เซ็นทรัลผนึก JD.com ตั้ง JD CENTRAL (JD.co.th) ชูยุทธศาสตร์ 5 ปีสู่ Tech Company | Techsauce

เซ็นทรัลผนึก JD.com ตั้ง JD CENTRAL (JD.co.th) ชูยุทธศาสตร์ 5 ปีสู่ Tech Company

กลุ่มเซ็นทรัลร่วมทุนกับ JD.com มูลค่า 17,500 ล้านบาท ตั้ง JD CENTRAL ภายใต้ชื่อเว็บไซต์ JD.co.th เปิดให้บริการ พ.ค. นี้ พร้อมประกาศยุทธศาสตร์ "NEW CENTRAL, NEW ECONOMY" มุ่งหน้าสู่การเป็นสุดยอด Tech Company และเป็นผู้นำด้าน Digi-Lifestyle Platform แห่งแรกของประเทศไทย

กลุ่มเซ็นทรัล (CENTRAL Group) ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกไลฟ์สไตล์-บริการ เผยผลงานความสำเร็จตลอด 5 ปี เติบโตแข็งแกร่งทุกทิศทาง ทั้งในไทยและต่างประเทศ พร้อมประกาศแผนธุรกิจอันเฉียบคมในปี 2561 และยุทธศาสตร์ใหม่ที่จะนำพากลุ่มเซ็นทรัลสู่การเป็น NEW CENTRAL, NEW ECONOMY ทั้งในด้านเทคโนโลยี และผู้นำดิจิ-ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม (Market Leader in Digi-Lifestyle Platform) อย่างเต็มรูปแบบแห่งแรกของประเทศไทย ตลอดจนร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำของโลกในการเสริมแกร่งธุรกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาคน และชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับกลุ่มเซ็นทรัล

ญนน์ โภคทรัพย์ President ของกลุ่มเซ็นทรัล ได้ชูยุทธศาสตร์ 5 ปี หรือยุทธศาสตร์ใหม่สำหรับปี 2561-2565 ที่จะนำพากลุ่มเซ็นทรัลสู่การเป็น ‘NEW CENTRAL, NEW E-CONOMY’ ครองตำแหน่งผู้นำด้านดิจิ-ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม (Digi-Lifestyle Platform) แห่งแรกในประเทศไทย เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือกว่า และครองใจลูกค้าตลอดกาล โดยดิจิ-ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มจะถูกพัฒนาในทุกกลุ่มธุรกิจในเครือของกลุ่มเซ็นทรัล รวมถึงต่อยอดไปยังธุรกิจใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ผ่านการขับเคลื่อนใน 3 มิติสำคัญ คือ

  1. ข้อมูล (Data) จัดเก็บข้อมูลทั้งหมด (Data Lake) จากทุกกลุ่มธุรกิจ ไว้บนระบบคลาวด์ เพื่อที่จะสร้างความเข้าใจที่ตรงกันเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้าเชิงลึก (Single view of customer) และสามารถมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าคนพิเศษ
  2. ลอยัลตี้ และการตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล (Loyalty & Personalized experience) ผ่านทางแพลตฟอร์มใหม่ของเดอะวัน (The 1) จะทำให้กลุ่มเซ็นทรัลสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับลูกค้า และตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลได้ดียิ่งขึ้น
  3. ออมนิแชแนล แพลตฟอร์ม (Omnichannel Platform) พัฒนาให้ทุกธุรกิจในเครือของกลุ่มเซ็นทรัลก้าวสู่การเป็นออมนิแชแนล แพลตฟอร์มอย่างแท้จริง สามารถเชื่อมต่อประสบการณ์การช้อปปิ้งระหว่างโลกออฟไลน์ และออนไลน์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ทุกที่ ทุกเวลา

นอกจากนี้กลุ่มเซ็นทรัลยังร่วมทุนกว่า 17,500 ล้านบาท กับ ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากประเทศจีน ในการจัดตั้ง JD CENTRAL (เจดี เซ็นทรัล) สร้างมาร์เก็ตเพลส (Marketplace) แห่งใหม่ในชื่อ JD.co.th เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าของกลุ่มธุรกิจในเครือกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนให้เกิด Digi-Lifestyle Platform อย่างรวดเร็วและครบวงจรยิ่งขึ้น

โดยภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เว็บไซต์ JD.co.th จะพร้อมเปิดให้บริการแก่ลูกค้า รวมถึงเปิดโอกาสให้สินค้าไทย และสินค้า SMEs ได้เผยแพร่สู่ตลาดโลก

ซึ่งการร่วมทุนกับ JD.com ไม่เพียงทำให้เกิด Marketplace แห่งใหม่เท่านั้น แต่ยังสร้างอีก 2 ธุรกิจใหม่ที่เปี่ยมศักยภาพให้กับกลุ่มเซ็นทรัล คือ

  1. E-Logistics กลุ่มเซ็นทรัลจะก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์รายใหญ่ของประเทศไทย พร้อมบริการออนดีมานด์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
  2. E-Finance กลุ่มเซ็นทรัลมุ่งหน้าสู่การเป็นบริษัทฟินเทค (Fintech) เต็มตัว ให้บริการด้านการเงินอย่างครบวงจร (One Stop - integrated financial system) ครอบคลุมทั้งบริการอีเพย์เมนต์ (E-Payment) และอีไฟแนนเชียล (Financial) สำหรับทั้งลูกค้า และซัพพลายเออร์

และเพื่อให้การพัฒนาดิจิ-ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ กลุ่มเซ็นทรัลยังให้ความสำคัญกับ 4 องค์ประกอบหลัก ที่จะสามารถตอบสนองลูกค้าแบบไลฟ์สไตล์ ออนดีมานด์ และบรรลุเป้าหมายการเป็น NEW CENTRAL อย่างแท้จริง ได้แก่

  1. พันธมิตร (Alliance) กลุ่มเซ็นทรัลร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ได้แก่ ดุสิตธานี, JD.com, ฮ่องกงแลนด์, อิเกีย และอีกหลากหลายพันธมิตรชั้นนำในอนาคตอันใกล้
  2. เทคโนโลยี (Technology) กลุ่มเซ็นทรัลพร้อมมุ่งสู่การเป็นสุดยอด Tech Company ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยครบทุกมิติ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชาติในเชิงมหภาค โดยโฟกัสเทคโนโลยีแห่งอนาคตใน 4 ด้าน คือ
    1. สร้างอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดให้กับทุกกลุ่มธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อให้เกิดการซินเนอจี้ระหว่างกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ
    2. สร้างฐานข้อมูลลูกค้าบนคลาวด์ เพื่อรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากทุกกลุ่มธุรกิจในเครือของกลุ่มเซ็นทรัล และแหล่งข้อมูลอันเป็นประโยชน์อื่นๆ นำมาทำการวิเคราะห์ เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมลูกค้าเชิงลึก และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในลักษณะเฉพาะบุคคลได้
    3. สร้างแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์ใหม่ของเดอะวัน เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ (Engagement) กับลูกค้าอย่างเหนียวแน่น และมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า
    4. ลงทุนต่อเนื่องในด้านโลจิสติกส์ และศูนย์กระจายสินค้าที่ทันสมัย เพื่อปรับปรุงการให้บริการลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจยิ่งขึ้น อาทิ การพัฒนาคลังสินค้าระบบออโตเมติกของออฟฟิศเมทที่ใช้เงินลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อสร้างระบบอีโลจิสติกส์ให้สมบูรณ์แบบ
  3. คน (People) กลุ่มเซ็นทรัลถือเป็นผู้สร้างงงานรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ด้วยจำนวนพนักงานมากว่า 220,000 คน และพนักงานผู้พิการอีกมากกว่า 700 คน เรายังคงสรรหา และส่งเสริมพนักงานที่เก่ง ดี และมีความสามารถในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านดิจิตอล พร้อมมุ่งมั่นสร้างวัฒนธรรมการทำงานรูปแบบใหม่ อาทิ การให้โอกาสพนักงานได้ร่วมงานกับผู้บริหารระดับสูงอย่างใกล้ชิด, การจัดกิจกรรมเวิร์คชอปและโค้ชชิ่งที่หลากหลาย, การสร้างแรงบันดาลใจ และประสบการณ์ดีๆ ในที่ทำงาน ทั้งการปรับปรุงพื้นที่ทำงานให้น่าอยู่ และสนับสนุนให้พนักงานได้พัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ CG Challenge โครงการที่ให้พนักงานรุ่นใหม่ได้แสดงฝีมือ และความคิดสร้างสรรค์ในการครีเอตโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่จะตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี
  4. ชุมชน (Community) กลุ่มเซ็นทรัลให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคม ภายใต้โครงการ “เซ็นทรัลทำ” ที่มีภารกิจหลักในการพัฒนา 4 เสา คือ คน, ชุมชน, สิ่งแวดล้อม, สันติภาพและวัฒนธรรม โดยมีจุดประสงค์ ดังนี้
    1. สร้างงาน สร้างอาชีพ กลุ่มเซ็นทรัลช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน โดยเริ่มต้นจากการปลูกฝังให้นักเรียนได้ทดลองทำงานจริง เช่น งานเกษตรกรรม, งานฝีมือ รวมไปถึงจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เพื่อผู้พิการ ในการนำความรู้ไปประกอบอาชีพ เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว นอกจากนี้ยังส่งเสริมเกษตรกรในการเพาะปลูก ช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้า และสนับสนุนช่องทางการจัดจำหน่ายภายในเครือกลุ่มเซ็นทรัลให้กับสินค้าจากชุมชนต่างๆ อาทิ ผักจากชุมชนบ้านน้ำดุกใต้ โดยปัจจุบันกลุ่มเซ็นทรัลได้ช่วยเหลือชุมชนไปแล้ว 481 ชุมชน พัฒนาสินค้าชุมชนกว่า 4,500 รายการ สร้างรายได้กว่า 967 ล้านบาท กลับคืนสู่ชาวบ้านไม่ต่ำกว่า 10,000 ครัวเรือน
    2. สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน อาทิ สนับสนุนเครื่องกรองน้ำให้เด็กนักเรียน และครู ได้บริโภคน้ำสะอาด รวมถึงดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดในหลากหลายมิติ เช่น การจัดทำหลังคาโซล่าร์ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เพื่อลดการใช้ไฟฟ้า, ติดตั้งเครื่องรีไซเคิลขยะขวดพลาสติก ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ติดตั้งเครื่องชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า บริเวณลานจอดรถ และโครงการเพื่อสังคมอีกมากมาย เช่น การสมทบทุนสร้างบ้านพิงพัก เพื่อผู้ป่วยมะเร็งสตรีที่ยากไร้ และการปรับปรุงห้องน้ำต้นแบบสวนลุมพินี เป็นต้น

