คุณปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้ง Satang ผู้นำธุรกิจำด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชน กล่าวว่า “ถ้าจะดูทิศทางของตลาดว่าขึ้นหรือลงนั้นให้ดูที่ 3 ปัจจัยหลักคือ ดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และ ตัวเลขการจ้างงาน ซึ่งตอนนี้พูดได้เลยว่าครบทุกองค์ประกอบของตลาดขาลง นั้นคือ FED จะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% อีกอย่างน้อย 2ครั้ง (มิถุนายน, กรกฏาคม )ในปีนี้ ลดปริมาณการซื้อสินทรัพย์ ต่อเดือนของ FED ที่จะเริ่มในเดือนมิถุนายน โดยมีแนวโน้มไปจนถึงช่วง 3-4 เดือนข้างหน้านี้ ให้ดอกเบี้ยไปสู่ระดับ 2.5-3.0% ในปีนี้ เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ
เพราะอัตราเงินเฟ้อที่คำนวณจากดัชนีราคาผู้บริโภคหรือ consumer price index ยังอยู่ที่ 8.3% ซึ่งนับว่าสูงมาก ส่วนตัวเลขการจ้างงานที่ไม่รวมภาคเกษตร (Non-Farm payroll) ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี คือถ้ามากกว่า 200,000 คน ต่อเดือนอยู่เสมอในปีนี้ จะทำให้FED กล้าขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างไร้กังวล เพราะมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังมีความแข็งแกร่งมากพอ และยอมให้ตลาดสินทรัพย์ต่าง ๆ อยู่ในขาลง”
จากสภาพตลาดขณะนี้รวมไปถึงความเชื่อมั่นทางจิตวิทยาที่ลดลงอันเกิดจากการล่มสลายของ LUNA-UST ส่งผลให้มูลค่าตลาดคริปโทฯ ลดลงเหลือ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ จากที่เคยอยู่จุดสูงสุด 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขาย Stablecoin ทั้งหมดในตอนนี้คือ 69.26 พันล้านดอลลาร์ซึ่งเท่ากับ 87.36% ของปริมาณการซื้อขายรวมในตลาดคริปโทฯใน 24 ชั่วโมง (26 พ.ค 65) [อ้างอิง: coinmarketcap] ซึ่งอาจมองได้ว่านักลงทุนกำลังใช้ Stablecoin กลุ่มที่มีสินทรัพย์หนุนหลังเป็นที่พักเงิน
ถ้าจะมองหา Safe-Haven ของการลงทุนขณะนี้ ก็อาจเป็นกลุ่ม Stablecoin อย่าง USDC USDT BUSD ซึ่งช่วงนี้ค่าเงิน USD กำลังแข็งอยู่เมื่อเทียบกับ Bitcoin หรือเมื่อเทียบกับค่าเงิน Thai Baht ซึ่งอ่อนลง หรือ GOLD stablecoin ก็น่าสนใจ อย่าง PAXO GOLD (PAXG) เพราะทองคำ จะกลับมาขึ้น หรือไม่ลงต่อแบบหลายเดือนที่ผ่านมาแล้ว ทองคำขณะนี้ ยืนเหนือ 1,780 $/oz ได้ แล้วกลับมาอยู่ที่ 1,850 $/oz เป้าหมายต่อไปที่ 1,900-1,925 $/oz เป็นไปได้ง่ายทิศทางไป 2,000 $/oz กลับขึ้นไปไม่ยาก เพราะเงินเฟ้อยังสูงอยู่ทั่วโลก
ด้านคุณสรัล ศิริพันโนน ซีอีโอ Satang Corporation ให้ความเห็นว่า “ตลาดจะกลับมาเมื่อไรนั้นค่อนข้างจะตอบได้ยากเพราะ FED ก็ยังคงขึ้นดอกเบี้ยอยู่ ถ้าในกลุ่มนักลงทุนที่กำลังรอซื้อควรจะรออีกหน่อยเพราะตลาดยังเป็นขาลงอีกในระยะ 2 – 3 เดือนข้างหน้าและตลาดอาจค่อนข้างลงแบบซิกแซ็ก ไม่ลงแบบทิ้งดิ่งในครั้งเดียวนักลงทุนต้องระมัดระวังให้มาก ส่วนในประเด็นของการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับการโอนคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัลจนถึงสิ้นปี 2566 ของไทยนั้นมองว่าเป็นเรื่องที่ดี น่าจะช่วยให้ประเทศมีเวลาได้ลองอะไรมากขึ้น แต่อยากเสนอว่ารัฐฯควรจะยกเว้นการเก็บภาษีจาการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่ถือครองเกิน 1 ปี เช่นในประเทศเยอรมันนี”
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด