BTC ร่วงแรงต่อเนื่อง ต่ำกว่า 22,000 ดอลลาร์ ทำจุดต่ำสุดนับ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 | Techsauce

BTC ร่วงแรงต่อเนื่อง ต่ำกว่า 22,000 ดอลลาร์ ทำจุดต่ำสุดนับ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020

BTC ร่วงต่ำกว่า 22,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทำจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 โดยเริ่มปรับตัวจาก 23,000 ในวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ CoinDesk ระบุการตกลงประมาณ 17% ที่ราคาซื้อขายที่ 22,764 ดอลลาร์ และวอลล์สตรีทอยู่ที่ 23,351 ดอลลาร์หรือประมาณ 5% ก่อนแสดงอัตราการปรับตัวขึ้นในช่วงเย็นก่อนตกลงมาอีกครั้ง ทำให้ตลาดสูญเสียเงินไปกว่า 2 แสนล้านเหรียญ มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลลดลงต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap โดยเช้าวันอังคารที่ 14 BTC มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง โดยร่วงแตะ 20,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 700,00 บาท ในช่วงเช้าวันอังคารก่อนปรับขึ้น 

BTC ร่วงแรงต่อเนื่อง ต่ำกว่า 22,000 ดอลลาร์  ทำจุดต่ำสุดนับ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020

ปัจจัยใหญ่อย่างมาตรการรัดกุมทางเศรษฐกิจของ FED มีการระบุถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้เพื่อควบคุมราคาที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อข้อกังวลในตลาดคริปโตและตลาดหุ้นเนื่องจากนักลงทุนต่างทะยอยถอนตัวจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง และมีส่วนทำให้เกิดภาวะตลาดหมีในตลาดคริปโตตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022  อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งถือเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1982 หรือสูงสุดในรอบ 41 ปี ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ได้ผลักดันให้นักลงทุนเกรงว่ามาตรการที่รุนแรงในการควบคุมอัตราเงินเฟ้ออาจก่อให้เกิดภาวะถดถอยตามมา ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นและคริปโตลดลงไปอีก

อย่างไรก็ตาม สภาพตลาดที่กำลังอยู่ในจุดวิกฤต สร้างความหวาดกลัวที่ทำให้เกิดการเทขายของนักลงทุนในวงกว้างทั่วโลก และปฏิเสธไม่ได้ว่าผลกระทบจากวิกฤต Terra ยังส่งสร้างความหวาดระแวงให้กับนักลงทุน การล่มสลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งคริปโตที่มี Volume สูงอันดับในอันดับสองในตลาด Stablecoin ได้ทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างรุนแรง ทำให้เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับความเสถียรของเหรียญและระบบ Algorithmic Stablecoins เกิดคำถามต่อกลไก และมูลค่าของเหรียญ Stablecoin ประเภทอื่น ๆ ทำให้ Altcoins สูญเสียมูลค่า ราคาตกทั้งกระดานมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสัปดาห์นี้ที่เกิดเหตุการณ์ Lido Staked Ethereum (stETH) หลุดการตรึงมูลค่าตามด้วยการเทขาย Ethereum ด้วยเช่นกัน

และในขณะเดียวกันที่ Celsius หนึ่งในแพลตฟอร์มสำหรับฝากเงินและการให้กู้ยืมเงินคริปโตที่ได้รับความนิยม สร้างความตกใจให้กับตลาดโดยประกาศหยุดการถอนเงินและการโอนระหว่างบัญชีทั้งหมดถูกระงับชั่วคราวเนื่องจาก “สภาวะตลาดที่รุนแรง” โดยระบุว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเพื่อ "รักษาสภาพคล่องและการดำเนินงาน" เช่นเดียวกับ Binance แพลตฟอร์มซื้อขายที่ใหญ่ที่สุดก็ประกาศหยุดการใช้งานชั่วคราวนานกว่าสามชั่วโมง เนื่องจากธุรกรรมที่หนาแน่นหลังจากนักลงทุนแห่เทขายทำให้การธุรกรรมในแพลตฟอร์มติดขัด ในขณะที่ หุ้นของแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่นิยมที่สุดในสหรัฐ อย่าง Coinbase ลดลงถึง 11% ในวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายนสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่บริษัทเปิดตัวสู่สาธารณะในเดือนเมษายน 2564 ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องเผชิญกับการสูญเสียลูกค้าเกือบล้านราย

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงสภาวะตลาดที่มีความไม่แน่นอนสูง การประกาศนโยบายระดับมหภาคอาจสร้างผลกระทบต่อจากนี้อีกเรื่อย ๆ ในปีนี้ นอกจากนี้ความไม่ไว้วางใจในพื้นฐานของสกุลเงินดิจิทัลและแพลตฟอร์มที่สนับสนุนการซื้อขายที่สูงขึ้น อาจทำให้การซื้อขายชะลอตัวในระยะยาว ชี้ให้เห็นถึงสภาพการณ์ของตลาดที่อาจกำลังเข้าสู่จุดต่ำสุดอย่างสมบูรณ์ ในระยะสั้นนักลงทุนต้องเตรียมพร้อมสำหรับการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นต่อไป อย่างไรก็ตามนักลงทุนบางส่วนมองว่าการลดลงเหล่านี้เป็นโอกาสในการเข้าซื้อเหรียญเพิ่ม ท้ายที่สุดด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงสุดในรอบ 4 ทศวรรษ Bitcoin (BTC) จะสามารถพิสูจน์ตัวเองว่าสามารถป้องกันความเสี่ยงได้และผ่านพ้นวิกฤตเหมือนเช่นในอดีตหรือไม่อาจต้องติดตามกันต่อไป


ที่มา

The crypto industry just had one of its worst days ever — Here’s what happened

Bitcoin drops as much as 17%, falling below $23,000 as $200 billion wiped off crypto market over the weekend

Coinbase slips more than 11% as bitcoin dives

Crypto lender Celsius pauses withdrawals due to ‘extreme market conditions’




ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

American Airlines เปิดตัวระบบจัดการคิวอัจฉริยะ เทคโนโลยีเสียงเตือนสองระดับ ปิดเกมสายแซงคิวขึ้นเครื่อง

เคยเจอไหม? คนแซงคิวขึ้นเครื่องจนวุ่นวายที่ประตูทางขึ้น หลังจากนี้จะไม่มีอีกต่อไป เมื่อ American Airlines แก้ปัญหานี้ด้วยเทคโนโลยีเสียงเตือนอัจฉริยะ ที่จะจับทุกความพยายามแอบขึ้นเครื...

Responsive image

Soft Power และ Technology คือสิ่งที่ประเทศไทยจะเดินต่อไปในอีก 5 ปีข้างหน้า สรุปแนวคิด ทักษิณ ชินวัตร

ดร.ทักษิณ ชินวัตรเผยวิสัยทัศน์ 5 ปีข้างหน้าของประเทศไทยในงาน Forbes Global CEO Conference เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ซอฟต์พาวเวอร์ และการปรับโครงสร้างภาษีเพื่อเสริมสร้างความสามารถ...

Responsive image

เปิดบ้าน WHA สำรวจศักยภาพ นวัตกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ

WHA Open House 2024: Explore – Discover – Shape the Future เป็นการเปิดบ้านครั้งแรกของ WHA เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ WHA Group ในฐานะต้นแบบของธุรกิจที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช...