รัฐบาลจีนกำลังจะยึด Big Data จากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ Tencent, Alibaba, ByteDance โดนหมด | Techsauce

รัฐบาลจีนกำลังจะยึด Big Data จากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ Tencent, Alibaba, ByteDance โดนหมด

ล่าสุด รัฐบาลจีนได้เรียกร้องให้บรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่แชร์ข้อมูลของบริษัท และยืนยันว่าทางรัฐบาลจีนมีอำนาจในข้อมูลมากกว่าบริษัทสหรัฐในจีน

China

หลังจากการเสนอให้บริษัทเทคโนโลยีให้ข้อมูลกับรัฐเพื่อเป็นประโยชน์กับประเทศ ปัจจุบัน ข้อเสนอเหล่านั้นได้กลายมาเป็นการเรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Tencent, Alibaba และ TikTok ByteDance มีการเปิดเผยข้อมูลที่รวบรวมจากทั้งโซเชียลมีเดีย อีคอมเมิร์ซ และธุรกิจอื่นๆ

นอกจากนั้น จีนยังกดดันให้บริษัทต่างชาติว่าเป็นการดำเนินงานในประเทศจีนและมีการเก็บบันทึกข้อมูลจากลูกค้าในประเทศ ดังนั้นรัฐบาลจึงมีอำนาจในข้อมูลทั้งหมด ซึ่งบริษัทเหล่านี้เคยมีการร้องเรียนถึงข้อกำหนด "การแปลข้อมูลให้เข้ากับท้องถิ่น" ว่าอาจเป็นการยับยั้งการดำเนินการในด้านนวัตกรรมกับทั่วโลก หรืออาจทำให้ทางการจีนสามารถขโมยข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนได้

เมื่อปี 2555 ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีนได้เข้าเยี่ยมบริษัทเทคยักษ์ Tencent Holdings Ltd. และหยิบยกข้อเสนอที่จะเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายให้กับการปกครองประเทศจีนของเขา ซึ่งก็คือการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมหาศาลให้ ซึ่งปธน.สีจิ้นผิงได้กล่าวชม Pony Ma ผู้ก่อตั้งของ Tencent ในว่ามีการเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ทั้งยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างแม่นยำ พร้อมให้คำแนะนำว่าการให้ข้อมูลดังกล่าวกับทางรัฐ จะสร้างประโยชน์ต่อการบริหารจัดการเป็นอย่างมาก

ในส่วนของกฎหมายและข้อบังคับต่างๆของการแชร์ข้อมูลดิจิทัลในประเทศ จะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปตามการเติบโตของบริษัทเทคโนโลยี ในขณะเดียวกันก็เป็นการผลักดันความเชื่อในการเข้าถึงข้อมูลของรัฐ ซึ่งปธน.สีจิ้นผิงก็มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และล่าสุดยังผลักดันจนเกิดข้อกฎหมายใหม่ที่จะทำให้บริษัทต่างๆ ต่อต้านคำขอดังกล่าวได้ยากขึ้น ซึ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว ปธน.สีจิ้นผิงก็ได้ตัดสินใจหยุดการเสนอขายหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ให้กับประชาชน ด้วยความกังวลว่าบริษัทเหล่านี้อาจใช้ข้อมูลดิจิทัลส่วนบุคคลในการสร้างศูนย์พลังงานทางเลือกให้กับประชาชนในรัฐที่มีพรรคปกครองเพียงพรรคเดียว 

เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของจีนในครั้งนี้ คือความความคิดเห็นของเหล่าผู้นำว่าข้อมูลที่ถูกรวบรวมโดยภาคเอกชนถือเป็นทรัพย์สินของชาติที่รัฐสามารถนำมาใช้ได้ตามความต้องการ และยังกังวลว่าการแบ่งปันข้อมูลกับหุ้นส่วนทางธุรกิจในต่างประเทศจะเป็นการทำลายความมั่นคงของชาติ

อ้างอิง : WSJ

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

แกร็บ (Grab) ประเทศไทย ประกาศแต่งตั้ง จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ขึ้นแท่นกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่

แกร็บ (Grab) ผู้นำซูเปอร์แอปแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศแต่งตั้ง นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ขึ้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 เ...

Responsive image

SIAM AI เผยโฉม GB200 NVL72 ครั้งแรกในเอเชีย รองรับการประมวลผลขั้นสูงของ AI

SIAM AI บริษัท สยาม เอไอ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ให้บริการ SIAM AI Cloud เปิดตัว NVIDIA GB200 NVL72 ที่แรกในเอเชีย เพื่อรองรับการประมวลผลขั้นสูงของระบบปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงรองรับการข...

Responsive image

Meta เปิดตัวโครงการ PARTNR วิจัยการทำงานร่วมกันระหว่างหุ่นยนต์และมนุษย์ในบ้าน

Meta เปิดตัวโครงการ PARTNR วิจัยการทำงานร่วมกันระหว่างหุ่นยนต์และมนุษย์ในบ้าน ศึกษางานบ้าน 100,000 รายการ พร้อมใช้ AI และ Mixed Reality เพื่อพัฒนาหุ่นยนต์ให้เข้าใจมนุษย์มากขึ้น...