ส่วน ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวสรุปแผนงานในปี 2561 ว่า กลุ่มเซ็นทรัลมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ "NEW CENTRAL, NEW ECONOMY" อย่างเต็มกำลัง เพื่อก้าวสู่การเป็นสุดยอด Tech Company และผู้นำด้าน Digi-Lifestyle Platform ที่สมบูรณ์แบบที่สุด พร้อมขยายการลงทุนต่อเนื่องทั้งในและนอกประเทศ พร้อมพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

จับตา 18 อุตสาหกรรม พลิกโฉมเศรษฐกิจโลก สร้างรายได้กว่า 48 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2040

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจดุเดือดกว่าเดิม มีอุตสาหกรรมบางกลุ่มที่กำลังมาแรง และเติบโตแบบก้าวกระโดด เราเรียกอุตสาหกรรมเหล่านี้ว่า 'Arenas' ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยโอกาส แต่ก็ต้...

Responsive image

Gemini 2.0 คืออะไร ใช้ทำอะไรบ้าง ? สรุปของใหม่กับ AI ที่เก่งที่สุดของ Google

หลังจาก Google เปิดตัว Gemini 1.0 ซึ่งเป็น AI แบบ Multimodal และพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนมีผู้ใช้มากถึง 2 พันล้านคนทั่วโลก ล่าสุดได้มีการอัปเกรดเวอร์ชันใหม่ในชื่อ Gemini 2.0 ซึ่งเป็น...

Responsive image

พลังงานจากหลุมดำ พุ่งชนวัตถุลึกลับในกาแล็กซี เกิดรอยปริศนารูปตัว V

NASA พบร่องรอยแปลกประหลาดจากการพุ่งชนของลำแสงพลังงานสูงที่มาจากหลุมดำขนาดมหึมาในกาแล็กซี Centaurus A (Cen A) ซึ่งอยู่ห่างจากโลก 12 ล้านปีแสง การค้นพบนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการ...