สรุปสถานการณ์บีบคั้น Cryptocurrency ราคาร่วงต่อเนื่อง หลังรัฐบาลจีนปราบปรามจริงจัง

จากการที่ราคา Bitcoin ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในระยะที่ผ่านมา ท่ามกลางความผันผวนของตลาดที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับผู้ถือ Cryptocurrency แต่ละประเภท เป็นผลกระทบระยะยาวที่เกิดจากการที่รัฐบาลจีนสั่งห้ามไม่ให้มีการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล และสั่งแบนการขุดและขาย Cryptocurrency ในทุกกรณี  

Cryptocurrency banned

รัฐบาลจีนปราบปรามจริงจัง กดดันราคา Cryptocurrency

ราคาซื้อขายของสินทรัพย์ดิจิทัลทั้ง DogeCoin Bitcoin  และ Ethereum ลดลงมากกว่า 30% 10% และ 15% ตามลำดับ ซึ่งการลดลงของสกุลเงินดิจิทัล Ethereum นั้น ส่งผลกระทบอย่างมหาศาลกับสกุลเงินยิบย่อยที่เกิดขึ้นมาแพลตฟอร์มบล็อกเชนบน Ethereum อย่างเหรียญทางเลือก (altcoins) และยังส่งผลให้มูลค่าตลาดลงลงถึง 12% 

แท้จริงแล้ว รัฐบาลจีนได้มีการสั่งห้ามการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2013 แต่หลายคนยังคงเดินหน้าซื้อและขายต่อไปเพราะมองว่าข้อบังคับนี้ไม่มีผลบังคับใช้จริงจัง 

ซึ่งเหตุผลที่ราคาเพิ่งจะมาตกฮวบในช่วงนี้ ก็เพราะรัฐบาลจีนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการร่างข้อกฎหมายที่จริงจังมากขึ้น และเริ่มเดินหน้าแบนธุรกิจที่เกี่ยวข้อง 

อย่างการสั่งห้าม Alipay บริษัทให้บริการทางการเงินขนาดใหญ่ของจีน ไม่ให้มีการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลอย่างจริงจัง ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังการสั่งปิดเหมืองหลายแห่งในมณฑลเสฉวน โดยให้เหตุผลว่า ธุรกิจเหล่านี้เป็นธุรกรรมเงินเสมือนจริงและเป็นกิจกรรมเก็งกำไรที่ขัดขวางระเบียบของระบบเศรษฐกิจและการเงิน รวมทั้งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของการโอนสินทรัพย์ข้ามดินแดนอย่างผิดกฎหมาย ยกตัวอย่างเช่นการฟอกเงิน

เทียบหุ้นเทคยุคแรก มองเป็นความกดดันระยะสั้น

ในส่วนของเจ้าของบัญชีผู้ใช้ใน Twitter ที่มีชื่อว่า @PLK5280 ซึ่งเป็นผู้ที่ชื่นชอบในธุรกิจที่เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลมีความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจส่งผลเสียในระยะสั้นๆเท่านั้น

โดยเปรียบเทียบเหตุการณ์นี้กับกรณีของราคาหุ้นของ Google ในปี 2010 ในช่วงเวลานั้น รัฐบาลจีนสั่งแบนไม่ให้มีการใช้ในประเทศ แต่ราคาหุ้นกลับพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งพวกเขาจึงคาดว่าจะเกิดผลแบบเดียวกันจากการสั่งแบน Cryptocurrency

แต่ถึงอย่างไร ราคาซื้อขายในตลาดที่ลดลงอย่างต่อเนื่องยังคงสร้างความกังวลให้กับผู้ถือ DogeCoin ที่มีราคาปรับตัวลงเรื่อยๆ นับตั้งแต่ตอนที่ Elon Musk ออกมาเคลื่อนไหวทำให้เกิดการผันผวนของราคาสกุลเงินดิจิทัลทั้ง memecoin และ SNL อีกทั้งยังเรียก DogeCoin ว่าเป็นสกุลเงินที่มีการปั่นราคาขึ้น (hustle)  จนทำให้ราคาตกฮวบลง

อ้างอิง: CNET 



ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

จีนพัฒนา ‘Vision Heat’ เซนเซอร์มองทะลุควัน-หมอก ความละเอียด 4K ไม่ต้องใช้ความเย็น เห็นภาพความร้อนเหมือนตาของงู!

นักวิจัยจีนพัฒนาเซนเซอร์อินฟราเรด 4K แรงบันดาลใจจากตาของงู ใช้ Quantum Dots ผสาน CMOS ทำงานได้ที่อุณหภูมิห้อง เตรียมปฏิวัติกล้องสมาร์ทโฟนและรถไร้คนขับให้มองเห็นทะลุความมืดและหมอกคว...

Responsive image

เด็ก 19 สร้างนวัตกรรม ถุงมือพิมพ์งานในอากาศ จากการเรียนคอร์สออนไลน์ฟรี MIT จนคว้ารางวัล SxSW Sydney 2025

พบกับ Freesia Gaul เด็กวัย 19 ที่ย้ายโรงเรียนถึง 13 ครั้ง แต่ใช้คอร์สเรียนฟรีจาก MIT สร้างถุงมือ VR พิมพ์งานกลางอากาศจนคว้ารางวัล SxSW และเปิด Startup ได้สำเร็จ...

Responsive image

Google Labs เปิดตัว ‘CC’ AI Agent สาย Productivity เลขาส่วนตัวอัจฉริยะ สรุปงาน–ส่งเมล–นัดประชุมให้เสร็จในคลิกเดียว

Google Labs เปิดตัว ‘CC’ AI Agent ผู้ช่วยสาย Productivity ที่เชื่อม Gmail, Calendar และ Drive เข้าด้วยกัน ช่วยสรุปงาน ร่างอีเมล และจัดการนัดหมายแบบอัตโนมัติ เปลี่ยน Inbox ให้กลายเป...