากนี้ โครงการนี้ยังเป็นการผนวกระหว่างภาคการเงิน เศรษฐกิจดิจิทัล ธุรกิจ E-Commerce เรียกได้ว่า เป็น “แซนด์บ็อกซ์ของอุตสาหกรรม” (Industrial Sandbox) ที่อยู่ระหว่างทางการขยายการชำระเงินข้ามพรมแดนภายในภูมิภาคอาเซียนต่อไป”

ในฝั่งของคุณรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้กล่าวเสริมว่า “ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินระหว่างประเทศมาโดยตลอด ซึ่งจะเห็นได้จากการดำเนินโครงการที่ใกล้เคียงกันในภูมิภาคมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการการเชื่อมโยงการชำระเงินในอาเซียน (ASEAN Payment Connectivity) เราเชื่อว่าการชำระเงินผ่าน QR Code จะช่วยเพิ่มทางเลือกการทำธุรกรรมการเงินที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ากว่าสำหรับการชำระเงินของประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ บริการดังกล่าวจะช่วยเหลือบรรดาธุรกิจ E-Commerce ในช่วงเวลาท้าทายเช่นนี้ และเป็นตัววางรากฐานสำหรับการฟื้นธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้น การเชื่อมต่อระบบการชำระเงินระหว่างประเทศไทยและประเทศที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนก็จะเร่งให้พลเมืองภูมิภาคเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการชำระเงินระหว่างประเทศ ซึ่งจะเอื้อต่อความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจในรูปแบบดิจิทัลได้รวดเร็วขึ้น” 

คาดการณ์ว่าบริการดังกล่าวจะใช้ในเชิงพาณิชย์ได้เต็มรูปแบบในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 และจะสามารถขยายการให้บริการชำระเงินรูปแบบ QR Code ให้รับรองทั้งนอกเหนือจากสถาบันการเงิน และอาจใช้งานได้ผ่านเบอร์โทรศัพท์ได้ 


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Burnout ใครว่าเรื่องเล็ก พนักงานหมดไฟ 1 คน บริษัทจะเสียเงินเท่าไหร่?

ภาวะหมดไฟ หรือ Burnout Syndrome ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่คอยกัดกินสุขภาพกายและใจของเรา แต่มันคือ 'ระเบิดเวลา' ที่ถูกมองความและสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับหลายองค์กรทั...

Responsive image

Techsauce - สภาหอการค้าไทย - มหาวิทยาลัยหอการค้า จับมือเตรียมยกระดับภาคการศึกษาและธุรกิจไทย

Techsauce สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (Harbour.Space@UTCC) ลงนาม MOU ส่งเสริมองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพของเยาวชนและผู้ประกอบการไทย...

Responsive image

OpenAI เปิดตัว Responses API เร่งพัฒนา AI Agents ใช้จริงในโลกธุรกิจ

OpenAI ได้ประกาศเปิดตัวเครื่องมือใหม่ล่าสุดในชื่อ Responses API ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันการพัฒนา AI Agents หรือระบบอัตโนมัติที่สามารถปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง โดย...