บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด จับมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จํากัด (มหาชน) หรือ EA ที่ดำเนินการธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังธรรมชาติ ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม เพื่อเดินหน้าโมเดล “BURIRAM GO GREEN & CLEAN” อนุรักษ์โลก และการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ที่ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตั้งคอนเซปต์เอาไว้ช่วงต้นฤดูกาล 2020
การจับมือเป็นพันธมิตรกันของ ปราสาทสายฟ้า กับ EA เป็นการร่วมกันติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ ที่สนามช้างอารีนา, โครงการบุรีรัมย์คาสเซิล และโรงแรมอมารี บุรีรัมย์ เพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ไว้ใช้เองในพื้นที่ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นเวลา 15 ปี โดยทั้ง 3 สถานที่ได้ทำการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ ทั้งหมด 3,032 ตารางเมตร แบ่งเป็น สนามช้างอารีนา 1,080 ตารางเมตร, โครงการบุรีรัมย์คาสเซิล 976 ตารางเมตร และโรงแรมอมารีบุรีรัมย์ 976 ตารางเมตร โดยแผงโซล่าเซลล์ 3,032 ตารางเมตร สามารถผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยได้ 2,475.00 หน่วยต่อวัน หรือ 903,375.00 หน่วยต่อปี
การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จะทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สามารถประหยัดงบประมาณได้มากถึง 25 เปอร์เซ็นต์ จากการเสียค่าใช้จ่ายในการใช้ไฟฟ้าแบบปกติ โดยปีแรกของการติดตั้ง ปราสาทสายฟ้า จะสามารถประหยัดงบประมาณที่จะต้องใช้จ่ายค่าไฟฟ้าถึง 2,529,450 บาท (สนามช้างอารีนา 900,991 บาท, โครงการบุรีรัมย์คาสเซิล 814,229 บาท และโรงแรมอมารีบุรีรัมย์ 814,229 บาท) ทำให้ตลอด 15 ปี ของสัญญา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะประหยัดเงินได้มากถึง 37,941,750 บาท
ทั้งนี้ทำให้ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรฟุตบอลแรกของเมืองไทยที่ใช้พลังงานบริสุทธิ์ จากแสงอาทิตย์แบบเต็มรูปแบบ เพื่อเป็นการช่วยอนุรักษ์โลก และการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
สำหรับ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงดูแลความเป็นอยู่ของชุมชนและสังคม เพื่อแก้ปัญหายากจน และปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนและสังคม ภายใต้แนวนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อ้างอิงข้อมูลจาก BuriramUnited
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด