Disney+ พร้อมแซงหน้า Netflix รุกขยายฐานผู้ใช้งานในเอเชียต่อเนื่อง

หลังจาก Disney+ เปิดให้ผู้ใช้งานในภูมิภาคเอเชียอย่างประเทศอินเดียได้ใช้งาน และจากจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ทาง Disney+ เตรียมที่จะขยายฐานผู้ใช้งานไปสู่ประเทศอื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิก พร้อมตั้งความหวังที่จะมีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า Netflix

Disney+ วางแผนเพิ่มจำนวนผู้เข้าใช้งานในเอเชียจากจำนวน 32 ล้านคนในปี 2020 เป็น 66 ล้านคนภายในปี 2021 นี้ ในขณะเดียวกันทาง Netflix ก็จะเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานจาก 25.5 ล้านคนเป็น 33.3 ล้านคนภายในปีนี้เช่นกัน

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม รายได้ของทาง Netflix ในภูมิภาคนี้ก็ยังคงสูงกว่าทาง Disney+ จากข้อมูลของ MPA รายงานว่า รายได้ของ Netflix ในเอเชียเพิ่มขึ้นจาก 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้วเป็น 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ ในขณะที่ Disney+ มีรายได้เพิ่มจาก 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐมาเป็น 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

เหตุผลของรายได้ที่แตกต่างกันนี้มาจากที่ทาง Disney+ นั้นต้องการจะเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานในอินเดียให้เป็น 76% จากจำนวนผู้ใช้งานทั้งหมดในเอเชีย ซึ่งราคาแต่ละเดือนของ Disney+ ในอินเดียนั้นถูกมาก ๆ จึงทำให้รายได้ที่มีเข้ามาน้อยกว่าทาง Netflix ที่ไปโฟกัสกับกลุ่มลูกค้าในญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งตอนนี้ทาง Disney+ ก็ยังไม่ได้มีการเปิดให้ผู้ใช้งานในหลาย ๆ ประเทศได้เข้าใช้งานสตรีมมิง ทั้งเกาหลีใต้ ไต้หวัน และฮ่องกงที่มี Netflix เป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงหลักอยู่ตอนนี้

สำหรับ Netflix ในภูมิภาคเอเชียแล้ว มีการคาดการณ์ว่าในปีนี้ผู้ใช้งานในประเทศญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้น และขึ้นเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ Netflix ในเอเชียแซงหน้านิวซีแลนด์และออสเตรเลีย การเพิ่มขึ้นของรายได้ของ Netflix มีส่วนหนึ่งมาจากการเพิ่มฐานการผลิตของ Netflix Originals ในประเทศต่าง ๆ ทั้งในอินเดีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น 

ในฟากของ Disney+ ก็ได้วางแผนที่จะขยายฐานผู้ใช้งานเข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานให้เป็นอันดับสองรองจากอินเดีย โดยตอนนี้ผู้ใช้งาน Disney+ มีเพียงสิงคโปร์และอินโดนีเซียเท่านั้น และสำหรับประเทศมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทยเองนั้นคาดว่าจะสามารถเข้าใช้งาน Disney+ ได้ในปี 2021 นอกจากนี้ทาง Disney+ ยังคาดการณ์การเติบโตของแพลตฟอร์มว่าจะมาจาก Disney+ Originals มาจากกีฬาคริคเก็ตที่จะฉายในอินเดียภายใต้ความร่วมมือกับ Hotstar ผู้บริการสตรีมมิงออนดีมานด์กีฬาคริคเก็ตรายใหญ่ของอินเดีย รวมไปถึงการเปิดแพลตฟอร์มในเกาหลีใต้ ไต้หวัน และฮ่องกง นอกจากนี้ยังได้เปิดตัว Disney+ Star ที่จะให้ใช้งานได้ในนิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ที่ส่งผลให้ราคารายเดือนของ Disney+ เพิ่มขึ้น

แต่มีเพียงประเทศเดียวที่เป็นตลาดแห่งใหญ่ในเอเชียที่รับชมวิดีโอสตรีมมิงออนดีมานด์มากที่สุดอย่างจีน ที่ทั้ง Disney+ และ Netflix ไม่สามารถเข้าไปในตลาดนี้ได้ ด้วยเหตุผลที่ว่าทางรัฐบาลของจีนแบนทุกแพลตฟอร์มสตรีมมิงของต่างประเทศนั่นเอง


อ้างอิง: Hollywood Reporter


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Meta เปิดตัว ‘Mango & Avocado’ AI สร้างภาพ–เขียนโค้ด กลับลำทิ้ง Metaverse หวังลุยทวงบัลลังก์ AI

Meta เปิดตัวโมเดล AI ใหม่อย่าง Mango และ Avocado เดิมพันอนาคตบริษัทด้วย AI เต็มตัว หลังถอยจาก Metaverse พร้อมสัญญาณเปลี่ยนทิศทางสู่โมเดลเชิงพาณิชย์ ท่ามกลางแรงสั่นสะเทือนภายในองค์ก...

Responsive image

50 เหตุการณ์โลกเทค ตลอด 12 เดือนที่ผ่านมาของปี 2025

ปี 2025 ไม่ใช่ปีแห่งการตื่นรู้เรื่อง AI เหมือนปี 2023-2024 อีกต่อไป แต่มันคือปีแห่งการล่องหนเทคโนโลยีแทรกซึมเข้าไปอยู่ในอากาศ ในแว่นตา ในรถยนต์ จนเราแทบแยกไม่ออกว่าเส้นแบ่งระหว่างโ...

Responsive image

พรรคประชาชนเปิดตัวเว็บไซต์ ‘Election 69’ กางนโยบายกว่า 200 ชุด วางเทคโนโลยีเป็นแกนหลัก ปั้นรัฐแพลตฟอร์ม แก้ปัญหาโครงสร้างประเทศ

พรรคประชาชน เปิดตัวเว็บไซต์นโยบายเลือกตั้ง “Election 69” อย่างเป็นทางการ รวบรวมนโยบายกว่า 200 ชุด ภายใต้วิสัยทัศน์ “ประเทศไทยอยู่แบบเดิมไม่ได้” ชูแนวคิดรัฐแพลตฟอร์ม (Platform State...